เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 764 คำข้อร้องเพียงสิ่งเดียวบทที่ 764 คำข้อร้องเพียงสิ่งเดียว เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังคำพูดที่ออกมาจากอารมณ์โกรธของเขา มือพลางลูบลงที่ไหล่ของเขา และพูดอธิบายว่า:“แต่ว่าฉันได้นัดกับ หลวนจื่อไว้แล้วว่าจะไปดูชุดแต่งงานด้วยกัน” จี้จิ่งเชินสูดหายใจลึก กดอารมณ์ลงแล้วรวบตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน พาออกไปอย่างใจร้อน “เที๋ยนเที๋ยนบอกผมมา ในใจของคุณผมอยู่อันดับที่เท่าไหร่?ช่วงนี้เมื่อไหร่คุณจะมีเวลาว่าง?” สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดอย่างตั้งใจ “เมื่อไหร่จะมีเวลาว่างน่ะเหรอ ฉันยังคงต้องไปดูตารางเวลาของฉัน……” เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็คล้ำลง เวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อเห็นสีหน้าที่เขาถูกตนโกหก ก็รีบพูดขึ้นว่า:“ฉันโกหกคุณ” ขณะที่พูด ก็ง้างมือไปจับที่คอของจี้จิ่งเชินและพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า:“แน่นอนว่าคุณต้องอยู่ลำดับหนึ่ง และเป็นที่หนึ่งเพียงคนเดียว” เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น สีหน้าดำคล้ำก็จางลง ค่อยๆเผยยิ้มที่มุมปาก นัยน์ตาสีดำเผยความรักและความเปี่ยมสุขออกมา ค่ำคืนวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่โรงพยาบาล เพราะว่าครั้งก่อนหมินอันเกอออกไปจากสถานที่ถ่ายทำรายการ เกือบทำให้รายการล่ม เพื่อเป็นการชดเชยทางรายการจึงได้เสนอความร่วมมืออีกครั้ง เดิมทีหมินอันเกอไม่ได้อยากจะจากไป แต่ว่าจากการสนับสนุนจากหลวนจื่อ รวมทั้งสุขภาพของหลวนจื่อที่ดีวันดีคืน วันรุ่งขึ้นก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาจึงวางใจที่จะจากไป หลังจากที่ไปส่งหมินอันเกอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดินกลับเข้ามา เมื่อเห็นหลวนจื่อยังคงมองไปยังหน้าประตู ยิ้มพลางพูดเย้าแหย่ว่า :“ฉันเห็นปล้ว เขาเอาเอวกางเกงของคุณไปด้วยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไปเข้าร่วมรายการแบบนั้น” เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลวนจื่อค่อยๆแดงขึ้น เธอก้มหน้าก้มตา แววตาเผยความสงสัยออกมา ผ่านไปนานมาก ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า:“เที๋ยนเที๋ยน คุณคิดว่าหมินอันเกอเขาชอบฉันจริงๆหรือเปล่า?” เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถามออกมาแบบนี้ หันกลับไปมอง กลับเห็นใบหน้าของหลวนจื่อที่เผยความสับสนออกมา แววตาร่ำไร ราวกับกำลังถามตนและก็เหมือนกำลังถามเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ฉันไม่รู้ว่าควรที่จะไปต่อกับเขาไหม เพราะจริงๆแล้วฉันควรจากไปถึงจะถูก……” “หมินอันเกออยู่ในวงการบันเทิงราบรื่นมาโดยตลอด อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นมักเกิดขึ้นหลังจากการปรากฏตัวของฉัน การปกป้องของเขาทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข แต่ฉันกลับไม่รู้เลยว่า หากยังคงอยู่ข้างกายเขา หมินอันเกอจะทำฝันให้เป็นจริงได้ไหม อีกทั้ง ……” หลวนจื่อเงยหน้าขึ้นมา ประกบมือ น้ำเสียงต่ำลงเล็กน้อย “ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความจริง ……” เพราะว่ารอคอยมานานมาก สิ่งที่รอคอยจู่ๆก็มาถึง และก็กลับทำให้เธอลังเลใจ เพราะความสุขมีมากเกินไป สวยงามเกินไป ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเธอแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว ความเครียดและไม่กล้าที่จะเชื่อ เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่เขา พลางยิ้มออกมา เพราะความรู้สึกของหลวนจื่อในเวลานี้ เธอนั้นเข้าใจดี ครั้งแรกที่เธอได้ยินจี้จิ่งเชินพูดความในใจของเขาออกมา ภายในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดเช่นเดียวกับหลวนจื่ออย่างไม่ผิดเพี้ยน เพราะความสุขที่มากล้น ทำให้เกิดความสงสัย เพราะมันสวยงามเกินไป ทำให้คนไม่กล้าที่จะเชื่อ อยากที่จะยอมรับ แต่ว่าใจในก็ไม่สงบสุข แต่หากปฏิเสธก็ขัดแย้งกับความปรารถนาที่รุนแรงของตน เวินเที๋ยนเที๋ยนดีใจอย่างคาดไม่ถึงที่วันนี้ตอนเย็นมีธุระพอดีก็เลยจากไป แต่เธอกลับกลับมาที่โรงพยาบาล จะปล่อยให้หลวนจื่ออยู่ในอารมณ์แบบนี้ไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเธอจะต้องตกอยู่ในสถาณการณ์เดียวกับเธอ อีกทั้งตอนนี้เธอยังตั้งท้องอยู่ ไม่สามารถรับเรื่องกระทบจิตใจมากได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนคิด พลางนั่งลงข้างๆหลวนจื่อ จับมือของเธอและกุมมือเธอไว้ “คุณเป็นกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ?” สายตาของหลวนจื่อแสดงความลังเลออกมา “หมินอันนเกอบอกว่าเขาอาจจะชอบฉัน ……” “ก็แค่อาจจะชอบเหรอ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับ สีหน้าของหลวนจื่อแดงก่ำ พลางพูดต่อว่า:“เขาบอกว่าเขาชอบฉัน” “ไม่ใช่ความชอบแบบพี่น้อง ไม่ใช่ความชอบแบบเพื่อน อาจจะเป็น ……” “ความรัก”เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อจะประโยคของเธอ หางตาของหลวนจื่อมีประกายออกมาเล็กน้อย อ้าปากแต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อว่า:“หลวนจื่อ เธอต้องเชื่อเธอได้และได้ยินทั้งหมด เชื่อหมินอันเกอ และก็เชื่อตัวเธอเอง หากเธอไม่ลอง เธอจะรู้ได้ยังไงว่าทั้งสองไม่อาจเดินไปด้วยกันได้?หากยังไม่ลอง แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าหมินอันเกอไม่ได้รักเธอ?” สายตาของหลวนจื่อเป็นประกาย ก้มหน้าเข้าสู่สภาวะครุ่นคิด “ฉันคิดว่า ฉันต้องการเวลา ค่อยๆครุ่นคิด” เมื่อพูดจบ เธอก็พลิกตัวลงนอน เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเธอที่กำลังอยู่ในสภาวะครุ่นคิด ใบหน้าเผยความปิติสุขออกมา เธอนอนลงเป็นเพื่อนหล่อนอยู่ข้างๆ วันรุ่งขึ้น ขณะที่หมินอันเกออยู่ต่างจังหวัด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาหลวนจื่อจัดการเรื่องการออกจากโรงพยาบาล หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็ช่วยหลวนจื่อจัดเตรียมข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ แต่เคอเหยียนรุ่ยกลับมาถึงก่อน เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขา ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าบ่ายนี้พวกเราจะไปหาคุณ?” เคอเหยียนรุ่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางพูดขึ้นว่า:“สุขภาพของหลวนจื่อยังไม่หายเป็นปกติ แล้วจะให้พวกคุณมาหาผมได้ยังไงกัน?อีกอย่างวันนี้ผมก็ไม่มีธุระอะไรพอดี” เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“เคอเหยียนรุ่ยนักออกแบบเนี้ยนะจะไม่มีธุระ?ต้องยุ่งมากจนปลีกตัวไม่ได้เป็นแน่?” งานแสดงครั้งก่อนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างชื่นชมผลงานของเขา ทำให้เคอเหยียนรุ่ยมีงานอย่างไม่ขาดสาย และทำสัญญากับแบรนด์ต่างๆมากมาย ตอนนี้หน้าที่การงานอยู่ในช่วงขาขึ้น หากไม่ได้เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ครั้งนี้เธอก็คงไม่อาจเชิญเคอเหยียนรุ่ยมาได้ง่ายๆ เมื่อเคอเหยียนรุ่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เผยความถ่อมตนออกมาไม่น้อย “การที่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม” เมื่อเขาเดินเข้าไป และเห็นหลวนจื่อนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก หลังจากที่ทักทายเธอสองสามประโยคแล้ว เคอเหยียนรุ่ยจึงหันศีรษะมามองที่เวินเที๋ยนเที๋ยน มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ภายในดวงตาก็ปรากฏความคิดออกมาบางอย่าง พลางถามขึ้นว่า:“คุณเวิน สำหรับชุดแต่งงานของคุณมีความต้องการพิเศษอะไรไหมครับ?” ใช่แล้ว