เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 643 เอาตัวเธอออกไป
บทที่ 643 เอาตัวเธอออกไป
“พ่อของคุณเป็นถึงกรรมการบริษัท ช่วงนี้ก็กำลังติดต่อกับทีมตรวจสอบอยู่ด้วย เรื่องนี้เขาคงจะรู้ดีมากกว่าคุณนะคะ”
ได้ยินแล้วนั้น หล่อนเจียนีจึงกัดฟันด้วยความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาในทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า มีท่าทางที่สงบนิ่งและสุขุมยิ่งนัก แต่จากที่เธอเคยเห็นจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนในความทรงจำของเธอนั้นเป็นคนอ่อนแอและขี้ขลาด กับท่าทางในตอนนี้นั้นแตกต่างราวกับเป็นคนละคน
รับรู้ได้ถึงความแตกต่างนี้แล้วนั้น หล่อนเจียนีก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยากขึ้นมาในทันที
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องแพ้!
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น หล่อนเจียนีกัดฟันด้วยความเกลียดชังแล้วนั่งลงบนพื้นไม่ขยับ
“ถึงอย่างไรวันนี้ถ้าพวกเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันก็จะนั่งอยู่ตรงนี้แหละจะไม่ไปไหนทั้งนั้น! พวกเธอจะถ่ายทำกันได้อย่างไร!”
ไม่คาดคิดว่าหล่อนเจียนีจะมีกิริยาท่าทางเหมือนกับผู้หญิงปากร้ายทั่วๆไปที่ทำให้ทุกคนตกใจเช่นนี้ อาการที่แสดงออกบนใบหน้านั้นรู้สึกซับซ้อนกันยิ่งนัก
จะว่าไปแล้วถึงอย่างไรคนตรงหน้านี้ก็เป็นบุคคลหนึ่งของตระกูลหล่อน บิดาเป็นถึงกรรมการบริษัทของตระกูลหล่อน มีทรัพย์สินมหาศาล มีหน้ามีตาทั้งในวงการบันเทิงและวงการธุรกิจ คนจำนวนไม่น้อยที่คอยจับตามองความเคลื่อนไหวของพวกเขา
ในฐานะที่เป็นคุณหนูคนหนึ่งแบบนี้ ไม่คิดว่าจะกล้าทำอะไรที่น่าตกตะลึงต่อหน้าคนมากขนาดนี้
สีหน้าของทุกคนนั้นดูแย่ขึ้นมา หรือแม้กระทั่งบางคนที่พากันยิ้มเยาะขึ้นมาด้วยเช่นกัน
แต่หล่อนเจียนีไม่ได้แคร์ความคิดเห็นที่คนอื่นมีต่อเธออยู่แล้ว เธอนั่งลงบนพื้น ถอดแม้กระทั่งรองเท้าส้นสูง แสดงท่าทางเฉกเช่นพวกที่ไม่มีอะไรทำ จะทำอย่างไรก็ไม่ยอมออกไปด้วยเช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว รู้สึกกลัดกลุ้มใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีวิธีอื่น จึงหันไปพยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นการส่งสัญญาณให้กับบอร์ดี้การ์ด
“พาตัวเธอออกไป”
บอร์ดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามา และจะดึงตัวหล่อนเจียนีที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
“ออกไป! ดูซิว่าใครจะกล้าแตะต้องตัวฉัน?”
หล่อนเจียนีร้องเสียงแหลมขึ้นมา “ใครกล้าแตะต้องตัวฉันแม้แต่นิดเดียว เชื่อไหมว่าฉันจะให้พวกเธอต้องได้รับกับผลที่จะตามมาแน่ๆ?”
เธอขู่ด้วยน้ำเสียงที่แสบแก้วหู บอร์ดี้การ์ดสองคนนั้นนึกถึงท่านกรรมการหล่อนที่อยู่เบื้องหลังเธอแล้ว จึงลังเลขึ้นมาอีกครั้ง ไม่กล้าเข้าไป
เห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว จึงนั่งอยู่ตรงที่เดิมด้วยความภาคภูมิใจ
“ดูซิว่าตอนนี้พวกเธอจะถ่ายทำกันต่อได้อย่างไร!”
