เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 691 กลหญิงงามของจี้จิ่งเชิน
บทที่ 691 กลหญิงงามของจี้จิ่งเชิน
กล้ามเนื้อของจี้จิ่งเชินสมส่วนเข้ารูปเป็นอย่างมาก หากเพิ่มมาอีกนิดก็จะดูแข็งแรงเกินไป หากน้อยจากเดิมเล็กน้อยก็จะดูผอมแห้งจนเกินไป ทุกส่วนในตอนนี้กำลังพอดีเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแบบไม่ละสายตาและไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ใบหน้ายิ่งร้อนระอุขึ้นมาทุกที
ถึงแม้จะคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่ารีบหันหน้าไปมองที่อื่น จะมองอย่างโจ่งแจ้งมิได้ แต่ร่างกายกลับไม่อยู่ในการควบคุมของตน รู้เพียงแต่จ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินอยู่อย่างนั้น
แววตาของจี้จิ่งเชินที่ยิ้มชื่นยิ่งลุ่มลึกเข้าไปอีก เขาถอดเสื้อเชิ้ตออก จากนั้นก็เผยกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆกลางอากาศ ซึ่งดึงดูดคนมองให้หลงใหลจนต้องกลั้นหายใจ
กลิ่นฮอร์โมนแผ่ปกคลุมและกระจายไปทั่วทั้งบริเวณอย่างไม่หยุดหย่อน
จากห้องนอนที่กว้างขวาง แต่เวลานี้ราวกับกลายเป็นที่คับแคบไปเสียแล้ว
ทันใดนั้นสายตาของจี้จิ่งเชินเหมือนถูกล็อคอยู่บนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนราวกับเสือชีตาห์ที่เตรียมจะออกโจมตีหลังจากที่ผ่านการจำศีลมาแล้วอย่างนั้น
หากเมื่อไหนที่เล็งเหยื่อไว้แล้วก็จะไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาจ้องมองจนหวาดเสียว สามารถรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายจะเข้าเยือน มือทั้งสองข้างของเธอจึงยื่นไปจับเตียงที่อยู่ด้านหลัง เพื่อเตรียมพร้อมที่จะถอยห่างออกไป
แต่ทว่าเพิ่งจะเริ่มขยับ ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้าเริ่มขยับกายมาด้านหน้า จากนั้นก็ก้มตัวลง พลางใช้มือจับเตียงระหว่างข้างตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนทั้งสองด้านเอาไว้ ทำให้เธอต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างแขนของเขาและเตียงนอนอย่างขยับเขยื้อนไม่ได้
เขาก้มหน้าลงจนเข้าใกล้ตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน ซึ่งเกือบทำให้ใบหน้าของทั้งคู่แนบชิดติดกันอยู่แล้ว
ระยะห่างที่ใกล้กันเช่นนี้ สามารถมองเห็นดวงตาที่สะท้านภาพอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน มันช่างหวานแหววเสียจริงเชียว
บัดนี้ราวกับโมเลกุลในอากาศก็ได้หยุดนิ่งสงบลง เหลือเพียงทั้งสองคนที่ต่างโอบกอดซึ่งกันและกันไว้
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินยิ่งทุ้มต่ำลงอย่างมาก ราวกับท้องฟ้าในยามเที่ยงคืนที่มีเสน่ห์จนไม่มีใครหักห้ามใจได้
“เที๋ยนเที๋ยนชอบของขวัญของผมไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกภาพโชว์ถอดเสื้อที่ตระการตาเป็นอย่างยิ่ง จนหน้าแดงเรื่อ และได้พยักหน้าตอบเบาๆ
“อืม……”
“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเถอะ”
“เริ่มอะไรคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ และวินาทีต่อมาก็ถูกจี้จิ่งเชินกดทับจนล้ม
เธอถอยหลังไปพิงอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตได้จ้องมองจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้า
อีกฝ่ายก้มหน้าจ้องมองเธอ
“ผมก็คือของขวัญที่จะมอบให้คุณ”