ครั้งนี้การที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนัดเคอเหยียนรุ่ยก็เพื่อที่จะให้เขาออกแบบชุดแต่งงานให้กับเธอ หลังจากที่คราวก่อนเห็นหลวนจื่อจัดงานแสดงโชว์ในครั้งนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชอบผลงานออกแบบของเคอเหยียนรุ่ยเป็นพิเศษ ในขณะที่หลวนจื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเล่าความคิดของตนให้เธอฟัง หลวนจื่อจึงช่วยติดต่อเคอเหยียนรุ่ยให้ การที่พบกันวันนี้ก็เพื่อพูดคุยรายละเอียดของชุดแต่งงาน เมื่อคิดถึงท่าทีหึงหวงและผิดหวังของจี้จิ่งเชินเมื่อทราบว่าตนจะออกมาพบกับ เคอเหยียนรุ่ย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เธอตอบกลับว่า:“ก็ไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร คุณจัดการตามความสามารถของคุณเลย” เคอเหยียนรุ่ยพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก หลวนจื่อก็แย่งพูดขึ้นก่อน “มีเพียงความต้องการเดียวคือ อย่าโป้จนเปิดเผยเกินไป ต้องดูเรียบร้อยหน่อย ยิ่งปกปิดเยอะยิ่งดี” เมื่อพูดจบ เธอก็หันมากระพริบตาให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน พูดหยอกล้อว่า:“ฉันคิดว่า จี้จิ่งเชินก็ต้องคิดแบบฉันอย่างแน่นอน ใช่ไหม?” สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงก่ำ เคอเหยียนรุ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“ใช่เหรอ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงพยักหน้า หน้าแดงเป็นอย่างมาก “งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ”
- Home
- เมียหวานของประธานเย็นชา
- บทที่ 764 คำข้อร้องเพียงสิ่งเดียวบทที่ 764 คำข้อร้องเพียงสิ่งเดียว เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังคำพูดที่ออกมาจากอารมณ์โกรธของเขา มือพลางลูบลงที่ไหล่ของเขา และพูดอธิบายว่า:“แต่ว่าฉันได้นัดกับ หลวนจื่อไว้แล้วว่าจะไปดูชุดแต่งงานด้วยกัน” จี้จิ่งเชินสูดหายใจลึก กดอารมณ์ลงแล้วรวบตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน พาออกไปอย่างใจร้อน “เที๋ยนเที๋ยนบอกผมมา ในใจของคุณผมอยู่อันดับที่เท่าไหร่?ช่วงนี้เมื่อไหร่คุณจะมีเวลาว่าง?” สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดอย่างตั้งใจ “เมื่อไหร่จะมีเวลาว่างน่ะเหรอ ฉันยังคงต้องไปดูตารางเวลาของฉัน……” เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็คล้ำลง เวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อเห็นสีหน้าที่เขาถูกตนโกหก ก็รีบพูดขึ้นว่า:“ฉันโกหกคุณ” ขณะที่พูด ก็ง้างมือไปจับที่คอของจี้จิ่งเชินและพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า:“แน่นอนว่าคุณต้องอยู่ลำดับหนึ่ง และเป็นที่หนึ่งเพียงคนเดียว” เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น สีหน้าดำคล้ำก็จางลง ค่อยๆเผยยิ้มที่มุมปาก นัยน์ตาสีดำเผยความรักและความเปี่ยมสุขออกมา ค่ำคืนวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่โรงพยาบาล เพราะว่าครั้งก่อนหมินอันเกอออกไปจากสถานที่ถ่ายทำรายการ เกือบทำให้รายการล่ม เพื่อเป็นการชดเชยทางรายการจึงได้เสนอความร่วมมืออีกครั้ง เดิมทีหมินอันเกอไม่ได้อยากจะจากไป แต่ว่าจากการสนับสนุนจากหลวนจื่อ รวมทั้งสุขภาพของหลวนจื่อที่ดีวันดีคืน วันรุ่งขึ้นก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาจึงวางใจที่จะจากไป หลังจากที่ไปส่งหมินอันเกอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดินกลับเข้ามา เมื่อเห็นหลวนจื่อยังคงมองไปยังหน้าประตู ยิ้มพลางพูดเย้าแหย่ว่า :“ฉันเห็นปล้ว เขาเอาเอวกางเกงของคุณไปด้วยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไปเข้าร่วมรายการแบบนั้น” เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลวนจื่อค่อยๆแดงขึ้น เธอก้มหน้าก้มตา แววตาเผยความสงสัยออกมา ผ่านไปนานมาก ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า:“เที๋ยนเที๋ยน คุณคิดว่าหมินอันเกอเขาชอบฉันจริงๆหรือเปล่า?” เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถามออกมาแบบนี้ หันกลับไปมอง กลับเห็นใบหน้าของหลวนจื่อที่เผยความสับสนออกมา แววตาร่ำไร ราวกับกำลังถามตนและก็เหมือนกำลังถามเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ฉันไม่รู้ว่าควรที่จะไปต่อกับเขาไหม เพราะจริงๆแล้วฉันควรจากไปถึงจะถูก……” “หมินอันเกออยู่ในวงการบันเทิงราบรื่นมาโดยตลอด อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นมักเกิดขึ้นหลังจากการปรากฏตัวของฉัน การปกป้องของเขาทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข แต่ฉันกลับไม่รู้เลยว่า หากยังคงอยู่ข้างกายเขา หมินอันเกอจะทำฝันให้เป็นจริงได้ไหม อีกทั้ง ……” หลวนจื่อเงยหน้าขึ้นมา ประกบมือ น้ำเสียงต่ำลงเล็กน้อย “ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความจริง ……” เพราะว่ารอคอยมานานมาก สิ่งที่รอคอยจู่ๆก็มาถึง และก็กลับทำให้เธอลังเลใจ เพราะความสุขมีมากเกินไป สวยงามเกินไป ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเธอแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว ความเครียดและไม่กล้าที่จะเชื่อ เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่เขา พลางยิ้มออกมา เพราะความรู้สึกของหลวนจื่อในเวลานี้ เธอนั้นเข้าใจดี ครั้งแรกที่เธอได้ยินจี้จิ่งเชินพูดความในใจของเขาออกมา ภายในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดเช่นเดียวกับหลวนจื่ออย่างไม่ผิดเพี้ยน เพราะความสุขที่มากล้น ทำให้เกิดความสงสัย เพราะมันสวยงามเกินไป ทำให้คนไม่กล้าที่จะเชื่อ อยากที่จะยอมรับ แต่ว่าใจในก็ไม่สงบสุข แต่หากปฏิเสธก็ขัดแย้งกับความปรารถนาที่รุนแรงของตน เวินเที๋ยนเที๋ยนดีใจอย่างคาดไม่ถึงที่วันนี้ตอนเย็นมีธุระพอดีก็เลยจากไป แต่เธอกลับกลับมาที่โรงพยาบาล จะปล่อยให้หลวนจื่ออยู่ในอารมณ์แบบนี้ไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเธอจะต้องตกอยู่ในสถาณการณ์เดียวกับเธอ อีกทั้งตอนนี้เธอยังตั้งท้องอยู่ ไม่สามารถรับเรื่องกระทบจิตใจมากได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนคิด พลางนั่งลงข้างๆหลวนจื่อ จับมือของเธอและกุมมือเธอไว้ “คุณเป็นกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ?” สายตาของหลวนจื่อแสดงความลังเลออกมา “หมินอันนเกอบอกว่าเขาอาจจะชอบฉัน ……” “ก็แค่อาจจะชอบเหรอ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับ สีหน้าของหลวนจื่อแดงก่ำ พลางพูดต่อว่า:“เขาบอกว่าเขาชอบฉัน” “ไม่ใช่ความชอบแบบพี่น้อง ไม่ใช่ความชอบแบบเพื่อน อาจจะเป็น ……” “ความรัก”เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อจะประโยคของเธอ หางตาของหลวนจื่อมีประกายออกมาเล็กน้อย อ้าปากแต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อว่า:“หลวนจื่อ เธอต้องเชื่อเธอได้และได้ยินทั้งหมด เชื่อหมินอันเกอ และก็เชื่อตัวเธอเอง หากเธอไม่ลอง เธอจะรู้ได้ยังไงว่าทั้งสองไม่อาจเดินไปด้วยกันได้?หากยังไม่ลอง แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าหมินอันเกอไม่ได้รักเธอ?” สายตาของหลวนจื่อเป็นประกาย ก้มหน้าเข้าสู่สภาวะครุ่นคิด “ฉันคิดว่า ฉันต้องการเวลา ค่อยๆครุ่นคิด” เมื่อพูดจบ เธอก็พลิกตัวลงนอน เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเธอที่กำลังอยู่ในสภาวะครุ่นคิด ใบหน้าเผยความปิติสุขออกมา เธอนอนลงเป็นเพื่อนหล่อนอยู่ข้างๆ วันรุ่งขึ้น ขณะที่หมินอันเกออยู่ต่างจังหวัด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาหลวนจื่อจัดการเรื่องการออกจากโรงพยาบาล หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็ช่วยหลวนจื่อจัดเตรียมข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ แต่เคอเหยียนรุ่ยกลับมาถึงก่อน เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขา ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าบ่ายนี้พวกเราจะไปหาคุณ?” เคอเหยียนรุ่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางพูดขึ้นว่า:“สุขภาพของหลวนจื่อยังไม่หายเป็นปกติ แล้วจะให้พวกคุณมาหาผมได้ยังไงกัน?