เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 750 พวกคุณมีแค่ความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาวเท่านั้นหรือ
- Home
- เมียหวานของประธานเย็นชา
- บทที่ 750 พวกคุณมีแค่ความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาวเท่านั้นหรือ
บทที่ 750 พวกคุณมีแค่ความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาวเท่านั้นหรือ
“หลวนจื่อเธอ…สบายดีไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงสภาพของหลวนจื่อเมื่อครู่ เธอส่ายหน้า แทนที่จะปลอบโยนเขา เธอเลือกบอกความจริง
“ไม่ดี”
เมื่อหมินอันเกอได้ยิน ดวงตาก็ยิ่งฉายแววเจ็บปวด
“ฉันอยากเจอเธอ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นห้ามเขา
“นายควรรออีกสักหน่อยดีกว่า รอให้ผ่านไปสักพัก เมื่อหลวนจื่อสงบลง พวกนายค่อยเจอกัน นายอย่าทำให้เธอโกรธอีก”
หมินอันเกอขมวดคิ้ว เขาจ้องมองเข้าไปในบ้าน เมื่อมองไม่เห็นร่างของหลวนจื่อ สุดท้ายก็ยอมเก็บสายตากลับมาด้วยความผิดหวัง
“ถ้าหลวนจื่อไม่ต้องการพบฉัน…พรุ่งนี้ฉันค่อยมาก็แล้วกัน กี่วันนี้หลวนจื่ออยู่ที่นี่ ต้องรบกวนเธอแล้ว เธอช่วยฉันดูแลหลวนจื่อหน่อย”
เเวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“เกี่ยวกับข่าวเรื่องหลิ่วเฟยเฟย พวกนั้น…”
“ฉันจะอธิบายให้เธอฟัง”
น้ำเสียงของหมินอันเกอหนักแน่นอย่างยิ่ง พูดจบเขาก็นิ่งไปสักพัก จากนั้นถึงค่อยยอมจากไปในที่สุด
แต่เบื้องหลังของเขากลับดูเหงาหงอยอย่างยิ่ง ศีรษะตกลงเล็กน้อย ทำให้คนรู้สึกเศร้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนรอจนกระทั่งเขาจากไป เมื่อหันกลับมา ก็เห็นหลวนจื่อเดินออกมาแล้ว
เธอยืนอยู่ที่ประตู เห็นทีท่าทางที่หมินอันเกอจากไปเมื่อครู่ เธอเองก็ได้เห็นเช่นกัน
หลวนจื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าแฝงความผิดหวังเล็กน้อยอยู่บ้าง
“ฉันไม่ได้ต้องการคำอธิบายของเขา” เธอเอ่ยเข้าประเด็น “อีกทั้งแม้กระทั่งตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่า ที่แท้ฉันอยากได้คำตอบแบบไหน…”
ดวงตาของเธอเผยความสับสน เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแล้วปวดใจ จึงรีบเข้าไปทันที
“คิดไม่ออก ก็ไม่ต้องคิดแล้ว”
เธอจับมือหลวนจื่อและเดินกลับไปที่ห้อง “กี่วันนี้ คุณพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว ยังหวังให้คุณจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันอยู่”
หลวนจื่อไม่ได้ตอบ ท่าทางดูเหม่อลอย
เธอบีบฝ่ามือ
“เที๋ยนเที๋ยน คุณคิดว่าหมินอันเกอจะทำอะไรโง่ๆ หรือเปล่า?”
แววตาจองหลวนจื่อมีความกังวล เธอเอ่ย “กว่าหมินอันเกอจะกลับมาบนเวทีได้ไม่ง่ายเลย ถ้าเป็นเพราะเรื่องในครั้งนี้…ถ้าเขาไปมีเรื่องทำให้คนขุ่นเคืองเพราะฉัน จะทำยังไงดี?”
เมื่อครู่หมินอันเกอบอกว่า เขาจะแก้ปัญหาเรื่องข่าวลือกับหลิ่วเฟยเฟยพวกนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงจำได้ ตอนที่หลวนจื่อถูกเปิดเผยว่ากำลังตั้งครรภ์ เขาได้เปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนโดยตรงและถูกดับเงียบไป คราวนี้เพื่อหลวนจื่อ เขาจะทำเรื่องหุนหันพลันแล่นเหมือนเดิมหรือเปล่า?
หลวนจื่อจับเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้อย่างเป็นกังวล
“ฉันสำนึกแล้ว ฉันไม่ควรรีบร้อนออกมา บางทีนี่อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ฉันเองก็เป็นคนในวงการบันเทิงด้วยทำไมฉันถึงได้หุนหันพลันแล่นขนาดนี้?”
เธอตำหนิตัวเองอีกครั้งด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเธอแน่น
“หลวนจื่อ ไม่ใช่ความผิดของคุณ ถ้าคุณกังวล ฉันจะปรึกษากับหมินอันเกอ ไม่ให้เขาทำเรื่องโง่ ๆ ”
ทันทีที่หลวนจื่อได้ยินท่าทางก็คล้ายกับคนที่คว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ เธอรีบเอ่ย “เที๋ยนเที๋ยน คุณรีบไปช่วยฉันกล่อมเขา ฉันกังวลว่าหมินอันเกอจะทำอะไรโง่ๆ อีกครั้ง…”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าเธอกังวลมากจนใบหน้าซีดเซียว เธอรีบเอ่ย “ฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ คุณรีบกลับไปพักผ่อนก่อน ไม่ต้องห่วง”
หลวนจื่อพยักหน้า และเร่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบตามไป
เมื่อมองไปที่เงาหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ห่างออกไป เธอก็ยืนอยู่ที่เดิมสักพัก จากนั้นจึงหันหลังเตรียมกลับห้องไปด้วยท่าทางเหม่อลอย
แต่จู่ๆ กลับมีอีกเสียงดังขึ้น ก
“เมื่อกี้คนๆ นั้นไม่ใช่หมินอันเกอหรือไง?”
