เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 623 เลิกจ้าง
บทที่ 623 เลิกจ้าง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหลียงจี้อานทำแบบนี้ เมื่อก่อนแค่ได้งานมาอยู่ในมือ เขาก็จะไปจ้างบริษัทด้านนอกทำให้
รอจนหลังจากจบเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำมาเป็นผลงานของตนเอง
ที่ผ่านมาก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน แล้วนึกไม่ถึงว่าทางนั้นจะโทรมาพอดี
“ท่านประธานเวิน ผม……”
เขาไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย เพราะเรื่องทั้งหมดนี้มันคือความจริง
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นมาขัดจังหวะเขาพูด
“คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว ผู้จัดการเหลียง เริ่มตั้งแต่ตอนนี้คุณออกจากโปรเจคงานนี้ได้เลย”
พูดจบ เธอหันตัวจะเดินออกไปทางด้านนอก
โปรเจคงานนี้มีความสำคัญมากสำหรับตระกูลหล่อน แต่ถูกเหลียงจี้อานเผยแพร่ออกไปง่ายๆแบบนี้ รับประกันยากว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลออกไป
ถ้าถูกบริษัทอื่นรู้เข้าล่ะก็ งานทุกอย่างหลังจากนั้นต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนยังมีงานอื่นเยอะแยะมากมายต้องไปทำให้เสร็จ
แต่ว่าเธอเพิ่งเดินได้สองก้าว เหลียงจี้อานก็รีบร้อนวิ่งมาขวางอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ท่านประธานเวินครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้จริงๆ ผมก็แค่ผีบังตาหลงผิดไปชั่วขณะเท่านั้น…..”
“เป็นเพราะผีบังตา หรือทำทั้งๆที่รู้ว่าผิด?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้นมานิดๆ บนตัวเต็มไปด้วยบารมีของจี้จิ่งเชิน: “คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว ช่วงนี้คุณไม่ต้องมาทำงานที่บริษัทอีก ฉันจะให้คนตรวจสอบงานทั้งหมดที่เคยผ่านมือของคุณ ดูซิว่าจะค้นเจองานที่คุณจ้างข้างนอกทำมีทั้งหมดประมาณกี่งาน”
คำพูดนี้ ไม่ต่างจากปลดเหลียงจี้อานออกจากตำแหน่งงานโดยตรง!
สีหน้าของเขาซีดเซียว ไม่มีสีเลือดเหลือเลยสักนิด ทั้งตัวเซเอียงไปข้างหนึ่ง เกือบจะล้มนั่งลงกับพื้น
ผ่านไปสักพัก เหลียงจี้อานค่อยหายใจลึกๆหนึ่งที
แต่ว่าทันทีทันใด เขาเหมือนหาที่พึ่งอะไรได้สักอย่าง
“ท่านประธานเวิน เห็นแก่ที่เราเป็นญาติกันหล่อนเจียนี คุณยังจำได้ไหม?”