อีกอย่างวันนี้ผมก็ไม่มีธุระอะไรพอดี” เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“เคอเหยียนรุ่ยนักออกแบบเนี้ยนะจะไม่มีธุระ?ต้องยุ่งมากจนปลีกตัวไม่ได้เป็นแน่?” งานแสดงครั้งก่อนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างชื่นชมผลงานของเขา ทำให้เคอเหยียนรุ่ยมีงานอย่างไม่ขาดสาย และทำสัญญากับแบรนด์ต่างๆมากมาย ตอนนี้หน้าที่การงานอยู่ในช่วงขาขึ้น หากไม่ได้เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ครั้งนี้เธอก็คงไม่อาจเชิญเคอเหยียนรุ่ยมาได้ง่ายๆ เมื่อเคอเหยียนรุ่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เผยความถ่อมตนออกมาไม่น้อย “การที่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม” เมื่อเขาเดินเข้าไป และเห็นหลวนจื่อนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก หลังจากที่ทักทายเธอสองสามประโยคแล้ว เคอเหยียนรุ่ยจึงหันศีรษะมามองที่เวินเที๋ยนเที๋ยน มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ภายในดวงตาก็ปรากฏความคิดออกมาบางอย่าง พลางถามขึ้นว่า:“คุณเวิน สำหรับชุดแต่งงานของคุณมีความต้องการพิเศษอะไรไหมครับ?” ใช่แล้ว ครั้งนี้การที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนัดเคอเหยียนรุ่ยก็เพื่อที่จะให้เขาออกแบบชุดแต่งงานให้กับเธอ หลังจากที่คราวก่อนเห็นหลวนจื่อจัดงานแสดงโชว์ในครั้งนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชอบผลงานออกแบบของเคอเหยียนรุ่ยเป็นพิเศษ ในขณะที่หลวนจื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเล่าความคิดของตนให้เธอฟัง หลวนจื่อจึงช่วยติดต่อเคอเหยียนรุ่ยให้ การที่พบกันวันนี้ก็เพื่อพูดคุยรายละเอียดของชุดแต่งงาน เมื่อคิดถึงท่าทีหึงหวงและผิดหวังของจี้จิ่งเชินเมื่อทราบว่าตนจะออกมาพบกับ เคอเหยียนรุ่ย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เธอตอบกลับว่า:“ก็ไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร คุณจัดการตามความสามารถของคุณเลย” เคอเหยียนรุ่ยพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก หลวนจื่อก็แย่งพูดขึ้นก่อน “มีเพียงความต้องการเดียวคือ อย่าโป้จนเปิดเผยเกินไป ต้องดูเรียบร้อยหน่อย ยิ่งปกปิดเยอะยิ่งดี” เมื่อพูดจบ เธอก็หันมากระพริบตาให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน พูดหยอกล้อว่า:“ฉันคิดว่า จี้จิ่งเชินก็ต้องคิดแบบฉันอย่างแน่นอน ใช่ไหม?” สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงก่ำ เคอเหยียนรุ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“ใช่เหรอ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงพยักหน้า หน้าแดงเป็นอย่างมาก “งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ”
บทที่ 764 คำข้อร้องเพียงสิ่งเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังคำพูดที่ออกมาจากอารมณ์โกรธของเขา มือพลางลูบลงที่ไหล่ของเขา และพูดอธิบายว่า:“แต่ว่าฉันได้นัดกับ หลวนจื่อไว้แล้วว่าจะไปดูชุดแต่งงานด้วยกัน”
จี้จิ่งเชินสูดหายใจลึก กดอารมณ์ลงแล้วรวบตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน พาออกไปอย่างใจร้อน
“เที๋ยนเที๋ยนบอกผมมา ในใจของคุณผมอยู่อันดับที่เท่าไหร่?ช่วงนี้เมื่อไหร่คุณจะมีเวลาว่าง?”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดอย่างตั้งใจ
“เมื่อไหร่จะมีเวลาว่างน่ะเหรอ ฉันยังคงต้องไปดูตารางเวลาของฉัน……”
