เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 722 จงใจสร้างปัญหา
บทที่ 722 จงใจสร้างปัญหา
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกปลุกให้ตื่น เป้าหมายของตัวเองก็สำเร็จแล้ว หล่อนเจียนีก็ไม่อยู่แกล้งต่อแล้ว
พูดอย่างเย็นชา: “ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ถ้าคุณไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร”
พูดจบ ก็หันหลังเดินจากไปทันที หลิวเหม่ยหลันก็เดินตามหลังไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วมองเขาทั้งสอง ไม่รู้พวกเธอคิดทำอะไรกันแน่
คิดๆแล้ว ก็หันกลับไปมองคนสวนที่อยู่ด้านหลัง
ไม่มีอะไรแล้ว พวกนายไปพักผ่อนกันเถอะ ต่อไปหากพวกเธอยังมาข่มขู่พวกนายอีก ก็ไม่ต้องไปสนใจเลย
คนสวนพยักหน้าอย่างดีใจ
“ขอบคุณครับคุณหนู”
ในที่สุดคนก็ไปหมดแล้ว แต่เวลาก็ยังเช้าอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ที่ยุ่งอยู่กับเรื่องของบริษัทมาตลอด ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเพิ่งเริ่มต้นก็ตาม แต่ก็ยังยุ่งมาก ทุกวันต้องนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอ
ตอนนี้ถูกสองคนนั้นทำให้ตื่นแต่เช้า ก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปนอนต่อแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเพื่อไปทานข้าวเช้า
แต่พอเดินเข้าไปในห้องครัว กลับเห็นควันคลุ้งเต็มไปหมด
แม่ครัวยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าร้อนใจ อาหารเช้าก็ยังไม่เริ่มทำ ได้เพียงแค่กลิ่นไหม้ที่ลอยมาจากในห้องครัว
“เกิดอะไรขึ้น?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมาข้างหน้า
“คุณหนู……”
เมื่อแม่ครัวเห็นเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ
“ขอโทษค่ะ ฉันยังไม่ได้เตรียมอาหารเช้า”
พูดพลาง หันหน้ามองไปในครัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองตามหล่อนไป ก็เห็นหลิวเหม่ยหลันกับหล่อนเจียนีกำลังอยู่ข้างใน ดูเหมือนกำลังทำอาหารแต่ท่าทางแบบนั้นกลับทำให้รู้สึกว่าไม่รู้ควรจะชื่นชมยังไง
หล่อนเจียนีนำวัตถุดิบทุกอย่างที่มีใส่ลงไป กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ลอยออกมา และยังผสมกับกลิ่นไหม้ ทั้งห้องครัวเต็มไปด้วยควัน
บนโต๊ะก็ยุ่งเหยิง แม้กระทั่งบนพื้นก็เต็มไปด้วยข้าวของ ไม่มีที่ให้ย่ำเท้าลงไปได้เลย
แม่ครัวกล่าว: “เมื่อครู่พวกเขาบอกว่าจะทำอาหารเช้า เดิมทีฉันก็ไม่เห็นด้วย แต่พวกเขาก็ยืนยันที่จะทำ ตอนแรกฉันก็คิดว่าพวกเขาหวังดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแบบนี้……”
เขาสองคนไม่มีทางที่จะทำอาหารเช้า พูดง่ายๆครั้งนี้ที่พวกเธอมาก็ไม่ได้ตั้งใจมาทำอาหารเช้าอยู่แล้ว มาเพื่อทำให้ห้องครัวเละเทะ เพื่อไม่ให้แม่ครัวทำอาหารเช้าได้ทันเวลา
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว จุดประสงค์ของสองคนนี้คืออะไรกันแน่?
ตอนเช้าตรู่ก็เรียกคนมาบำรุงสวน ทำเสียงดังจนเธอตื่น ตอนนี้ก็ยังยึดห้องครัวอีก ไม่ให้แม่ครัวเตรียมอาหารเช้า
กำลังคิด เมื่อป่วนจนรู้สึกว่าห้องครัวเละเทะไปหมดแล้ว ไม่มีที่ที่จะให้ย่างเท้าลงได้เลย หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันถึงพอใจและหยุดการกระทำดังกล่าว
จึงหันกลับไป เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ตรงประตู แถมยังจงใจหัวเราะ
“โถ ขอโทษจริงๆ ทำครัวของเธอเละเทะไปหมด ตอนนี้เธอคงทำอาหารเช้าไม่ได้แล้วใช่ไหม?
ในน้ำเสียงนั้นไม่มีความรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“น่าสงสารจริงๆ”
แม่ครัวที่ยืนอยู่ข้างๆกลับรู้สึกผิดมาก “คุณหนู ขอโทษจริงๆ ถ้าหากฉันไม่ให้พวกเขาเข้ามาในครัว เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือขึ้น
“ไม่เกี่ยวกับเธอ”
ห้องครัวถูกทำให้เละเทะ เครื่องปรุงและวัตถุดิบล้วนถูกพวกเขาผสมมั่วกันไปหมด ถ้าหากจะต้องซื้อมาใหม่ก็จะเสียเวลา แบบนี้เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะไปบริษัทไม่ทันอยู่แล้ว
เธอทำได้เพียงปล่อยผ่าน แล้วพูดว่า: “วันนี้ฉันไม่ทานข้าวเช้าแล้ว จะไปบริษัทเลย”
พูดจบ ก็ก้าวเท้าเดินออกไป
หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันที่อยู่ด้านหลังเห็นแล้ว ก็ยิ้มลำพองใจ ปัดไม้ปัดมือแล้วเดินออกมาจากในครัว
ดูแล้วแผนการของพวกเธอดำเนินการไปได้ด้วยดี
พวกเธออยากจะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนพัง เลยหาเรื่องให้เธอ ยิ่งเยอะยิ่งดี!