หล่อนเจียนีก่อกวน และมีท่าทางว่าจะนั่งอยู่ตรงนั้นตลอดทั้งวัน
หลายๆคนหมดปัญญากับเธอแล้ว จึงเดินไปข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนพลางเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง : “คุณเวินครับ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”
ตรงตำแหน่งที่ หล่อนเจียนีนั่งอยู่นั้นเป็นตรงกลางพอดี อุปกรณ์ในการถ่ายทำนั้นวางอยู่ตรงนั้น ถ้าหากเธอไม่ออกไป ฉากต่อไปนั้นก็ไม่สามารถถ่ายทำต่อไปได้ การเตรียมการก่อนหน้านี้ทั้งหมดนับว่าเป็นการต้องยกเลิกไป
แต่การเผชิญหน้ากับหล่อนเจียนีที่เย่อหยิ่ง ทุกคนกลับทำอะไรเธอไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“เปลี่ยนสถานที่ใหม่ แล้วถ่ายจากอีกมุมหนึ่งแทน”
“แล้วทางผู้กำกับเฉิน…..”
“ทางผู้กำกับเดี๋ยวฉันกลับไปคุยเอง”
ผู้ช่วยถึงได้พยักหน้าลง แล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็ว สั่งให้คนอื่นๆจัดสถานที่ถ่ายทำกันใหม่
ทางทีมงานไม่กี่คนเหล่านั้นจึงทำได้เพียงกดความไม่พอใจเอาไว้ แล้วเริ่มเตรียมสถานที่ถ่ายทำกันใหม่อีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังหล่อนเจียนีที่ยังนั่งอยู่ตรงพื้น ทางฝ่ายนั้นไม่ได้สนใจสภาพของตัวเองในเวลานี้เลย มุ่งความคิดแต่ที่ว่าจะทำให้การถ่ายทำหยุดชะงักไปชั่วคราวให้ได้เสียอย่างนั้น
“ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ที่นี่ตลอด การถ่ายทำของพวกเราก็จะไม่หยุดหรอกนะคะ การแข่งขันครั้งนี้ ฉันจะต้องชนะอย่างแน่นอน!”
“ฝันไปเถอะ!”
หล่อนเจียนีร้องเสียงแหลมขึ้น ยกมือขึ้นจะจับตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่เธอกลับหลบได้เสียก่อน
สถานที่ถ่ายทำที่ใหม่นั้นได้จัดสร้างขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่นานนักแสดงก็เข้าสู่ในโหมดการแสดงอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ จู่ๆเสียงร้องหนึ่งก็ดังขึ้นมา!
คนที่กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำนั้นคงจะตกใจกันทั้งหมด รีบหันไปดูทันที
เห็นเพียงแต่หล่อนเจียนีที่นั่งอยู่ตรงพื้นเมื่อครู่นี้จู่ๆก็กระโดดขึ้นมา โดยไม่สนใจสายตาตกตะลึงของผู้คน พุ่งตรงเข้ามาขวางนักแสดงสองคนที่กำลังถ่ายทำอยู่เอาไว้ ขัดขวางความคืบหน้าของการถ่ายทำนี้
มองดูความพยายามในการถ่ายทำที่สูญเปล่าไปนั้น ผู้กำกับเฉินชุนก็โมโหจนเขวี้ยงบทลงบนโต๊ะทันที
“คุณทำอะไรเนี่ย? ยังยืนอึ้งอะไรกันอยู่อีก? รีบเอาตัวเธอออกไปให้ผมเดี๋ยวนี้เลย แล้วอย่าให้เธอเข้ามาอีก!”
เขาโกรธจัด แต่ติดอยู่ตรงสถานะของหล่อนเจียนี กลับไม่มีใครกล้าเข้าไป
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆกลัวว่านิสัยตรงไปตรงมาของเฉินชุนจะโมโหหล่อนเจียนีและกรรมการหล่อนคนที่อยู่เบื้องหลังเสียก่อน จึงเสนอแนะเบาๆ : “ผู้กำกับ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราถ่ายฉากอื่นก่อนสิครับ”
เขาพูดจูงใจผู้กำกับถึงได้ยินยอมในที่สุด ทุกคนเริ่มย้ายสถานที่ไปอีกที่หนึ่งเพื่อเริ่มบันทึกการถ่ายทำ
แต่คิดไม่ถึงว่า หล่อนเจียนีจะยังไม่ยอมง่ายๆ ยังคงวนเวียนติดตามไปด้วยเสียอย่างนั้น
เพียงแค่พวกเขาถ่ายทำไปได้ครึ่งหนึ่ง และตอนที่ใกล้จะสิ้นสุดนั้น หล่อนเจียนีก็จะปรากฏตัวขึ้นมาในทันใด เพื่อก่อกวนการถ่ายทำทั้งหมด ทำให้ทุกอย่างที่เตรียมไว้ล้มเหลวลงทั้งๆที่เกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว
หลังจากที่ลองสองสามครั้งแล้วนั้น ผู้กำกับเฉินชุนนั้นก็รู้สึกโมโหอย่างถึงที่สุดแล้ว ร้องเสียงดังขึ้นมาให้เอาตัวหล่อนเจียนีออกไปให้ได้ แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะกล้าลงมือ
เขาทุบข้าวของที่อยู่บนโต๊ะด้วยความโมโห แล้วทิ้งเอาไว้ประโยคหนึ่งก่อนจะหมุนตัวกลับออกไป
“ถ้าหากไม่จัดการเธอซะ ก็อย่าคิดที่จะถ่ายต่ออีกเลยแม้แต่วันเดียว!”