“ก่อนหน้านั้นเราเคยเจอหน้ากัน เธอคือลูกพี่ลูกน้องกับคุณ ผมก็คือสามีของเธอ เราก็คือคนตระกูลหล่อนนะ”
เขาคิดลองใช้คนตระกูลหล่อนมาร้องขอ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่สนใจใดๆเลย
“ก็เพราะเป็นคนตระกูลหล่อน ถึงต้องทำโทษให้หนัก ฉันไม่รู้ว่าคุณก้าวขึ้นมาทีละก้าวจนมาถึงตำแหน่งนี้ได้อย่างไร แต่ว่าสถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่มีทางจะอยู่เฉยๆได้หรอก”
ถึงแม้จะเอาฐานะคนตระกูลเวินออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ไหวหวั่นสักนิดเดียว สีหน้าของเหลียงจี้อานรู้สึกผิดหวัง
เขากัดฟันไว้แน่นๆ ไหนๆก็โดนจับผิดแล้วก็สู้หัวชนฝาไปเลย
“คุณจะไม่ไว้หน้าผมสักนิดเลยเหรอครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไร แต่เดินออกไปด้านนอกโดยตรง
เพิ่งออกจากประตูไป ก็เห็นพนักงานของแผนกต่างหยุดชะงักกันหมด เหมือนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากด้านในเมื่อสักครู่นี้ กำลังพร้อมใจกันมองหน้ามาทางประตูพอดี
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองกวาดไป ไม่สนใจแววตาของทุกคน แต่เดินตรงออกไปเลย
กลับไปถึงห้องสำนักงานของท่านประธาน ยังไม่ทันนั่งลง ก็รีบเรียกตัวผู้จัดการหยางมาทันที แจ้งเขาว่าให้ถอดถอนตำแหน่งผู้จัดการของเหลียงจี้อานและเริ่มตรวจสอบงานที่เคยผ่านมือของเขาก่อนหน้านั้นทั้งหมด
ผู้จัดการหยางได้ยินการตัดสินใจของเธอ แล้วขมวดคิ้ว ไม่ขยับ แต่กลับลังเลใจ
“คุณเวินครับ คุณจะตรวจสอบเหลียงจี้อานจริงๆเหรอครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังก้มหน้าเซ็นเอกสารในมืออยู่ ฟังน้ำเสียงที่กังวลใจของเขาออก เงยหน้าแล้วหันไปมองเขา
“ใช่ มีอะไรที่ไม่ถูกต้องเหรอ?”
“อืม……”
ผู้จัดการหยางกำลังคิดอยู่ เงียบไปสักพัก สุดท้ายก็เอ่ยปากพูด: “นอกเหนือจากคุณนายหล่อนแล้ว พ่อตาของเหลียงจี้อานเป็นคนที่ถือหุ้นส่วนมากที่สุดของบริษัท…..”
“แล้วยังไง?” เวินเที๋ยนเที๋ยนกล่าว
ผู้จัดการหยางถอนหายใจในใจและแอบคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนยังอายุน้อยเกินไป
พูดด้วยน้ำเสียงของคนเคยผ่านประสบการณ์มาเยอะ: “หุ้นส่วนพวกนั้นไม่ใช่คนธรรมดา โดยเฉพาะหล่อนเจี้ยนกั๋ว พ่อตาของเหลียงจี้อาน เขามีลูกสาวเพียงคนเดียวหล่อนเจียนี เขารักลูกสาวมาก ลูกเขยที่เลือกมาอย่างดีที่สุด ท่านก็รักและเอ็นดูเขาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นทำไมเหลียงจี้อานเพิ่งแต่งงานได้เพียงสองปีก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาถึงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้จักผู้จัดการที่มีตำแหน่งสูงอยู่ในเครือธุรกิจของตระกูลหล่อน ส่วนมากจะเป็นคนในตระกูลหล่อน แต่เธอนึกว่าคนพวกนี้อย่างน้อยก็มีความสามารถบางอย่างบ้าง
แต่นึกไม่ถึง แค่เหลียงจี้อานคนเดียว ก็สามารถเป็นถึงผู้จัดการใหญ่
แล้วคนที่เหลือล่ะ?
แล้วคนที่พึ่งความสัมพันธ์ความเป็นญาติเข้าบริษัทจะมีกี่คน?
มองดูสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆเคร่งเครียดขึ้น การตัดสินใจก็ยิ่งแน่วแน่ ผู้จัดการหยางพอจะเดาออกแล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ก็ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี
เรื่องที่เขาบอกกับเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนแรก ก็เพื่ออยากจะให้เธอล้มเลิกความตั้งใจ แต่นึกไม่ถึงจะได้รับผลที่ตรงกันข้าม
ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เป็นท่านประธานบริษัทตระกูลหล่อน ก็มีคนส่วนมากที่ไม่พอใจอยู่แล้ว
กรรมการท่านอื่นๆวันๆคอยจ้องเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอดเวลา คิดหาวิธีเป็นร้อยเป็นพันเพื่อจะหาข้อผิดพลาดในตัวของเธอ จะได้ดึงตัวเธอให้พ้นจากตำแหน่งประธานบริษัทให้ได้
ถ้าในเวลานี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนยั่วโมโหคณะกรรมการที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ เธอต้องแย่แน่ๆ
ผู้จัดการหยาง คิดแล้วยิ่งรู้สึกร้อนใจ
“คุณเวิน เรื่องนี้คุณควรจะพิจารณาดีๆอีกครั้งนะ”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ตัดสินใจแล้ว ยกมือขัดคำพูดของเขาทันที
“ไม่ต้องพิจารณาแล้ว คุณทำตามคำสั่งก็พอ ถ้าพวกเขามีอะไรไม่พอใจ สามารถมาหาฉันโดยตรงได้เลย”
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ท่าจะแข็งใจมาก ผู้จัดการหยางพูดถึงครึ่งหนึ่ง ได้แต่กลืนกลับ ขมวดคิ้วขึ้นแน่นกว่าเดิมอีก
มองเธออย่างกังวลใจสักพัก สุดท้ายก็แค่ถอนหายใจอีกครั้ง
ตอนบ่ายใจวันนั้น ข่าวที่เหลียงจี้อานถูกปลดออกจากตำแหน่ง ทุกคนในบริษัทได้ทราบกันทั่วแล้ว
ได้ยินตำแหน่งผู้จัดการของเหลียงจี้อานถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนปลดออกด้วยตนเอง ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ก็จะถูกเปลี่ยนใหม่ ทุกคนต่างกระวนกระวายใจกันหมด
ความสามารถของเหลียงจี้อานทุกคนต่างทราบกันดี ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีพ่อตาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ทางเดินของเขาจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีตลอดทางได้ยังไง? วันๆได้แต่เบ่งอำนาจบารมีในบริษัท?
ตอนนี้ถูกไล่ออกแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกสะใจ
แต่คำพูดเหล่านี้พวกเขาได้แต่กล้าพูดอยู่ในใจตนเองเท่านั้น ถึงแม้เหลียงจี้อานจะไปแล้ว ยังมีหล่อนเจี้ยนกั๋วอยู่อีกคน
แต่หลายๆคนต่างเริ่มเป็นห่วงเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา
คนที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ๆมักจะอารมณ์ร้อน เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งเข้ามา คำสั่งแรกก็คือปลดเหลียงจี้อานออก เหมือนดั่งถอนฟันในปากเสือ หล่อนเจี้ยนกั๋วจะทนได้อย่างไร?
ส่วนอีกฝ่ายนั้น ตอนแรกเหลียงจี้อานยังคิดว่าโชคดี รู้สึกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก็แค่อยากจะข่มขู่เขาเท่านั้น
แต่นึกไม่ถึงตนเองจะถูกไล่ออกจริงๆ เหลียงจี้อานมองดูประกาศของฝ่ายบุคลากรในอีเมล โกรธจนกัดฟันแน่น
ออกจากบริษัทด้วยความเร่งรีบและดูโทรมซานต่อหน้าคนทั้งหลาย กลับไปที่บ้านของตนเอง สีหน้าก็ยังไม่น่าดู
หล่อนเจียนีที่กำลังดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกเห็นเขากลับมา ก็รู้สึกแปลกใจ
“ทำไมคุณกลับมาตอนนี้ล่ะ? ไม่ต้องทำงานเหรอ?”
เหลียงจี้อานเต็มไปด้วยความโมโหอยู่แล้ว ในตอนนี้ก็มาเห็นหล่อนเจียนีที่กำลังแคะเมล็ดทานตะวันอยู่บนโซฟา ไฟแห่งความโมโหก็พุ่งออกมาจากกลางใจ
“นี่มันตอนไหนแล้ว คุณยังมีใจมานั่งกินอะไรอยู่ตรงนี้ คุณรู้ไหมเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เป็นประธานบริษัท กำลังจะคลานขึ้นมาบนหัวของบ้านเราแล้ว? เพิ่งจะมารับตำแหน่งใหม่ก็ไล่ผมออกจากบริษัท!”