เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 755 ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายทั้งหมดเสียทีเดียว
บทที่ 755 ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายทั้งหมดเสียทีเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เคยเห็นท่าทางตื่นตระหนกแบบนี้ของหมินอันเกอมาก่อน เมื่อเธอเข้ามา หลังจากฟังคำอธิบายองคุณหมอจบแล้ว ก็เห็นหมินอันเกอนั่งอยู่ข้างเตียง จับมือของหลวนจื่อเอาไว้อย่างเบามือ บนใบหน้าปรากฏร่องรอยความยินดีปรีดาและความสุขจากการที่มีชีวิตเหลือรอดอยู่
เขาจับมือของหลวนจื่อเอาไว้แน่น ไม่ยินยอมที่จะปล่อยมือ สายตาค้างอยู่บนใบหน้าของเธอ
แม้ว่าพวกเขาจะเดินเข้ามา หมินอันเกอก็คล้ายกับว่าไม่สังเกตเห็นเลย
จนกระทั่งเวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปากว่า “พี่หมินคะ พวกผู้ดูแลบ้านนำกล้องวงจรปิดในบ้านพักมาแล้ว พี่จะไปดูกับพวกเราไหมคะ”
หมินอันเกอที่ได้ยินประโยคนี้ ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองในที่สุด
เขาปล่อยมือหลวนจื่ออย่างเบามือ ก้มตัวลงไปเหน็บปลายผ้าห่ม เห็นว่าหลวนจื่อกำลังนอนหลับลึกอยู่ ถึงได้หมุนตัวจากไป
“พวกเราไปด้วยกัน” เสียงของเขาสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด ฟังไม่ออกถึงความรู้สึกใดๆ
มีเพียงแค่ดวงตาอัลมอนด์คู่นั้น ที่ส่อแววอันตรายออกมาหลายส่วน
คล้ายกับว่า กระทั่งเขาก็สังเกตเห็นแล้วว่า การที่หลวนจื่อตกลงมาจากบันไดในครั้งนี้ ไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่เห็น
ผู้ดูแลบ้านยึดเอาห้องทำงานหัวหน้าฝ่ายของคุณหมอท่านหนึ่งมาใช้ชั่วคราว นำคลิปวิดีโอที่เอามาด้วยคัดลอกลงเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อเปิดออกดู ภาพในห้องรับแขกก็ปรากฏเข้าสู่สายตาของหลายคน
หลวนจื่อเดินเข้ามาจากข้างนอก มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่มีคน ก็ก้าวขึ้นไปยังชั้นสอง
แต่ในตอนที่เธอเพิ่งจะเดินไปถึงชั้นสอง ประตูที่อยู่ตรงหน้าก็ถูกคนเปิดออกมากะทันหัน
เป็นหล่อนเจียนี!
มือของเธอหยิบเอาซองกระดาษสีน้ำตาลออกมาจากในห้องซองหนึ่ง ถัดมา ก็ถูกหลวนจื่อเรียกเอาไว้
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ต่อมาก็ผลักกันไปมา
ในตอนที่หลวนจื่อคิดจะแย่งเอกสารมาจากมือของเธอนั้น หล่อนเจียนีก็ผลักเธอ
เมื่อดูถึงตรงนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างเสียมิได้
ภาพเบื้องหน้าคือ หลวนจื่อล้มหงายหลัง ตกลงไปจากบันได เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ส่วนหล่อนเจียนีก็ยืนมองอยู่ที่ด้านบน ไม่ขยับเขยื้อนและจากไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันหน้ากลับมามองเลยแม้แต่น้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง
หลวนจื่อยังคงนอนอยู่บนพื้น เลือดยังคงรินไหลออกมา แต่รอบด้านกลับไม่มีใครสักคนที่สามารถช่วยเธอได้
เธอร้องให้ช่วยไม่หยุด แต่กลับไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ
ผ่านไปอยู่นานมาก หลวนจื่อคล้ายกับรู้สึกตัวว่ามีเพียงตัวเองเท่านั้นที่จะสามารถช่วยตัวเองได้ จึงฝืนปีนขึ้นมา เคลื่อนไหวไปยังทิศทางของประตู เลือดที่อยู่บนร่างกายนั้นทิ้งคราบเอาไว้เป็นทางยาว