อีกฝั่งนึง เวินเที๋ยนเที๋ยนหอบท้องที่หิวของเธอออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลหล่อน แล้วก็เห็นรถของจี้จิ่งเชินเพิ่งจะมาจอดที่หน้าประตู
จี้จิ่งเชินเพิ่งลงจากรถ พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตกใจเล็กน้อย
“เช้าขนาดนี้ก็จะออกไปแล้วเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้อธิบาย: “มีเรื่องนิดหน่อย ออกเดินทางกันก่อนเถอะ”
แต่จี้จิ่งเชินนั้นเห็นสีหน้าท่าทางที่ผิดปกติของ ดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา
“นอนไม่ดีเหรอ?”
“ถูกเสียงรบกวนทำให้ตื่นแต่เช้าเลย” เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ไม่ได้บอกรายละเอียด
ในเวลานี้ จู่ ๆก็มีเสียงลอยมาจากด้านหลัง
“นี่ นี่มันคุณจี้ไม่ใช่เหรอ? รีบเข้ามานั่งพักก่อนเถอะค่ะ ฉันเตรียมอาหารไว้ให้คุณเป็นพิเศษเลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปมอง ก็เห็นหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันที่ไม่รู้ว่าเดินตามออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่ประตู ยิ้มอย่างอ่อนโยนมองมาที่จี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจสองคนนั้นเลย เพียงแค่ถาม: “เที๋ยนเที๋ยน ทานข้าวเช้าหรือยัง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัว
“ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปนะ”
ขณะที่พูด ก็ดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเพื่อจะย้อนกลับเข้าไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับห้ามเขาเอาไว้ “ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้ห้องครัวเละไปหมด เข้าไปไม่ได้เลย พวกเราไปบริษัทกันก่อนเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ จี้จิ่งเชินก็ยิ่งแน่ใจ มันจะต้องเกี่ยวกับหล่อนเจียนีสองแม่ลูกอย่างแน่นอน
เขาเงยหน้าขึ้น สายตาที่แหลมคมของเขากวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้า กำลังจะอาละวาด
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ดึงมือของเขาเอาไว้
“ไปบริษัทกันก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นเวลาก็จะไม่ทันแล้ว”
พอได้ยินแบบนี้ จี้จิ่งเชินจึงได้ถอนสายตาของเขากลับมา
เมื่อวานพอหล่อนเจียนีได้ยินว่าจี้จิ่งเชินจะมา ก็เตรียมตัวตั้งแต่เช้า และยังตั้งใจแต่งหน้าแต่ตัวเป็นพิเศษ
แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจตัวเองเลย จนกระทั่งเห็นสายตาที่เขามองมา ทำให้เธอสะดุ้งตกใจ สั่นไปทั้งตัว
เห็นทั้งสองกำลังจะจากไป ก็ยังคงตามไปอย่างไม่ลดละ เดินไปหยุดขวางไว้ที่ตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
“คุณจี้ ฉันทำอาหารเช้าเอาไว้ คุณจะเข้าไปชิมหน่อยมั้ยคะ?”
หล่อนกะพริบตาปริบๆ ทำหน้าตาในแบบที่คิดว่าตัวเองน่ารักที่สุด
จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แม้แต่อากาศที่อยู่รอบตัวยังเกาะเป็นน้ำแข็งเลย
เขาหรี่ตาเล็กน้อย ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ผมขอเตือนคุณเลยนะ อย่าริอ่านเล่นลูกไม้กับเที๋ยนเที๋ยน ถ้าผมเห็นว่าขนของเธอหายไปแม้แต่เส้นเดียว ได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ผมจะทำให้คุณเสียใจทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้!”
ใบหน้าของหล่อนเจียนีแข็งทื่อด้วยความตกใจ ค่อยๆแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ตัวสั่นเทา ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“หลีกไป!”
จี้จิ่งเชินดุเสียงดัง จนกระทั่งเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เพิ่งจะขึ้นรถกำลังจะถามด้วยความสงสัย เขาจึงหันกลับมาขึ้นรถ พาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินทางไปยังบริษัท
หล่อนเจียนีที่ยืนอยู่หลังรถมองรถเคลื่อนตัวออกไป จนรถค่อยๆลับสายตาไป เธอจึงกระทืบเท้าและกัดฟันด้วยความโกรธ และความไม่พอใจ
“อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้แบบนี้นะ! เวินเที๋ยนเที๋ยน ฉันจะต้องแย่งจี้จิ่งเชินมาให้ได้! ให้เธอได้สัมผัสฝีมือของฉันดู!”
ขณะที่พูด เธอก็หันหลังเดินกลับไป
ระหว่างทางเจอกับคนสวนหลายคน ก็ด่ากราด พอเดินเข้ามาที่ห้องรับแขกก็ปัดของของที่อยู่บนโต๊ะทิ้ง จนทำให้คนใช้หลายคนตกใจ
พ่อบ้านมองของที่ระเกะระกะบนพื้น ก็ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ
เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากที่คุณหนูกลับมาแล้ว สองแม่ลูกคู่นี้จะสำรวมกันบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าจะยิ่งแย่ลง
ไม่รู้ว่านิสัยอย่างคุณหนู จะคุมพวกเขาได้จริงหรือเปล่า?
สำหรับเรื่องนี้ ฉวีผิงสงสัยเป็นอย่างมาก
เขายังจำตอนที่เจอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนครั้งแรกได้ ความอบอุ่นในดวงตาของเด็กคนนั้น จะสามารถเผชิญหน้ากับสองแม่ลูกคู่นี้ได้จริงหรือ?