หลวนจื่อได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นและเห็นเป็นหล่อนเจียนีที่ยืนอยู่ไม่ไกล
เมื่อเห็นเธอ หลวนจื่อก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีและไม่สนใจคำพูดของเธอ จากนั้นจึงตรงไปที่ด้านใน
แต่หล่อนเจียนีกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป และเดินตามเธอมา
“ฉันอ่านข่าวในวันนั้นแล้ว เรื่องของหมินอันเกอและหลิ่วเฟยเฟย เป็นเรื่องเข้าใจผิดแค่นั้นจริงๆ หรือ? ฉันว่าในใจของเธอก็คงรู้ดี”
“ตอนแรกที่เธอใช้หลวนจื่อขู่ให้เขาอยู่ เธอก็น่าจะเดาได้ว่า สักวันหนึ่งหมินอันเกอจะต้องจากเธอไป ตอนนี้กว่าเขาจะมาหาเธอนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าเธอไม่คว้าโอกาสที่จะกลับไปหาเขาเอาไว้ หลังจากนี้ก็จะไม่มีโอกาสเช่นนี้แล้ว”
หลวนจื่อไม่สนใจเธอ เธอตรงไปที่ด้านใน เปิดประตู และคิดจะกั้นเธอไว้ด้านนอก
ทันใดนั้นจู่ๆ หล่อนเจียนีก็ยกมือขึ้นและขวางประตูเอาไว้ เธอกัดฟันและเอ่ย “พวกเราสองคนเหมือนกัน มีประสบการณ์เหมือนกัน ฉันเคยถูกหย่าร้างมาก่อน ตอนนี้ฉันกำลังช่วยเธอ”
ดวงตาของหลวนจื่อเย็นชา
“ฉันไม่เหมือนกับเธอ”
เรื่องเกี่ยวกับหล่อนเจียนี เธอรู้มาอยู่บ้าง
หล่อนเจียนีพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย “ต่างกันตรงไหน? ก็ถูกทิ้งเหมือนกันนั่นแหละ แต่ตอนนี้พบเป้าหมายใหม่แล้ว แต่เธอกลับแย่กว่าฉันหน่อย ในท้องยังมีก้อนน้ำมันอีกก้อนอยู่ ฉันแนะนำให้เธอรีบปีนขึ้นไปคว้าหมินอันเกอเอาไว้เสียเถอะ”
“เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ”
พูดจบ หลวนจื่อก็ปิดประตูทันที ทิ้งหล่อนเจียนีไว้ด้านนอก
แต่เธอกลับยังไม่ยอมแพ้ และยังคงตะโกนอยู่นอกประตู
“ถ้าเธอไม่ฟังฉัน ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าฝันเลยว่าจะได้อยู่กับหมินอันเกอ คนที่เขาชอบมาตลอดก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่มีที่ให้เธอเลยสักนิด!”
หลวนจื่อขมวดคิ้ว และรีบเดินไปอีกด้านหนึ่งของห้อง
แต่จนกระทั่งหล่อนเจียนีเดินจากไป ประโยคนี้กลับยังคงดังก้องอยู่ในใจของเธอ
เธอยกมือขึ้นลูบท้องเบาๆ นิ้วสั่นสะท้านเล็กน้อย
“ลูกน้อย หรือว่าฉันกับหมินอันเกอจะไร้วาสนาต่อกันแล้วจริงๆ? จากนี้ไปพวกเราควรจะทำยังไงดี?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบออกมา และในที่สุดก็เอาไว้ได้ก่อนที่จะขึ้นรถ
หมินอันเกอที่กำลังจะขึ้นรถเมื่อเห็นเธอวิ่งกลับมา ก็พูดอย่างกังวล “เป็นอะไร? หลวนจื่อเต็มใจที่จะพบฉันแล้วหรือ? ”
เขามองไปข้างหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่มีร่างของหลวนจื่อ จึงได้แต่มองกลับมาด้วยความผิดหวัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขา เธอส่ายหัวและปลอบโยนเขา “หลวนจื่อกังวลว่านายจะทำอะไรโง่ๆ กว่านายจะกลับมาสู่แวดวงบันเทิงได้ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เพราะเรื่องอื้อฉาวนี้”
หมินอันเกอฟังแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อเห็นท่าทางของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้แล้วว่าหลวนจื่อก็เดาถูก
เธอถอนหายใจ
“นายคิดจะเปิดโปงพวกเขาจริงๆ หรือ?
เธอจำได้ว่าเมื่อก่อนหมินอันเกอนั้นอ่อนโยนและสุภาพ จัดการกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างรอบด้าน
ไม่คาดคิดเลยว่า เมื่อได้พบกับหลวนจื่อ ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้
หมินอันเกอส่ายหัว เขาแค่เอ่ยถาม “หลวนจื่อเป็นห่วงฉันเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“เธอเป็นห่วงมาก”
“ฉันรู้แล้ว”
มุมปากของหมินอันเกอยกยิ้ม เขาเอ่ย “ฝากบอกหลวนจื่อ ฉันจะไม่หุนหันพลันแล่น เรื่องนี้ ฉันจะทำให้มันจบลงโดยดี ให้เวลาฉันอีกสักหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความกังวล เมื่อคิดถึงท่าทางเศร้าโศกของหลวนจื่อ เธอนิ่งคิด จากนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“พี่หมิน ในใจคุณ มีแค่ความรู้สึกเหมือนพี่น้องต่อหลวนจื่อจริงๆหรือ?