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็คล้ำลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อเห็นสีหน้าที่เขาถูกตนโกหก ก็รีบพูดขึ้นว่า:“ฉันโกหกคุณ”
ขณะที่พูด ก็ง้างมือไปจับที่คอของจี้จิ่งเชินและพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า:“แน่นอนว่าคุณต้องอยู่ลำดับหนึ่ง และเป็นที่หนึ่งเพียงคนเดียว”
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น สีหน้าดำคล้ำก็จางลง ค่อยๆเผยยิ้มที่มุมปาก นัยน์ตาสีดำเผยความรักและความเปี่ยมสุขออกมา
ค่ำคืนวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่โรงพยาบาล
เพราะว่าครั้งก่อนหมินอันเกอออกไปจากสถานที่ถ่ายทำรายการ เกือบทำให้รายการล่ม เพื่อเป็นการชดเชยทางรายการจึงได้เสนอความร่วมมืออีกครั้ง
เดิมทีหมินอันเกอไม่ได้อยากจะจากไป แต่ว่าจากการสนับสนุนจากหลวนจื่อ รวมทั้งสุขภาพของหลวนจื่อที่ดีวันดีคืน วันรุ่งขึ้นก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาจึงวางใจที่จะจากไป
หลังจากที่ไปส่งหมินอันเกอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดินกลับเข้ามา
เมื่อเห็นหลวนจื่อยังคงมองไปยังหน้าประตู ยิ้มพลางพูดเย้าแหย่ว่า :“ฉันเห็นปล้ว เขาเอาเอวกางเกงของคุณไปด้วยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไปเข้าร่วมรายการแบบนั้น”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลวนจื่อค่อยๆแดงขึ้น
เธอก้มหน้าก้มตา แววตาเผยความสงสัยออกมา
ผ่านไปนานมาก ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า:“เที๋ยนเที๋ยน คุณคิดว่าหมินอันเกอเขาชอบฉันจริงๆหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถามออกมาแบบนี้ หันกลับไปมอง กลับเห็นใบหน้าของหลวนจื่อที่เผยความสับสนออกมา แววตาร่ำไร ราวกับกำลังถามตนและก็เหมือนกำลังถามเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ฉันไม่รู้ว่าควรที่จะไปต่อกับเขาไหม เพราะจริงๆแล้วฉันควรจากไปถึงจะถูก……”
“หมินอันเกออยู่ในวงการบันเทิงราบรื่นมาโดยตลอด อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นมักเกิดขึ้นหลังจากการปรากฏตัวของฉัน การปกป้องของเขาทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข แต่ฉันกลับไม่รู้เลยว่า หากยังคงอยู่ข้างกายเขา หมินอันเกอจะทำฝันให้เป็นจริงได้ไหม อีกทั้ง ……”
หลวนจื่อเงยหน้าขึ้นมา ประกบมือ น้ำเสียงต่ำลงเล็กน้อย
“ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความจริง ……”
เพราะว่ารอคอยมานานมาก สิ่งที่รอคอยจู่ๆก็มาถึง และก็กลับทำให้เธอลังเลใจ
เพราะความสุขมีมากเกินไป สวยงามเกินไป ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ
ใบหน้าของเธอแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว ความเครียดและไม่กล้าที่จะเชื่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่เขา พลางยิ้มออกมา
เพราะความรู้สึกของหลวนจื่อในเวลานี้ เธอนั้นเข้าใจดี
ครั้งแรกที่เธอได้ยินจี้จิ่งเชินพูดความในใจของเขาออกมา ภายในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดเช่นเดียวกับหลวนจื่ออย่างไม่ผิดเพี้ยน
เพราะความสุขที่มากล้น ทำให้เกิดความสงสัย เพราะมันสวยงามเกินไป ทำให้คนไม่กล้าที่จะเชื่อ
อยากที่จะยอมรับ แต่ว่าใจในก็ไม่สงบสุข แต่หากปฏิเสธก็ขัดแย้งกับความปรารถนาที่รุนแรงของตน
เวินเที๋ยนเที๋ยนดีใจอย่างคาดไม่ถึงที่วันนี้ตอนเย็นมีธุระพอดีก็เลยจากไป แต่เธอกลับกลับมาที่โรงพยาบาล จะปล่อยให้หลวนจื่ออยู่ในอารมณ์แบบนี้ไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเธอจะต้องตกอยู่ในสถาณการณ์เดียวกับเธอ
อีกทั้งตอนนี้เธอยังตั้งท้องอยู่ ไม่สามารถรับเรื่องกระทบจิตใจมากได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิด พลางนั่งลงข้างๆหลวนจื่อ จับมือของเธอและกุมมือเธอไว้
“คุณเป็นกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ?”