หล่อนเจียนีนั่งอยู่ในกองถ่ายอย่างภาคภูมิใจ ที่ไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเธอ ติดตามกองถ่ายต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
เพียงแค่เริ่มการถ่ายทำ ก็จะเข้าไปก่อกวน ความคืบหน้าของการถ่ายทำนั้นล่าช้าไปมาก ทั้งกองถ่ายนั้นรู้สึกรำคาญเธอยิ่งนัก
เวินเที๋ยนเที๋ยนยุ่งจัดการเรื่องพลาดๆของที่บริษัทแล้วนั้น ตอนที่รีบมายังกองถ่ายก็พบว่าหล่อนเจียนียังอยู่ที่กองถ่ายเช่นเดิม
จากผลกระทบของเธอนั้นส่งผลให้การถ่ายทำไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย
ทั้งหมดที่เป็นแบบนี้ก็เพราะหล่อนเจียนี ส่วนเธอนั้นกลับดูภาคภูมิใจยิ่งนัก แม้กระทั่งยังพาผู้ช่วยสองสามคนมาช่วยทำให้เธอมีของว่างเอาไว้ดื่มกินอีกด้วย
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาในกองถ่ายนั้น ทางทีมงานสองสามคนก็เข้ามาบ่นกับเธอ
“คุณเวิน จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะครับ”
“หล่อนเจียนีทำเกินไปแล้วจริง ผู้กำกับเฉินโมโหเธอไปตั้งหลายวันแล้ว”
“ใช่ ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงจะไม่สามารถปิดกล้องตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ได้แน่ๆ ถ้าหากเกินเวลา…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้น เพื่อให้พวกเขาหยุดก่อน
“ฉันจะไปคุยกับเธอเอง”
หล่อนเจียนีกำลังนั่งอยู่ใต้ร่มกันแดด ใส่แว่นตาดำ แล้วกำลังดื่มน้ำผลไม้ที่ผู้ช่วยส่งมาให้
“คุณจะอยู่ที่กองถ่ายไปถึงเมื่อไหร่คะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หน้าเธอ พลางก้มลงมองเธอ
หล่อนเจียนีถอดแว่นตาลง ดวงตาเหลือบมองขึ้นไป
“อยู่จนกว่าฉันจะพอใจ ใครกำหนดไว้ว่าฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างนั้นหรือ?”
เผชิญหน้ากับคนแบบนี้ ไม่สามารถจะพูดคุยถึงเรื่องเหตุผลกับเธอได้อยู่แล้ว
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกหนักอึ้ง พลางหันไปสั่งทางด้านหลัง
“เอาตัวเธอออกไป เกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันรับผิดชอบเอง”
ทีมงานสามสี่คนที่อยู่ทางด้านหลังที่รู้สึกไม่พอใจหล่อนเจียนีตั้งแต่ช่วงสองสามวันมานี้ ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนให้สัญญาณแล้ว แต่ละคนจึงรีบตั้งท่าจะเดินเข้าไปทันที
หล่อนเจียนีเห็นว่าพวกเขาจะลงมือจริงๆแล้ว จึงกระโดดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ
“ดูซิว่าเธอใครจะกล้าลงมือ? ถ้าหากกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายผมล่ะก็ พ่อฉันไม่ปล่อยพวกเธอไว้แน่!”
ประโยคนี้ในช่วงสองสามวันมานี้เธอเอ่ยพูดออกมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ก่อนหน้านี้ทุกคนอาจจะถูกขู่แบบนั้น แต่ตอนนี้ได้ยินแล้ว รู้สึกเพียงแค่รำคาญเท่านั้น
สองสามคนนั้นดึงเธอขึ้นมาด้วยความรำคาญ แล้วเดินออกไปทางด้านนอก โดยไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่นิดเดียว