เวินเที๋ยนเที๋ยนปวดแปลบใจเป็นระลอก ในตอนที่ฉวีผิงอธิบายสถานการณ์ในที่เกิดเหตุให้เธอฟังนั้น เธอก็คาดเดาได้บ้างแล้ว
แต่ในตอนที่ได้เห็นภาพนี้เองจริงๆ ความตกตะลึงและความสงสารในใจนั้นทำให้เธอไร้หนทางที่จะควบคุม
ส่วนหมินอันเกอที่นั่งอยู่ด้านหน้า สีหน้าในตอนนี้ซีดเผือดไปแล้ว
มือที่อยู่ข้างกายทั้งคู่ของเขากำหมัดแน่น โกรธเสียจนสั่นเล็กน้อย
เห็นหลวนจื่อที่อยู่ในคลิปวิดีโอคลานไปด้านหน้า พลางร้องขอให้ช่วย รอจนถึงตอนที่งฉวีผิงมาถึง และต่อสายโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ หลวนจื่อถึงได้สลบไป
คลิปวิดีโอหยุดลง หมินอันเกอคำรามเสียงต่ำ แสดงออกถึงความรู้สึกโศกเศร้าภายในจิตใจออกมา
เขาหมุนตัวกลับไป ชกหมัดหนึ่งเข้ากับผนังของโรงพยาบาล
เสียงปึกดังขึ้น บนกำแพงมีรอยเลือดเหลือทิ้งเอาไว้
แต่เขากลับไม่ได้หยุดลงตรงนั้น กลับชกหมัดครั้งแล้วครั้งเล่า หมัดกระแทกเข้ากับกำแพงไม่หยุดหย่อน คล้ายกับว่ามีเพียงแค่แบบนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถปลดปล่อยโทสะและความเจ็บปวดในใจของเขาได้
“พี่หมินคะ………”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกคราบเลือดบนกำแพงทำให้ตื่นตะลึง รีบไปหยุดเขาเอาไว้
การกระทำของหมินอันเกอถึงได้หยุดลงในที่สุด หันหน้ามา นัยน์ตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำแล้ว เขากัดฟัน
“เที๋ยนเที๋ยน! ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะพาหลวนจื่อกลับบ้าน! สำหรับหล่อนเจียนีนั้น ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไปแน่ เธออย่ายื่นมือเข้ามายุ่ง!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า หล่อนเจียนีทำเรื่องแบบนี้ออกมา แม้ว่าหมินอันเกอจะไม่พูด เธอก็จะไม่ปล่อยไปอย่างเด็ดขาด!
หมินอันเกอสูดลมหายใจลึก พยายามใช้ความอดทนและการควบคุมทั้งหมดของตัวเองมาทำให้ความรู้สึกของตัวเองสงบลง
ในตอนนี้ฉวีผิงก็ยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลซองหนึ่งให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่หล่อนเจียนีคิดจะขโมยออกมาจากห้องหนังสือ และถูกคุณหลวนพบ จึงหยุดยั้งเอาไว้ บางทีตอนที่หลบหนีเห็นว่าเกิดเรื่องกับคุณหลวน เธอตื่นตระหนกมากเกินไป จึงทำสิ่งนี้หล่นเอาไว้ในห้องรับแขก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับมา เมื่อเปิดดู เอกสารด้านในก็เป็นแผนการและข้อมูลสรุปเกี่ยวกับบริษัทหล่อนซื่อที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดภายในประเทศในช่วงเวลานี้
เพื่อปกป้องบริษัทและช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยน หลวนจื่อถึงได้เกิดการกระทบกระทั่งกับหล่อนเจียนี
ความรู้สึกของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ถือซองกระดาษสีน้ำตาลอยู่ในมือตอนนี้นั้นหนักอึ้งอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
“หล่อนเจียนีในตอนนี้ล่ะ” เธอถามเสียงเข้ม
ฉวีผิงส่ายหน้า
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาก็ให้หลิวเหม่ยหลันอยู่ในบ้าน แต่ว่าหาทั่วทุกตึกในบ้านแล้ว ก็ไม่พบเงาร่างของหล่อนเจียนีเลย
คล้ายกับว่าเธอจะรู้ว่าเรื่องนี้หนักหนา ถึงได้หนีไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยเสียงเฉียบขาด “ให้คนไปหา แม้จะต้องพลิกเมืองทั้งเมือง ก็ต้องเอาตัวเธอออกมาให้ได้”
