เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 740 หมินอันเกอมาแล้ว
บทที่ 740 หมินอันเกอมาแล้ว
แต่พอหลวนจื่อได้ยินดังนั้น สายตาเปล่งประกายวิบวับ รีบพยักหน้ารับปาก
“ฉันเต็มใจช่วยคุณอยู่แล้ว”
เคอเหยียนรุ่ยได้ยินเช่นนี้ ค่อยวางใจขึ้นมาทันที
“ขอบคุณมากคุณมากๆนะ ฉันให้พวกเค้าพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย”
พูดแล้ว พาหลวนจื่อเดินไปทางด้านหลัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกร้อนใจมาก หน้าหงอย: “หลวนจื่อ เมื่อกี้ฉันจะบอกเธอ……”
“ฉันรู้แล้ว” หลวนจื่อตอบและขัดคำพูดของเธอ: “เธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่เกิดเรื่องอะไรอย่างแน่นอน เมื่อกี้เดินไปรอบหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าฉันโอเค ถือว่าช่วยเหลือเค้าละกัน”
เธอโบกมือไปมา แล้วเดินกลับเข้าไปพร้อมกับเคอเหยียนรุ่ย
เวินเที๋ยนเที๋ยนอธิบายไม่ทัน ได้แต่มองดูเธอเดินเข้าไป จึงรู้สึกร้อนใจมาก
จี้จิ่งเชินเดินหน้าเข้าไปดึงตัวเธอไว้
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ถึงแม้หมินอันเกอจะมาถึงนี่จริงๆ เห็นหลวนจื่อที่เดินแบบอยู่บนเวทีแล้ว ก็ไม่มีทางจะพุ่งขึ้นไปเอาตัวคนลงมา วันนี้เขาจะมาหรือไม่มา ตอนจบก็เหมือนกัน ก็แค่เลื่อนเวลาเปิดเผยความลับเข้ามาอีกหน่อย เลื่อนมาเป็นวันนี้เท่านั้นเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น ขมวดคิ้วขึ้น ก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี
แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว จากนั้นเดินกลับไปหน้าเวทีกับจี้จิ่งเชิน
ในเวลานี้ด้านหลังเวทีของงานแฟชั่นโชว์ นางแบบคนอื่นๆได้ยินว่าหลวนจื่อจะมาเดินแบบรอบปิดงานแทนนางแบบอีกคน รู้สึกไม่พอใจ
ถึงแม้ไม่มีใครเปิดปากพูดออกมา แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง ไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ
งานเดินแฟชั่นโชว์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ เปิดงานและปิดท้ายสองรอบนี้ นางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังจะถูกเชิญชวนมาเดินเปิดงานและปิดงาน
ในตอนแรกหลวนจื่อถูกเชิญมาเดินแบบพิธีเปิดงาน พวกเค้าก็รู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว ครั้งนี้ได้ยินว่าเธอยังอยากเหมารอบปิดงานแฟชั่นอีกด้วย ยิ่งรู้สึกโมโห คนที่มาแจ้งงานเพิ่งจะออกไป ในห้องแต่งตัว ก็มีหลายคนที่ทนไม่ได้จนด่าออกมา
“ยังบอกว่าไม่ได้มาแย่งงาน แค่วันนี้วันเดียวก็แย่งเอางานทั้งพิธีเปิดและปิดท้ายไปอยู่ในมือแล้ว พรุ่งนี้ก็คงไม่เหลือที่สำหรับพวกเราแล้ว เก่งจริงๆนิ”
“ท้องโตขนาดนี้ยังมาแย่งงานได้ รู้สึกเสียใจแทนนางแบบที่ไม่มาคนนั้นจริงๆ”
“เค้ามีหมินอันเกอเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่าอยากจะทำอะไรก็ทำได้ ยิ่งกว่านั้นคือ เค้าเป็นคุณหนูใหญ่ของมหาเศรษฐี ไม่เหมือนกับพวกเราสักหน่อย พวกเธอก็ทำใจเสียเถอะ”
หลายๆคนกำลังพูดอยู่นั้น มีคนๆหนึ่งกลับพูดว่า: “นี่มันเป็นเรื่องของหลวนจื่อเองนะ เกี่ยวอะไรกับหมินอันเกอ?”
