เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 618 ในที่สุดสิ่งที่รอคอยก็มาถึง
บทที่ 618 ในที่สุดสิ่งที่รอคอยก็มาถึง
ถ้าจะบอกว่าพวกรถไฟเหาะและเรือไวกิ้งเมื่อกี้นี้ยังอยู่ในขอบเขตที่จี้จิ่งเชินสามารถรับได้ล่ะก็ ทำไมม้าหมุนที่โยกไปโยกมาอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแบบเด็กๆ นี่กลับทำให้จี้จิ่งเชินหลีกหนีราวกับมันเป็นภัยร้ายแรงเสียอย่างนั้น
ดูออกถึงความต่อต้านที่อยู่ในแววตาของจี้จิ่งเชิน แค่เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงท่าทางตอนที่จี้จิ่งเชินนั่งม้าหมุนแล้วก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
จี้จิ่งเชินที่มีใบหน้าเคร่งขรึม คิ้วขมวดเป็นปมและริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง แล้วนั่งอยู่บนม้าสีชมพูด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเลยจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือแน่นอนและหันกลับไปดึงมือจี้จิ่งเชินให้เดินไปข้างหน้า
“พวกเราไปด้วยกัน” เธอเอ่ย
แต่ดูจากสายตาเธอแล้วกำลังแสดงละครอยู่ชัดๆ ทว่าจี้จิ่งเชินเองก็จนปัญญา
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอย่างดีอกดีใจ ส่วนตัวเขาที่ถูกลากนั้นกลับยิ้มขมขื่น แต่ก็ทำได้เพียงประนีประนอม
จากนั้นเวินเที๋ยนเที่ยนก็ขึ้นมานั่ง ประกายลึกลับบางอย่างวาบผ่านดวงตาของจี้จิ่งเชิน เขาไม่ยอมไปนั่งที่ม้าหมุนตัวข้างๆ แต่กลับเหยียบขึ้นไปนั่งซ้อนหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
ทั้งคู่นั่งอยู่บนม้าหมุนตัวเดียวกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปสักพัก แล้วหันกลับไปมอง
แวบแรกที่เห็นก็คือจี้จิ่งเชิน เธอรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ
“นายทำอะไรน่ะ?”
มือทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินโอบรอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ จากนั้นก็โน้มตัวลงเล็กน้อย แล้วเอาคางเกยไหล่เธอ
เขาเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆ แล้วทำตัวราวกับสุนัขพันธุ์ใหญ่
เขากักเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในอ้อมกอดของตัวเองแล้วยิ้มอย่างลำพองใจ
“เอาแบบนี้ดีกว่า”
หลังจากพูดจบ ก็ไม่ได้ตอบอะไรมาก
ม้าหมุนได้เริ่มหมุนแล้ว ส่วนเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรและเอนตัวพิงในอ้อมกอดของเขา
ม้าหมุนค่อยๆ ขยับขึ้นลงไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ตามเสียงดนตรีที่สนุกสนาน
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไม่นานนักเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เริ่มตาปรือเพราะง่วงนอน จากนั้นก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง
จี้จิ่งเชินที่โอบกอดเธออยู่ก็รู้สึกได้ถึงศีรษะของเที๋ยนเที๋ยนที่เอียงลงมาพิงกับหน้าอกของเขา รวมถึงลมหายใจที่แผ่วเบาเป็นจังหวะ เขาจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย
แล้วขยับเข้าไปใกล้ ก็เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนหลับไปตั้งนานแล้ว
เขากระชับอ้อมกอดเล็กน้อย ถือโอกาสบังลมหนาวในตอนกลางคืนให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไปด้วยโดยที่ไม่ได้ปลุกเธอ
หลังจากที่กอดเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่บนม้านั่งได้สักพัก จนกระทั่งเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนนอนหลับสนิทและแน่ใจว่าเธอคงไม่ตื่นแล้ว ในที่สุดก็ได้ลงมา
และอุ้มเธออย่างอ่อนโยนออกมาจากม้าหมุน จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกอย่างมั่นคง
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าเธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของจี้จิ่งเชินและใช้สองมือจับเสื้อเชิ้ตตรงอกเขาแน่น
มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝันถึงอะไรอยู่
แต่คงจะเป็นฝันดีแน่นๆ
เพียงแค่ก้มมองแวบเดียว หัวใจของจี้จิ่งเชินก็ค่อยๆ รู้สึกสงบขึ้นมาและก็รู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ เขาอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ตลอดกาล
ถึงแม้ว่าจะเริ่มโครงการสุดท้าย แต่งานของทีมชี้แนะก็ค่อยๆ สิ้นสุดลง
ในขณะเดียวกัน ร่างกายของคุณนายหล่อนก็ค่อยๆ กลับมาแข็งแรง
แม้ว่าจะออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ด้วยคำแนะนำของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับเวินหงไห่แล้ว หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลคุณนายหล่อนก็ยังไม่ได้กลับไปทำงานที่บริษัทหล่อนซื่อแล้วย้ายไปพักผ่อนที่บ้านพักบนภูเขากับเวินหงไห่
บ้านพักบนภูเขาหลังนี้เป็นของตระกูลหล่อน ล้อมรอบด้วยภูเขาและสายน้ำ ซึ่งมีสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
คนตระกูลหล่อนทุกคน หลังจากที่แก่มาก็จะต้องออกจากวงการธุรกิจแล้วมาพักอยู่ที่นี่ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะในการพักผ่อนร่างกาย
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินมาส่งคุณนายหล่อนกับเวินหงไห่และได้เห็นสภาพแวดล้อมของที่นี่แล้ว จึงก็กลับไป
ยังไม่ทันได้เข้าบ้าน ก็มีพ่อบ้านออกมาต้อนรับ
“คุณผู้หญิงครับ เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนมีคนส่งของมาให้ครับและระบุไว้ว่าส่งให้คุณ”
“ใครส่งมาเหรอ?”