“รอเดี๋ยว!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบห้ามเขาไว้“เมื่อกี้นั้นไม่ใช่ของขวัญของคุณเหรอ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว”จี้จิ่งเชินยกมุมปากขึ้นมายิ้มอย่างได้ใจ“อันนั้นเป็นเพียงการเปิดกล่องของขวัญเท่านั้น ในเมื่อเที๋ยนเที๋ยนชอบมากอย่างนี้ ผมก็จะพยายามให้เที๋ยนเที๋ยนพอใจที่สุด”
พูดจบก็ก้มหน้าลงมาจูบปลายปากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดชะงัก คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินจะจงใจวางกับดักให้ตนกระโดดลงไปตกหลุมพราง
น้ำเสียงที่ได้ใจของจี้จิ่งเชินยังคงลอยอยู่ข้างหู
“ในเมื่อเที๋ยนเที๋ยนคิดเพื่อพวกเรามากถึงขนาดนี้ โดยการให้พ่อบ้านกับแม่ครัวออกไปก่อน ตอนนี้ที่ปราสาทมีเพียงเราสองคนเท่านั้น บรรยากาศที่ดีอย่างนี้จะให้สูญเปล่าไปได้อย่างไรกัน?ผมจะต้องพยายามอยู่แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากร้องไห้โดยไร้น้ำตา
ขอร้อง ไม่ต้องพยายามอย่างนี้ก็ได้
จี้จิ่งเชินเอามือไปจับคางของเธอขึ้นมา ทำให้ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนยกขึ้นเล็กน้อย สายตาของเธอจึงได้กลับมามองตนอีกครั้ง
จี้จิ่งเชินเผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ออกมา ถามด้วยเสียงเบาว่า“เที๋ยนเที๋ยน ให้พวกเขาหยุดงานกี่วันเหรอ?”
“ฉัน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดถึงจุดนี้ก็ยิ่งเสียใจเข้าไปอีก“สามวัน”
ตอนแรกเธอหวังจะให้เวลาพ่อบ้านพักผ่อนสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่ากลับเป็นการทำร้ายตนเองโดยการขุดหลุมฝังตัวเอง
จี้จิ่งเชินยิ้มขึ้นมาจริงๆ
“เที๋ยนเที๋ยนเก่งจังเลย”
ภายในปราสาท
รวมทั้งพ่อบ้านและแม่ครัวทุกคนล้วนหยุดงานกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนกำหนดกันหมดแล้ว เหลือเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินสองคนในงานวันคริสต์มาส
คืนนั้น จี้จิ่งเชินนำงานของบริษัทมาทำ ที่ปราสาทในลักษณะของWork from home เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะไปทำงานมาก แต่เช้าวันรุ่งขึ้นจี้จิ่งเชินงัดทุกแผนการออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทั้งกลหญิงงามและกลย้ายเสือออกจากเขา
ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนโทรศัพท์ไปบอกให้พวกผู้จัดการหยางทราบว่าต่อจากนี้สามวันเธอจะอยู่ที่ปราสาทไม่ไปทำงานแล้ว
ผู้จัดการหยางเห็นสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนจากวิดีโอคอลแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีนัก จึงคิดว่าเธอไม่สบาย เลยพยักหน้าด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีปัญหา คุณพักผ่อนเยอะๆเลย ผมจะเป็นคนดูแลเรื่องในบริษัทเอง ถ้ามีเรื่องสำคัญอะไรผมจะรายงานให้คุณทราบครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ดีใจเลยสักนิดเดียว เพียงแต่หวังว่าผู้จัดการหยางไม่ต้องเข้าอกเข้าใจและมีเหตุมีผลเช่นนี้ก็ได้นะ
ทางที่ดีที่สุดคือยืนยันให้เธอเข้าไปทำงานที่บริษัทหรือด่าทอต่อว่าเธอสักยก หากเป็นเช่นนี้เธอก็จะมีข้ออ้างในการหลุดออกจากเงื้อมมือของจี้จิ่งเชินโดยการไปทำงานได้แล้ว
ถ้าหากสามวันนี้อยู่แต่ปราสาท แค่คิดก็รู้ว่าต้องประสบความน่าอนาถเพียงใด!
