เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 685 เตรียมของขวัญสุดพิเศษ
บทที่ 685 เตรียมของขวัญสุดพิเศษ
พ่อบ้านเดินตามหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนมา
“คุณครับ ตอนนี้ยังพอมีเวลาก่อนจะถึงคริสต์มาส คุณจะเริ่มเตรียมเร็วขนาดนี้เลยหรือครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ฉันกังวลว่าฉันจะไม่ทันระวังแล้วทำมันพังเสียก่อนน่ะค่ะ ต้องทดสอบก่อนที่จะถึงวันคริสต์มาส อย่าบอกจี้จิ่งเชินนะคะ”
พ่อบ้านพยักหน้า
“วางใจได้เลยครับ พวกเราจะไม่พูดออกไปเด็ดขาด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้หันกลับเดินเข้าไปในห้องครัว เปิดดูผลที่ได้จากการสอบถามจากจี้จิ่งเชินที่อยู่ในมือ แล้วเริ่มลงมือ
ก่อนหน้านี้สองสามวันเสร็จสิ้นภารกิจของบริษัทไปแล้ว และพอดีกับวันคริสต์มาสที่ใกล้จะถึงแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงตัดสินใจจะให้ของขวัญกับจี้จิ่งเชิน
เพื่อทำให้จี้จิ่งเชินชอบ เธอยังคิดคำถามสิบกว่าข้อ เพื่อถามในสิ่งที่เขาชอบ
“ผลไม้ไม่ได้มีที่ชอบเป็นพิเศษ ชอบโจ๊กปลา”
“มีแค่โจ๊กปลาเองหรือ? หรือว่ามีของขวัญอย่างอื่นที่ชอบอีก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วมองข้อมูลในมือพลางขมวดคิ้วขึ้น ไม่รู้ว่าจะลงมืออย่างไรดี?
หรือว่าจะทำอาหารให้จี้จิ่งเชินวันนั้น?
จี้จิ่งเชินเองก็เคยบอกเอาไว้จริงๆว่าไม่ชอบออกไปข้างนอก แต่นี่ควรจะทำอย่างไรดี?
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนี้
“ช่างเถอะ ลองทำอาหารมื้อค่ำของวันนั้นก่อนแล้วกัน อย่างมากก็อยู่ด้วยกันกับจี้จิ่งเชินทั้งวัน”
ว่าแล้ว เธอก็พับแขนเสื้อขึ้น มีความกระตือรือร้นที่จะทำงาน
ยุ่งติดต่อกันมาหลายวัน ภายใต้การช่วยกันคุ้มกันของพ่อบ้านและแม่ครัว ทุกครั้งที่จี้จิ่งเชินกลับมาจากข้างนอก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะสามารถจัดเก็บห้องครัวได้อย่างสะอาดสะอ้าน แสร้งทำเป็นมานั่งอยู่ในห้องรับแขก และจี้จิ่งเชินเองก็ไม่ได้ค้นพบถึงล่องลอยใดๆด้วยเช่นกัน
วันคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว การเตรียมงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงตอนช่วงท้ายแล้ว และกำลังนัดจองเวลากับร้านอาหารอยู่
ขณะที่กำลังแอบโทรศัพท์อยู่นั้น คิดไม่ถึงว่าจู่ๆจี้จิ่งเชินจะเดินเข้ามาจากทางด้านนอก
“เที๋ยนเที๋ยน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินจะกลับมาจากบริษัทในเวลานี้ จึงรู้สึกตกใจ แล้วรีบกดปิดโทรศัพท์ หันกลับมามองเขา
พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “ทำไมพี่กลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะคะ?”