พ่อบ้านส่ายหน้า
“ไม่ทราบครับ แต่ผมเห็นบนกล่องเขียนคำว่าฟ่านไว้หนึ่งคำ”
พอได้ยินอย่างนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หยุดก้าวเดินไปสักพักและหันกลับมา
“ฟ่าน…อาจารย์ฟ่าน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาโตแล้วอุทานออกมาอย่างตกใจ
เมื่อการตัดสินการประมูลของประชุมเอเชียแปซิฟิกจบลง อาจารย์ฟ่านเคยบอกว่าหลังจากที่เธอไปต่างประเทศแล้วก็จะให้คนส่งเอกสารมาให้ เป็นหลักฐานการทำผิดกฎหมายของเวินฉี่ในการประชุมเอเชียแปซิฟิก!
หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้น?
พอคิดแบบนี้ สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แล้วก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ก้าวเข้าไปด้านในก็ถามไปด้วย
“ของอยู่ที่ไหน?”
พ่อบ้านชะงักไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะตื่นเต้นขนาดนี้
“ของอยู่บนห้องหนังสือของคุณผู้หญิงแล้วครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบเดินขึ้นไปชั้นบนและตรงไปที่ห้องหนังสือ
เรื่องข้อตกลงระหว่างเธอกับอาจารย์ฟ่านนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้บอกให้บุคคลที่สามแต่อย่างใด แม้แต่จี้จิ่งเชินเองก็ยังไม่รู้
พอเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป จึงรีบตามขึ้นไปด้วยความกังวล
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนผลักประตูหนังสือ เธอก็เห็นว่าบนโต๊ะมีกล่องใบหนึ่งวางอยู่ทันที
กล่องนี้ดูไม่ค่อยใหญ่นัก แต่พอมองมันแวบเดียว ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปลดปล่อยความดีใจออกมา!
เธอรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วแกะกล่อง ในกล่องมีเพียงซองจดหมายเล็กๆ ฉบับหนึ่ง
หลังจากเปิดออกก็พบว่าด้านในมีข้อมูลที่ถูกจดบันทึกไว้อย่างถี่ยิบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพลิกเปิดดูอย่างรีบร้อน ยิ่งดูก็ยิ่งตื่นเต้น ดวงตาก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
และในเวลานี้เองจี้จิ่งเชินก็เดินตามเธอขึ้นมา
“นั่นอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอปิดบังความดีใจไว้ไม่มิด
“วันที่คุณนายหล่อนพักอยู่ที่โรงพยาบาลวันนั้น อาจารย์ฟ่านมาหาฉันไม่ใช่เหรอ?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้พูดต่อ: “ตอนนั้นเธอสัญญากับฉันว่าหลังจากไปต่างประเทศแล้วเธอจะมอบหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการทำกฎหมายของตระกูลเวินให้ฉัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและจริงจังมาก ก่อนจะหันไปมองกล่องบนโต๊ะ
“นี่น่ะเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแล้วส่งข้อมูลในมือให้เขา
พร้อมเอ่ย: “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะสามารถเก็บหลักฐานไว้ได้มากมายขนาดนี้ ขอแค่มีสิ่งนี้ เวินฉี่จะต้องจบเห่แน่!”
จี้จิ่งเชินรับมาแล้วตรวจดูอย่างละเอียด
ยิ่งมองลงไป คิ้วก็ยิ่งขมวดเป็นปม
ข้างบนเป็นบันทึกหลักฐานการสมรู้ร่วมคิดของเวินฉี่กับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในระหว่างการประชุมธุรกิจเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้ คนที่สำคัญที่สุดคือคนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นตอนการประมูลครั้งสุดท้ายและเปลี่ยนกฎการประมูลโดยพลการคนนั้น
เป็นหลักฐานที่ชัดเจนและไม่สามารถโต้แย้งได้เลย
หากสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง ขอแค่ประกาศออกไป เวินฉี่จะดิ้นอย่างไรก็คงดิ้นไม่หลุด
แต่จู่ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย หลังจากการประมูลครั้งสุดท้ายวันนั้น คุณนายหล่อนเคยบอกกับเธอไว้
ปัจจุบันอำนาจทั้งสามในเมืองหลวงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเวินก็ยังมีตำแหน่งที่สำคัญมากในทางการเมือง
ถ้าจู่ๆ ตระกูลเวินล้มลงอย่างกะทันหัน มันอาจผลกระทบที่กระจายไปทั่วประเทศ
ดังนั้นถึงแม้จะมีคนรู้ว่าเขาทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่เพื่อเห็นแก่ส่วนรวมคงไม่สามารถเล่นงานเขาได้ง่ายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เวินฉี่ใกล้จะเกษียณอายุแล้ว ในตอนนี้ยังจะมีใครตั้งใจตรวจสอบหลักฐานของพวกเขาเป็นพิเศษอยู่อีกเหรอ?
แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็แค่ฟังความเหยียนเจิ้งข้างเดียวและยังไม่เห็นเอกสารที่เกี่ยวข้องหรือคำอธิบายของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จึงทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกลังเล
“ควรแจ้งคุณตำรวจเหยียนไหม?”