เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 670 ไม่มีที่นั่ง ตั้งใจยั่วยุ
บทที่ 670 ไม่มีที่นั่ง ตั้งใจยั่วยุ
ตอนแรกมีเพียงไม่กี่คน แต่ต่อมาก็ยิ่งมีคนมาถ่ายรูปมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาที่ประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็นบอกเวินเที๋ยนเที๋ยนว่าพวกเขากำลังอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเสื้อผ้าของพวกเธอ
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงระเรื่อ ตอนนี้เธอถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของพวกเขา
ยังจะบอกอีกว่าผู้คนจะไม่ให้ความสนใจเธอถ้าแต่งตัวแบบนี้ นี่เห็นชัดๆ ว่ามันไปดึงดูดความสนใจของทุกคน!
เธอกัดฟันทันที รอกลับไป เธอจะต้องหาจี้จิ่งเชินเพื่อชำระบัญชี!
มีเสียงชัตเตอร์ดังอย่างต่อเนื่อง จนเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องสูดลมหายใจ
ช่างเถอะ ยังไงก็ถูกถ่ายไปแล้ว
เดิมทีเธอมาที่นี่เพราะเรื่องหนัง ภาพลักษณ์ของตนเองกับหนักหากเทียบกัน เธอหวังว่าผู้คนจะให้ความสนใจกับหนังเรื่อง“แสงจางๆ”มากขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ผ่อนคลายและเดินเข้าไปข้างใน
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่รู้ตัว ว่าการที่เธอตัดสินใจเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญนั้น ทำให้ตัวของเธอดูมั่นใจและเปล่งประกายออกมายิ่งกว่าเดิม
เสื้อกันลมสีขาวตัวยาวทำให้รูปร่างของเธอดูสูงและสง่างามมากขึ้น ท่าทางในการเดินของเธอเป็นไปอย่างไม่รีบร้อน และยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อทักทายนักข่าวหลายคนที่กำลังถ่ายรูปตนเอง
ฉากนี้ ยังคงอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป
ไฮโซตัวจริงจะฝักลึกอยู่ในกระดูก อีกทั้งยังไม่ดูขัดลูกตาอย่างเช่นคนอื่นๆ
วันรุ่งขึ้น ถ่ายภาพนี้ก็กลายเป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง และสไตล์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมของประเทศ
เมื่อเข้ามาในสถานที่จัดงาน ด้านในที่มีดาราและพนักงานครึ่งหนึ่งนั่งอยู่ในนั้นแล้ว เหลือเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนพิธีมอบรางวัลจะเริ่มอย่างเป็นทางการ
เวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอมองหาตำแหน่งของตัวเองอย่างรวดเร็วพร้อมที่จะนั่งลง
แต่เมื่อมองหาไปรอบๆ เธอกลับหาไม่เจอ
เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ กลับได้รับแจ้งว่า ไม่มีที่นั่งสำหรับทั้งสามคนในงานนี้
“เป็นไปได้ยังไง? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วและยื่นจดหมายเชิญในมือของเธอออกไป
“พวกเราได้รับจดหมายเชิญให้มาที่นี่ ดังนั้นที่นั่งก็สมควรถูกเตรียมเอาไว้แล้ว ทำไมถึงไม่มี?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเธอ เจ้าหน้าที่ก็ส่ายหัวและขอโทษ “ขออภัย บางทีอาจเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่คนอื่น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “อย่างนี้ คุณสามารถเพิ่มที่นั่งของพวกเราได้ไหม”
“ไม่ได้”
พนักงานตอบกลับโดยไม่คิด “ตำแหน่งของเราออกแบบอย่างพิถีพิถัน พวกคุณอาจไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ แม้แต่หมินอันเกอที่มีอารมณ์ดีมาตลอดก็แสดงออกว่าไม่พอใจ
พวกเขาได้รับจดหมายเชิญมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว อีกทั้งยังมาเพราะพิธีมอบรางวัล แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่ได้เตรียมที่นั่งให้กับพวกตน หรือว่านี่จะเป็นเจตนา?
แม้แต่เขา ก็ทนความอัปยศอดสูแบบนี้ไม่ได้!
ผู้กำกับเฉินชุนที่อยู่ด้านหนึ่งแต่เดิมก็อารมณ์ร้อนอยู่แล้ว พอได้ยินเข้าก็เลือดขึ้นหน้า
“เชิญพวกเรามารับรางวัล แต่กลับไม่จัดที่นั่งให้ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเทศกาลเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่จะกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะมาเข้าร่วมให้มันได้อะไรกัน!”
“ถ้าไม่ใช่เพื่อเที๋ยนเที๋ยน ฉันก็ไม่อยากมาที่นี่หรอก! ”
เขาบ่นอย่างไม่พอใจ จนดาราหลายคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาหันกลับมา
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคน คนเหล่านั้นก็ไม่พอใจขึ้นมา และเริ่มซุบซิบนินทา
“นี่คือเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ไม่ใช่สถานที่ที่ใครก็มาได้ ฉันคิดว่าทุกคนที่เข้ามาได้จะเป็นคนมีการศึกษามารยาท คิดไม่ถึงเลยว่ามาแล้วจะได้ยินคำพูดเย่อหยิ่งแบบนี้”
“ใช่ ตอนนี้เทศกาลเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ใครจะมาก็ได้แล้วหรือ? การประกาศรางวัลยังไม่ทันเริ่ม ก็พูดอย่างมั่นใจว่าจะได้รับรางวัล” ”
“แม้กระทั่งพวกเรายังไม่กล้าเอ่ยปากแบบนี้ เห็นทีคนพวกนี้คงคิดว่าตัวเองดังแล้วจริงๆ แค่ถ่ายหนังเรื่องเดียว ก็ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการแล้วหรือไง?”
