เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 698 ให้ฉันไปเถอะ
บทที่ 698 ให้ฉันไปเถอะ
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินหนักแน่น แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงส่ายหัว
“ฉันรับปากเหยียนเจิ้งไว้แล้ว จำเป็นต้องไป ถ้าไม่ไปก็ไม่มีคนไปแล้ว”
“ไม่ได้ คนคนนั้นจะเป็นคุณไม่ได้ ผมไม่มีทางให้คุณกลับไปที่บ้านตระกูลเวินที่เหมือนดั่งถ้ำหมาป่าหรอก”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ถอยเลยสักนิดเดียว
เหยาเย้นได้ยินสองพยางค์นี้ จึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า“บ้านตระกูลเวินทำไมเหรอ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินก็รีบหันหน้าไปมอง
เมื่อเห็นหน้าเหยาเย้นราวกับในใจคิดอะไรบ างอย่างขึ้นมาได้ จึงได้เล่าเรื่องที่ได้พูดคุยกับคุณตำรวจเหยียนเจิ้งกับเธอหนึ่งรอบ
เหยาเย้นได้ยินก็ไตร่ตรองไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยปากพูดว่า“ให้ฉันเป็นคนไปเถอะ”
เธอพยักหน้าอย่างแน่วแน่
“ฉันได้ดูกล้องวงจรที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว พวกเขาพาตัวหมิงเฮ่าไปจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าซ่อนอยู่ที่ไหน ถ้าให้ฉันไป ฉันก็จะได้ถือโอกาสหาตัวหมิงเฮ่าดู”
ได้ยินดังนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เอามือตบไหล่จี้จิ่งเชินให้เขาปล่อยเธอลงมา
บัดนี้จี้จิ่งเชินจึงจะยอมปล่อยตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนลงมา
เมื่อเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแตะกับพื้น เธอก็รีบพูดขึ้นว่า“ไม่ได้ คุณไปไม่ได้”
ตอนนี้สองพ่อลูกตระกูลเวินไม่ได้วางใจเหยาเย้นเหมือนแต่ก่อน แต่คงระแวงและระวังในตัวเธอแล้ว
สองวันก่อนถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเธอกับจี้จิ่งเชินไปหา มีความเป็นไปได้ว่าแม้กระทั่งเหยาเย้นก็จะถูกพวกเขาขังเอาไว้ ก่อนหน้านี้ไม่ง่ายเลยที่สามารถช่วยเธอออกมาได้ แล้วจะยอมให้เธอกลับเข้าถ้ำเสืออีกได้ยังไง?
แต่ท่าทางของเหยาเย้นยังคงแน่วแน่สูง
“พวกคุณให้ฉันไปเถอะ ฉันอยากให้เรื่องราวในอดีตจบลง บอกฉันสิว่าเนื้อหาสำคัญของหลักฐานที่พวกคุณต้องการหานั้นคืออะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของเหยียนเจิ้ง
“น่าจะเป็นของจำพวกที่เก็บซ่อนไว้ในตู้เซฟ ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับบัญชีของบริษัทในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว”
“รายงานบัญชีประจำเดือนกันยายน?”
เหยาเย้นขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด แล้วพูดว่า“ฉันเหมือนจะเคยเห็นมันอยู่ในมือของเวินหงไห่”
“จริงเหรอ?”
เหยาเย้นพยักหน้า
“ตอนนั้นฉันยังอยู่ที่บ้านตระกูลเวินอยู่ ฉันเห็นพวกเขาเก็บของเข้าตู้เซฟอย่างระมัดระวัง ฉันเผลอได้เห็นแวบหนึ่ง มันเป็นสรุปบัญชีประจำเดือนกันยายนจริงๆ ฉันรู้ว่าอยู่ที่ไหน”
พูดจบ เธอยิ่งมีความแน่ใจมากขึ้น และลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น กระตือรือร้น
“ถ้าเป็นแบบนี้ พวกคุณยิ่งต้องให้ฉันเป็นคนไปแล้วล่ะ ฉันต้องเอาเอกสารฉบับนั้นส่งออกมาให้พวกคุณแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ฉันยังอยากจะลองหาตัวหมิงเฮ่าดู”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงลังเลอยู่ เพราะมันอันตรายเกินไป
เหยาเย้นพูดอย่างแน่วแน่“เที๋ยนเที๋ยนพวกคุณให้ฉันไปเถอะ ถ้าอยู่อย่างนี้ต่อไป ฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ”
เห็นสายตาที่ร้อนรนของเธอ ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตอบตกลง
“แต่ว่าคุณต้องระวังให้มากๆนะ อย่าให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องตัวเองนะ”
สีหน้าเหยาเย้นดีอกดีใจ รีบพูดว่า“ฉันรู้ พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปที่บ้านตระกูลเวิน”
พูดจบ เธอก็ยืนขึ้นพยักหน้าให้กับทั้งสองคน
“ฉันกลับไปเตรียมตัวก่อนนะ พวกคุณวางใจได้เลย มันไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแผ่นหลังที่กำลังเดินออกไปของเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดปลอบใจว่า“ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก ผมให้คนไปคอยดูอยู่นอกปราสาท ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็จะเข้าช่วยเหลือได้ทันการณ์”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“อันที่จริงคนที่ไปน่าจะเป็นฉันนะ……”
ยังไม่ทันได้พูดจบ จี้จิ่งเชินก็เอามือปิดปากเธอไว้
“เที๋ยนเที๋ยนอย่าโทษตัวเองเลย ผมเป็นคนไม่ให้คุณไปเอง เป็นเพราะผมเห็นแก่ตัว ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
ในขณะที่พูดเขาก็ได้โอบเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามากอดไว้ในอ้อนแขน
“คุณวางใจเถอะ ไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก”
วันรุ่งขึ้น เหยาเย้นเดินทางออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลเวินโดยตรง
ทุกคนในบ้านเห็นเหยาเย้นที่จากไปแล้วกลับมาใหม่อีกครั้ง พวกเขายังคิดว่าเหมือนครั้งก่อนๆที่มาหาเวินหงไห่เช่นเดิม แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนและวางสัมภาระของตัวเองลง
เสื้อผ้าที่เอามาได้แขวงเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีกครั้งราวกับว่าจะมาอยู่ที่นี่อย่างนั้น
เห็นเหยาเย้นนั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่ห้องรับแขกอย่างผ่อนคลายสบายๆ ก็ต้องทำให้เกิดความสงสัยเล็กน้อย
ดูท่าทางของเธอเหมือนจะไม่ใช่มาหาเรื่องเลย
เมื่อนึกถึงก่อนรายงานจากลูกน้องก่อนหน้านี้ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เหยาเย้นคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?