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความหวัง
“จริงเหรอคะ?ฉันจำได้ว่าช่วงนี้บริษัทมีโปรเจคที่สำคัญหลายเรื่องไม่ใช่เหรอคะ ฉันคงต้องเข้าร่วมงานด้วยใช่ไหมคะ?”เธอพูดในลักษณะบอกใบ้
สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือปกติผู้จัดหยางจะเป็นคนมีไหวพริบเฉียบแหลม รู้จักดูสีหน้าผู้คน แต่บัดนี้กลับไม่รู้สิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนหวังไว้ ซึ่งยังคงส่ายหัวอย่างหนักแน่นเช่นเดิม
“โปรเจคครั้งล่าสุดใกล้จะสำเร็จแล้ว ส่วนงานที่เหลือมอบหมายให้พวกเขาไปทำก็ได้แล้ว ประธานเวิน คุณพักผ่อนเยอะๆเลยครับ การรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดครับ”
บัดนี้ผู้จัดการหยางแสดงท่าทางเป็นห่วงมากมาย แต่กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกทุกข์ใจแต่พูดไม่ออก
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังมีแผนการอยู่ในใจ จึงรีบยกเท้าเดินเข้ามาอยู่ในกล้อง ด้วย พลางนั่งอยู่ด้านข้างตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน
ผู้จัดการหยางที่อยู่ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินปรากฏตัวขึ้นก็รีบนั่งตัวตรง
“ประธานจี้”
จี้จิ่งเชินแค่พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “สามวันนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะพักผ่อนอยู่ที่ปราสาท ส่วนเรื่องของบริษัทก็รบกวนคุณแล้วนะ”
ผู้จัดการหยางรีบพยักหน้าตอบ
“ครับ คุณวางใจได้เลย บริษัทไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่นอนครับ ในทุกๆเย็นผมจะรายงานความคืบหน้าของงานในบริษัทให้ประธานเวินทราบตรงตามเวลาเลยครับ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า พลางยกมือไปโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
ตอนแรกเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปวดเอวอยู่แล้ว และเมื่อถูกจี้จิ่งเชินจับอีก จึงนั่งไม่มั่นคงเอียงตัวไปด้านหลัง
จี้จิ่งเชินรีบประคองเธอเอาไว้ มือหนากว้างแนบอยู่ด้านหลังเธอ แล้วเริ่มนวดเบาๆ
“ยังปวดเมื่อยอยู่ไหม?”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที่ยนแดงเล็กน้อย และไม่ได้ตอบอะไร
บัดนี้ผู้จัดการหยางที่นั่งอยู่ในห้องทำงาน เมื่อได้เห็นภาพนี้ในสมองก็โผล่ความคิดที่น่าตกตะลึงขึ้นมา
ปวดเมื่อยเอว?
หรือว่า?
กำลังจินตนาการอยู่ จี้จิ่งเชินที่กำลังนวดเอวให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ก็ได้ส่งสายตาที่คมกริบมา ทันใดนั้นผู้จัดการหยางก็ได้เก็บความคิดนั้นกลับมา ไม่กล้าคาดเดาอะไรต่อ
จี้จิ่งเชินพูดเสียงเรียบๆ“ถ้าอย่างนั้นก็แค่นี้ก่อนนะ”
พูดจบก็ปิดวิดีโอคอลทิ้ง
ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่พอใจ จึงบ่นว่า“ตอนนี้ได้หรือยัง?”
แววตาของจี้จิ่งเชินยิ้มฉ่ำ มือข้างหนึ่งยังคงนวดให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเช่นเดิม พลางเอียงหน้าเข้าดมกลิ่นเส้นผมของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ผมก็แค่หวังดีกับคุณ คุณดูสิตอนนี้คุณยังจะออกไปข้างนอกได้อีกไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนปวดเมื่อยเอวมาก ถึงแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ไม่มีทางเลือก แม้กระทั่งนั่งยังลำบากเลย ถ้าให้เธอไปที่บริษัท คนอื่นต้องดูออกแน่ๆ
ถ้าเป็นเช่นนี้เธอยังยินดีที่จะทำงานนอกบริษัทเสียจะดีกว่า
แต่ว่าภายในสามวันนี้ จี้จิ่งเชินคิดจะทำอะไร อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ก็แล้วกัน