คนๆนี้ยืนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ มือยังทุบไปที่โต๊ะเครื่องแป้งอย่างแรงและเสียงดัง ขัดขวางคำพูดของคนพวกนั้น
“อย่าเอาหมินอันเกอไปพูดรวมกับอีนังแพศยาคนนี้นะ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน หมินอันเกอก็คงไม่ตกต่ำมาจนถึงขั้นนี้เหรอ? เธอมาเดินแบบได้ ก็เพราะคนอื่นให้เกียรติเค้า ยังจะมาข้ามหน้าข้ามตากันอย่างนี้อีก”
“เป็นแขกรับเชิญพิเศษปิดงานแล้วยังไง? ก็ยังเป็นนังแพศยาอยู่ดี”
เธอด่าออกมาอย่างไม่อายปาก คนอื่นๆก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่งหน้าเสร็จก็รีบออกจากห้องแต่งตัวทันที
มีแต่คนๆนั้นที่ยังนั่งอยู่ในนั้น ไฟที่โมโหในใจก็ยังดับไม่ได้
เธอหันหน้าไปทางห้องเปลี่ยนชุดที่มีกระโปรงยาวตัวหนึ่งแขวนอยู่
กระโปรงตัวนั้น น่าจะเป็นงานออกแบบที่ใช้ปิดงานในวันนี้
กระโปรงยาวๆ ริบบิ้นที่ปลิวไสว ตอนที่ลมพัดมานั้น ทำให้เต็มไปด้วยกลิ่นไอของเทพธิดา พูดได้ว่าการออกแบบทั้งชุดเป็นตัวที่ดูพิเศษและสวยหรูดูแพงที่สุด
หลวนจื่ออยากจะใส่ชุดนี้ไปยั่วยวนหมินอันเกอ?
ฝันไปเถอะ!
คิดๆแล้ว เธอจับกรรไกรที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นเดินไปทางชุดกระโปรงนั้น
แค่แอบทำอะไรนิดหน่อยบนกระโปรง รอให้คนใส่เข้าไปแล้ว เคลื่อนไหวแรงนิดๆก็จะขาดและหลุดลงมา
รอให้หลวนจื่อใส่เสื้อผ้า เดินขึ้นเวทีไปจนถึงแคตวอล์กด้านหน้าผู้คน เสื้อผ้าก็จะหลุดออกจากตัว
ถึงตอนนั้น พาดหัวข่าวทั้งหมดในหนังสือพิมพ์ก็จะมีแต่ภาพที่น่าเกลียดของหลวนจื่อ แล้วถูกผู้คนประณาม
ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางแบบคนนี้จึงวางกรรไกรกลับไปไว้ที่เดิม จนมีคนเข้ามา ค่อยแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่หน้าเวทีตลอด เห็นนางแบบทั้งหลายเดินโชว์จนเกือบหมดแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าความสามารถของหลวนจื่อเก่งกว่าคนอื่นๆ แบบว่าไม่มีคนทำได้น่าทึ่งเท่าเธอเลย
เสื้อผ้าที่ออกแบบมาเหมือนกัน ใส่อยู่บนตัวของแต่ละคนแล้ว กลับไม่สามารถแสดงออกถึงความมีพลังมีราศีและทำให้คนตะลึงได้อย่างหลวนจื่อ
ไม่เพียงแค่เวินเที๋ยนเที๋ยน แม้แต่คนอื่นๆก็รู้สึกเช่นนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังคนอื่นที่อยู่ข้างๆพูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ ทันใดนั้น ได้ยินทางประตูมีเสียงดังขึ้นมา
เธอหันไปมอง ในวงล้อมของนักข่าวทั้งหลายนั้น กลับมองเห็นเงาของหมินอันเกอ
เขามาจริงๆเหรอ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหันไปมองบนเวที งานแฟชั่นโชว์ในวันนี้กำลังจะจบแล้ว จะถึงหลวนจื่อออกมาปิดงานในไม่ช้าแล้ว หมินอันเกอกลับมาก็เห็นภาพนี้พอดี
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เขาเดินฝ่าวงล้อมนักข่าวออกมา มองเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังก้าวเท้าเดินมา
หลังจากที่เขารีเซ็ตความคิดของตนเองแล้ว หมินอันเกอไม่ค่อยกระตือรือร้นกับนักข่าวและการเขียนข่าวอีกแล้ว เมื่อก่อนเห็นนักข่าวพวกนี้แล้วจะคอยยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ว่าจะถามคำถามอะไรออกมา ก็จะไม่เคยทำสีหน้าที่ไม่พอใจออกมา
แต่ว่าตอนนี้ แค่แสดงกิริยาตามมารยาทที่พอประมาณเท่านั้น
เห็นทีว่าจะตัดสินใจใช้ความสามารถในการแสดงของตนเองเพื่อยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงให้เจริญก้าวหน้า โดยไม่ต้องพึ่งความอ่อนโยนและแสดงตนเป็นคนเพอร์เฟคขนาดไหน
“เที๋ยนเที๋ยน คุณจี้”
หมินอันเกอเดินมาหาและพยักหน้าให้เขาทั้งสอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขาแล้ว รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แล้วรีบหันไปมองบนเวที
“หมินอันเกอ ทำไมคุณกลับมาเร็วขนาดนี้? ละครปิดกล้องแล้วเหรอ?”
หมินอันเกอไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ
“การถ่ายทำราบรื่นกว่าที่คิด ถ่ายเสร็จล่วงหน้าตั้งครึ่งเดือน ได้ยินว่าวันนี้เป็นงานแฟชั่นโชว์ของเคอเหยียนรุ่ย เมื่อก่อนเค้าเคยดูแลหลวนจื่อ ผมก็มาดูหน่อย ไม่อย่างนั้น หลวนจื่อต้องโกรธแน่ ผมจะถ่ายรูปหลายๆใบด้วย กลับไปให้เธอดู”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดนี้ ในใจรู้สึกไม่ค่อยดี
เขาไม่รู้ว่า ที่จริงตอนนี้หลวนจื่อกำลังอยู่บนแคตวอล์กแล้ว ยังมีคนจำนวนไม่น้อยเห็นเธอเดินแบบแล้ว
ถ้ารู้ว่าหลวนจื่อแอบหนีออกมาแบบนี้ อีกทั้งยังรับงานด้วย ไม่รู้ว่าหมินอันเกอจะโกรธหรือเปล่า
ในเวลานี้พอดี จี้จิ่งเชินยกมือมาจับมือของเธอไว้ แล้วพูดต่ออย่างไม่ตั้งใจ
“ที่จริงน่าจะให้เธอออกมาเดินสูบดมอากาศข้างนอก ดีกว่าปล่อยให้เธออยู่แต่ในบ้าน ทำสิ่งที่ตนเองชอบ มีแต่ทำให้จิตใจสงบสุข ร่างกายถึงจะแข็งแรง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นจี้จิ่งเชินนานๆทีจะช่วยตนเองพูด รีบพยักหน้าเห็นด้วย
หมินอันเกอไม่เข้าใจว่าคำพูดของจี้จิ่งเชินลึกๆแล้วหมายความว่าอะไร แต่ก็ยังยิ้มๆ
“ผมก็หวังว่าหลวนจื่อจะออกมาบ่อยๆ รอครั้งนี้ผมกลับไปที่บ้าน ต่อจากนี้อีกหลายเดือน ผมจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดเวลา ไม่รับงานอีกแล้ว”
เขากำลังพูดอยู่ ท่านผู้ชมและแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างส่งเสียงตะลึงไปทั่ว
หมินอันเกอก็หันไปตามสายตาที่ทุกคนกำลังมองอยู่ ทันทีที่เห็นหลวนจื่อกำลังเดินออกมาจากด้านหลังเวทีมายังด้านหน้า เขาตะลึงจนลืมตาโต
เขาไม่ทันแม้แต่จะนั่งลง มองดูคนที่อยู่บนเวทีอย่างไม่กล้าเชื่อ
หลวนจื่อใส่ชุดกระโปรงยาวๆสีเขียวอ่อน ปลิวไสวดั่งเทพธิดา ทรงผมและการแต่งหน้าปรับเปลี่ยนไปนิดเดียว เหมือนกับก่อนหน้านี้ เดินออกมาด้วยเท้าเปล่า