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามาพลางเอ่ยขึ้น : “เพราะมีเรื่องนิดหน่อยน่ะครับ เลยอยากจะพาคุณออกไปด้วยกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความสงสัย
สายตาของจี้จิ่งเชินมองไปยังโทรศัพท์ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนถืออยู่เมื่อครู่นี้ “ไม่เป็นไรหรือครับ? เมื่อกี้ที่คุณวางสายไปเลยแบบนั้น คงจะยังไม่ทันพูดใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ ทางฝั่งนั้นโทรผิดเฉยๆน่ะค่ะ”
ว่าแล้ว เพื่อไม่ให้จี้จิ่งเชินสงสัย จึงรีบขวางหน้าเขาเอาไว้
“พี่จะพาฉันไปดูอะไรหรือคะ?”
“ยังจำเหยาเย้นกับเวินหมิงเฮ่าได้ไหมครับ?”
ได้ยินสองชื่อนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาอยู่บ้าง แล้วพยักหน้าลง
“จำได้สิคะ”
ก่อนหน้านี้ที่เหยาเย้นจะหย่ากับเวินหงไห่ ก็เคยย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์นี้ช่วงหนึ่ง
เพียงแต่ต่อมาพอเกิดเรื่องขึ้นนั้น เวินหมิงเฮ่าก็ถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี ที่นั่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านความปลอดภัยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และยังมีคนอื่นๆดูแล ไม่ต้องกังวลว่าเวินหงไห่จะหาตัวเจอ
ต่อมาพักหนึ่ง เหยาเย้นก็หางานของตัวเองได้แล้ว จึงเริ่มพึ่งพาตนเอง ย้ายออกไปจากคฤหาสน์
ตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังยุ่งกับการถ่ายทำภาพยนตร์ จึงไม่ทันได้สนใจ
ตอนนี้ได้ยินจี้จิ่งเชินที่จู่ๆก็เอ่ยถึงขึ้นมา ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
เท่าที่เธอจำได้ จี้จิ่งเชินไม่ได้มีความรู้สึกดีๆกับทั้งสองคนนี้เท่าไหร่นัก
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดต่อ : “วันนี้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนกับว่าจะมีกิจกรรม เชิญพวกเราไปร่วมงานด้วย เหยาเย้นก็อยู่ที่นั่น ผมเลยกลับมาก่อนเวลาเพื่อมารับคุณไปด้วยกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้เจอกับทั้งสองคนนั้นมานานแล้ว ตอนแรกเวินหมิงเฮ่าเด็กดื้อคนนั้นอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง
เธอรีบพยักหน้าลงทันที ลืมเรื่องจองร้านอาหารนั้นไปก่อน แล้วดึงจี้จิ่งเชินเดินออกไปทางด้านนอก
“พวกเรารีบไปดูกันตอนนี้เลยเถอะค่ะ”
“ไม่ต้องรีบหรอกครับ ยังอีกสักพักหนึ่งถึงจะเริ่ม” จี้จิ่งเชินยิ้มพลางเอ่ยขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังยืนยัน : “ไปช้าก็ไม่มีที่น่ะสิคะ”
ว่าแล้ว เธอก็ดึงตัวจี้จิ่งเชินขึ้นไปบนรถ
ทั้งสองคนมุ่งตรงไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีที่อยู่นอกชานเมือง
หลังจากที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าผ่านการซ่อมแซมและขยายพื้นที่ไปแล้วนั้น ก็รับเลี้ยงดูเด็กที่ไม่มีบ้านอยู่อีกจำนวนไม่น้อย เด็กๆเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว ครึกครื้นเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะจัดกิจกรรมขึ้น แต่เนื่องจากเด็กๆเหล่านี้ไม่มีพ่อไม่มีแม่ คนที่มาดูก็มีจำนวนน้อยมากด้วยเช่นกัน มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินเพียงเท่านั้น
ตอนที่ทั้งสองคนเดินเข้าไปนั้น กิจกรรมยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น เด็กๆกลุ่มหนึ่งสวมใส่ชุดเรียบร้อยกำลังฝึกซ้อมอยู่ตรงล้านกว้าง
เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา สายตาของคนจำนวนไม่น้อยก็มองมาที่เธอ อยากจะลอง และเข้ามาคุยกับเธอ พากันดวงตาเป็นประกาย
แต่เนื่องจากคำสั่งของคุณครู ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปทั่วได้ และยังต้องฝึกตามคนอื่นๆอย่างว่าง่ายอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ดูตรงข้างๆนั้นพักหนึ่ง หาเวินหมิงเฮ่าไม่เจอ สอบถามจากทีมงานที่อยู่ข้างๆ ถึงได้รู้ว่าเด็กนั่นกำลังเตรียมอีกรายการหนึ่งอยู่ในห้อง
สำหรับเด็กคนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
“ช่วงนี้ เขาไม่ได้ทำเรื่องเดือดร้อนให้พวกคุณใช่ไหมคะ เด็กค่อนข้างดื้อ ยังไม่รู้ความ”
ไม่คิดว่าคุณครูจะยิ้มออกมา พลางเอ่ย : “ตอนที่เพิ่งจะมาใหม่ๆค่อนข้างดื้อมากจริงๆค่ะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมากแล้ว คุณเวินวางใจได้ค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก
เจ้าเด็กอันธพาลที่ไม่มีระเบียบคนนั้น ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นแบบไหนกัน?
เธอดึงจี้จิ่งเชินให้รีบเข้าไปด้านใน อยากเห็นท่าทางของเวินหมิงเฮ่าในตอนนี้
ยังไม่ได้เปิดประตู ก็ได้ยินเสียงเด็กๆที่ร้องเพลงประสานเสียงกันอยู่เข้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปดู เห็นเพียงแค่เด็กๆสิบกว่าคนกำลังยืนอยู่ภายในห้อง สองมือไขว้อยู่ด้านหลัง กำลังร้องเพลงประสานกับเปียโนอยู่
คนที่เล่นเปียโนอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเหยาเย้นนั่นเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วถึงนึกขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้ราวกับว่ามีคนเคยบอกกับเธอจริงๆว่า เหยาเย้นหางานได้นั้นงานใหม่ก็คืออยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดูแลเด็กๆเหล่านี้
หรือบางทีอาจจะเป็นความกังวลเรื่องของเวินหมิงเฮ่า เธอถึงได้มาที่นี่
หากผ่านไปสองสามเดือนแล้ว เหยาเย้นตรงหน้านี้ดูแล้ว มีสีหน้าดีกว่าเมื่อก่อนมาก แก้มแดงระเรื่อ
เธอสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีเทาอ่อน มุมปากยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นหัวใจ กำลังเล่นเปียโนอยู่ สายตาที่มองเด็กๆเหล่านี้เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
เธอกำลังใจจดจ่อ จึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน
เห็นท่าทางของเธอแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้รู้สึกวางใจได้ในที่สุด
ดูแล้วเหยาเย้นก็คงจะหาชีวิตของตัวเองเจอแล้วเสียที เพียงแต่ก่อนที่จะมาที่นี่นั้น ได้ยินจี้จิ่งเชินบอกว่า เรื่องการแต่งงานระหว่างเหยาเย้นกับเวินหงไห่นั้นยังไม่จบสิ้นลง
ตระกูลเวินใช้ทุกวิถีทาง ทำให้ศาลปฏิเสธคำร้องยื่นขอหย่าของเหยาเย้น ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวก็คือการแยกกันอยู่เกินระยะเวลาห้าปี ถึงจะสามารถหย่ากันได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไปพลาง แล้วก็มองหาในกลุ่มคนนั้นไปด้วย และถึงได้มองเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่ยืนอยู่ตรงมุมสุดนั้นเสียที
ยืนอย่างเป็นระเบียบ อกตั้งตรง กำลังร้องเพลงตามเสียงเปียโนอยู่
นั่นไม่ใช่เจ้าปีศาจตัวน้อยในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างเวินหมิงเฮ่าหรอกใช่ไหม?