เวินหงไห่ยกเท้าเดินไป พูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า“คุณยังจะมาทำไมอีก?”
เหยาเย้นดื่มน้ำชาร้อนอย่างไม่ช้าและไม่เร็ว หันหน้ามาพูดว่า“ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดแล้วว่าพวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ถ้าอย่างงั้นที่นี่ก็คือบ้านของฉันด้วย ฉันมีสิทธิ์กลับมา”
“คุณจะกลับมา?”
เวินหงไห่เบิกตากว้างมองเธอด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไม?ไม่ได้เหรอ?คุณพาลูกของฉันไป ฉันก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว สรุปก็คือหมิงเฮ่าอยู่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่น พวกเรายังไม่ได้หย่าร้างกัน คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ฉันออกไป”
คิดไม่ถึงว่าเหยาเย้นจะใช้คำพูดของตนก่อนหน้านี้มีเป็นข้ออ้าง เวินหงไห่จ้องเขม่นเธอด้วยความโมโหอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ช่างเถอะในเมื่อคุณอยากอยู่ก็อยู่ได้ แต่ผมขอเตือนคุณว่าให้ใช้สติดีๆ อย่ามาเล่นพิลึกอะไรกับผม”
พูดจบ เขาเรียกทหารผ่านศึกมาหลายนาย พลางสั่งการว่า“ดูเธอไว้ให้ดีๆ อย่าให้เธอเข้าออกบ้านตระกูลเวินโดยพลการ”
“ครับ”
คนพวกนั้นพยักหน้า จากนั้นก็มายืนอยู่ข้างกายเหยาเย้น เดินตามดูเธอทุกย่างก้าว
เมื่อเห็นเช่นนี้ เวินหงไห่จึงวางใจแล้วเดินจากไป
พอเขาเดินออกไป เหยาเย้นจึงคอยโล่งใจลง มือที่ถือถ้วยน้ำชาอยู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเสียแล้ว
ถึงจะออกไปจากที่นี่ตั้งนานและได้เตรียมตัวเตรียมใจกลับมาอีกครั้งไว้แล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวินหงไห่ เธอก็อดที่จะตื่นเต้นและตึงเครียดไม่ได้
แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้เธอก็ได้อยู่ที่บ้านตระกูลเวินอย่างราบรื่นแล้ว
สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ก็คือคิดวิธีทิ้งตัวออกจากคนพวกนี้ เธอจะได้มีโอกาสไปเอาเอกสารในตู้เซฟได้
เธอจำได้ว่ากุญแจตู้เซฟอยู่ติดตัวเวินฉี่ตลอดเวลา เธอยังต้องหาโอกาสที่เหมาะสมก่อน
มีเวลาไม่นานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมิงเฮ่าถูกขังอยู่ที่ไหน ต้องเจอกับความยากลำบากอะไรบ้าง?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหยาเย้นก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดไว้แน่น ซึ่งทำให้การตัดสินใจของเธอยิ่งแน่วแน่ขึ้นไปอีก
ครั้งนี้เธอจะต้องจบเรื่องความบาดหมางของตนกับตระกูลให้ได้เลย
เธอครุ่นคิด พลางดื่มชาในถ้วยให้หมด แล้วยืนขึ้นมา
ทหารผ่านศึกหลายนายก็ได้เดินตามอยู่ด้านหลัง
เหยาเย้นขมวดคิ้วแล้วหยุดเดิน
“ฉันไปพักผ่อน พวกคุณก็จะตามฉันไปเหรอ?”
หนึ่งในคนที่อยู่ด้านหลังพูดอย่างตั้งใจว่า“ขอโทษครับคุณนาย นี่เป็นคำสั่งของคุณเวินครับ”
เหยาเย้นพูดด้วยความโกรธ“ในเมื่อพวกคุณชอบตามดีนักก็ตามให้ตลอดเลยนะ!”
พูดจบก็เดินขึ้นตึกแล้วเปิดประตูห้องนอน ก่อนที่คนพวกนี้จะเดินเข้าประตูมา เธอก็ได้ล็อคประตูให้พวกเขาอยู่ด้านนอก
ทหารผ่านศึกหลายนานหยุดเดิน ไม่ได้ยืนกรานว่าจะเดินเข้าไป แต่ยังคงยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูโดยที่ไม่ไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว
ด้านในห้องนอน เหยาเย้นเดินไปเดินมาด้วยความกังวลใจ
คนด้านนอกช่างวุ่นวายเสียจริง จำเป็นต้องหาวิธีหลุดออกจากการติดตามของพวกเขาให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะไปไหนก็ไม่ได้เลย