“คนชมเข้าหน่อยก็เริ่มเหลิง จะได้สองพันล้านจริงๆ รึเปล่าก็ไม่แน่หรอกตอนนี้มีคนหลอกลวงบ็อกซ์ออฟฟิศมากมายถมเถไป”
“นั่นสิ นั่นสิ”
ทั้งสองคนเอ่ยกระทบกระทั่ง แต่ละคำล้วนเพื่อทำร้ายจิตใจคนทั้งสาม
พูดจบ ก็เริ่มหัวเราะอย่างสะใจ
สีหน้าของเฉินชุนและ หมินอันเกอดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฉินชุนหันหน้าไปและเตรียมจะด่า แต่กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนห้ามเอาไว้และส่ายหัวใส่เขา
เนื่องจากพวกเขาไม่มีที่นั่ง จึงได้แต่ยืนเคว้งคว้างอยู่ตรงกลาง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย
ถ้ายังทะเลาะกันอีก คงมีข่าวด้านลบตามมาอีกเยอะแน่
อย่าลืมว่า แม้กระทั่งในโถงก็ยังมีผู้สื่อข่าวบางคนที่กำลังจับตามองพวกเขาอยู่ ขอแค่จับกระแสได้แค่เล็กน้อย พวกเขาก็จะเผยแพร่ต่อสาธารณะให้เป็นเรื่องใหญ่แน่
เฉินชุนยังคงไม่พอใจ แต่ก็ยอมก้าวออกมาด้วยท่าทางไม่ยินยอม
เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ไม่ใช่คนที่จะทำตัวหูทวนลมได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเลือดเนื้อของพวกเขา เธอไม่อาจยอมรับการใส่ร้ายดังกล่าวได้
เธอก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และหยุดลงหน้าคนทั้งสอง จากนั้นจึงกวาดตามองดูป้ายชื่อบนที่นั่งของพวกเขา
หลิ่วอ้าน เฉินอาน
เมื่อกี้เธอยังคิดว่าคนทั้งคู่เป็นใคร แต่เมื่อเห็นชื่อเข้าก็นึกขึ้นได้
ตอนที่เรื่อง“แสงจางๆ”ออกฉายและได้รับความนิยมอย่างยิ่ง มีบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งที่เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ขึ้นมาเช่นกัน ทั้งคู่เป็นนักแสดงหนังคอมเมดี้ที่เข้าฉายในเวลาเดียวกัน และบังเอิญเข้าชนกับหนังของเวินเที๋ยนเที๋ยน
อย่างไรก็ตามหลังจากการออกฉายไปหนึ่งเดือน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีรายได้เพียง 90 ล้านบ็อกซ์ออฟฟิศเท่านั้น และไม่สามารถทำลายสถิติ 100 ล้านได้
เนื่องจากรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศไม่ดี โรงภาพยนตร์หลายแห่งจึงลังเลที่จะเล่นหนังตลกเรื่องนี้ต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องออกจากโรงก่อนเวลาและเริ่มหันมาฉายเรื่อง“แสงจางๆ”แทน
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่พอใจมากยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะพูดจาเหยียดหยาม
แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ใช่คนชอบโอ้อวด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมถูกคนอื่นรังแกได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์ที่พวกเขาพยายามทำให้มัวหมองนี้เป็นผลมาจากความพยายามด้วยหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของทีมงานทั้งหมด
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเธอและมองไปที่ที่นั่งของทั้งสองคนในเวลานี้ จากนั้นก็เข้าใจในทันที
มีคนสองประเภทที่สามารถมาร่วมพิธีมอบรางวัลได้ หนึ่งคือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามารับรางวัล อีกหนึ่งคือพวกเขาได้รับการส่งเสริมโดยผู้สนับสนุน แม้ว่าจะไม่มีผลงานโดดเด่น แต่ก็ได้โควตาเป็นตัวแทนโปรโมตให้แก่สปอนเซอร์
และสถานที่ที่สองคนนี้นั่งอยู่ก็คือโควตาที่สปอนเซอร์จองไว้เป็นพิเศษ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปาก “ดูท่าคุณทั้งสอง คงไม่ได้มาเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลใช่ไหม? คุณนั่งอยู่ตั้งไกล จะมองเห็นหน้าตาและการกระทำของทุกคนบนเวทีได้หรือ?”
“ถ้าใช้ความดุร้ายที่คุณเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ไปกับการแสดงหนัง บางทีคุณอาจจะไม่ต้องนั่งอยู่ที่นี่แล้วก็ได้”
พวกเขาไม่คาดคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะกล้าโต้กลับแบบนี้ อีกทั้งยังจี้จุดใจดำเข้าอย่างจัง
ไม่ผิด หนังของพวกเขาในครั้งนี้ไม่ดัง อีกทั้งยังได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับการเสนอชื่อใด ๆ
แต่เพื่อที่จะได้มาในหัวข้อข่าววันพรุ่งนี้ ทั้งสองยังคงขอให้สปอนเซอร์ของตนจองที่ไว้สำหรับพวกเขา และซึ่งในที่สุดพวกเขาจึงสามารถเข้าสู่พิธีมอบรางวัลได้
เมื่อครู่เมื่อเห็นพวกเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา พวกเขาก็รู้สึกว่าได้พบศัตรู ในใจถึงไม่สบอารมณ์และเอ่ยพูดจาทิ่มแทงออกมา