“เข้าใจแล้วครับคุณหนู”
ฉวีผิงพยักหน้าจริงจัง และจากไปจัดการอย่างรวดเร็ว
หมินหันเกอหมุนตัวเดินตามออกไปด้านนอก แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบเรียกเขาเอาไว้
“พี่หมินคะ แผลที่มือของพี่………”
หมินอันเกอที่ได้ยิน ก็ยกมือขึ้นมาดู แต่ก็ไม่ได้สนใจ ตอบเพียงแค่ว่า “ฉันจะไปดูหลวนจื่อ”
ถัดมา ก็เดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเงาร่างของเขาอย่างวิตกกังวล
“ไม่ต้องเป็นห่วง” จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างกายในตอนนี้เอ่ยขึ้น “บางทีเรื่องราวในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ไปทั้งหมดเสียทีเดียว”
อีกด้านหนึ่ง หมินอันเกอเพียงแค่เดินไปห้องน้ำ ยื่นมือซ้ายขวาที่เต็มไปด้วยเลือดไปใต้ก๊อกน้ำ ใช้น้ำสะอาดล้างอยู่ครู่หนึ่ง
รอจนล้างคราบเลือดด้านบนออกจนสะอาดแล้ว ก็เช็ดมือลวกๆ โดยไม่สนใจบาดแผลที่ปริออกบนหลังมือเลยแม้แต่น้อย และหมุนตัวกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยของหลวนจื่ออีกครั้ง
เธอในตอนนี้ยังคงหลับลึกอยู่ สีหน้ายังคงไม่ค่อยดี หลวนจื่อที่เอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวบริสุทธิ์ อ่อนแอเสียจนทำให้คนรู้สึกตกใจ คล้ายกับว่าวินาทีถัดไปก็จะเลือนหายไป
หมินอันเกอยืนอยู่หน้าประตู จ้องมองคนที่นอนอยู่บนเตียง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้ก้าวเข้าไป และเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาโดยไม่รู้ตัว กลัวว่าจะทำให้คนที่นอนหลับลึกอยู่ตกใจตื่น
เขานั่งลงที่ข้างเตียง ดึงมือของหลวนจื่อ ก้มหน้าลง วางหน้าผากลงบนหลังมือของเธออย่างแผ่วเบา
เอ่ยด้วยเสียงที่เบามากว่า
“ครั้งนี้ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแล้ว แม้ว่าเธอจะโกรธก็ไม่มีประโยชน์”
เสียงของเขาแฝงไปรอยสะอื้น ผ่านไปอยู่นาน ก็เอ่ยเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยินว่า “หลวนจื่อ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกกับเธอแค่พี่น้อง……….บางทีเที๋ยนเที๋ยนอาจจะพูดถูก”
หมินอันเกอเอ่ยเสียงเบา แต่ผู้รับฟังเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยยังคงหลับลึกอยู่ และไม่รู้ถึงสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด
มีเพียงแค่อุปกรณ์ในห้องที่เคลื่อนไหวไปมาไม่หยุด ส่งเสียงติ๊ดติ๊ดออกมาอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ไม่ต่ำและไม่สูง
หลังจากที่หมินอันเกอออกจากสถานที่จัดรายการไปอย่างรวดเร็ว คนในรายการก็ไม่พอใจต่อการแสดงออกเช่นนี้เป็นอย่างมาก รายการก็เกือบจะพูดออกมาตรงๆอย่างไม่ปิดบัง รอจนพี่เจี้ยนรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลวนจื่อแล้ว ก็ยังคงไม่พอใจอยู่บ้างอยู่ดี
ไม่ว่าอย่างไร จากมุมมองของพวกเขา ไม่ง่ายเลยที่หมินอันเกอได้กลับสู่เวทีใหม่อีกครั้ง แม้ว่าจะเกิดเรื่องที่ใหญ่กว่านี้ ก็ควรจะเห็นงานของตัวเองสำคัญ
แต่รอจนถึงตอนที่เขาไปถึงโรงพยาบาล เห็นหมินอันเกอนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงหลวนจื่ออย่างอกสั่นขวัญหาย ก็เข้าใจทั้งหมดขึ้นมาได้ในทันที