สายตาของหลวนจื่อแสดงความลังเลออกมา
“หมินอันนเกอบอกว่าเขาอาจจะชอบฉัน ……”
“ก็แค่อาจจะชอบเหรอ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับ
สีหน้าของหลวนจื่อแดงก่ำ พลางพูดต่อว่า:“เขาบอกว่าเขาชอบฉัน”
“ไม่ใช่ความชอบแบบพี่น้อง ไม่ใช่ความชอบแบบเพื่อน อาจจะเป็น ……”
“ความรัก”เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อจะประโยคของเธอ
หางตาของหลวนจื่อมีประกายออกมาเล็กน้อย อ้าปากแต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อว่า:“หลวนจื่อ เธอต้องเชื่อเธอได้และได้ยินทั้งหมด เชื่อหมินอันเกอ และก็เชื่อตัวเธอเอง หากเธอไม่ลอง เธอจะรู้ได้ยังไงว่าทั้งสองไม่อาจเดินไปด้วยกันได้?หากยังไม่ลอง แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าหมินอันเกอไม่ได้รักเธอ?”
สายตาของหลวนจื่อเป็นประกาย ก้มหน้าเข้าสู่สภาวะครุ่นคิด
“ฉันคิดว่า ฉันต้องการเวลา ค่อยๆครุ่นคิด”
เมื่อพูดจบ เธอก็พลิกตัวลงนอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเธอที่กำลังอยู่ในสภาวะครุ่นคิด ใบหน้าเผยความปิติสุขออกมา เธอนอนลงเป็นเพื่อนหล่อนอยู่ข้างๆ
วันรุ่งขึ้น ขณะที่หมินอันเกออยู่ต่างจังหวัด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาหลวนจื่อจัดการเรื่องการออกจากโรงพยาบาล
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็ช่วยหลวนจื่อจัดเตรียมข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ แต่เคอเหยียนรุ่ยกลับมาถึงก่อน
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขา ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าบ่ายนี้พวกเราจะไปหาคุณ?”
เคอเหยียนรุ่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางพูดขึ้นว่า:“สุขภาพของหลวนจื่อยังไม่หายเป็นปกติ แล้วจะให้พวกคุณมาหาผมได้ยังไงกัน?อีกอย่างวันนี้ผมก็ไม่มีธุระอะไรพอดี”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“เคอเหยียนรุ่ยนักออกแบบเนี้ยนะจะไม่มีธุระ?ต้องยุ่งมากจนปลีกตัวไม่ได้เป็นแน่?”
งานแสดงครั้งก่อนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างชื่นชมผลงานของเขา ทำให้เคอเหยียนรุ่ยมีงานอย่างไม่ขาดสาย และทำสัญญากับแบรนด์ต่างๆมากมาย ตอนนี้หน้าที่การงานอยู่ในช่วงขาขึ้น
หากไม่ได้เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ครั้งนี้เธอก็คงไม่อาจเชิญเคอเหยียนรุ่ยมาได้ง่ายๆ
เมื่อเคอเหยียนรุ่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เผยความถ่อมตนออกมาไม่น้อย
“การที่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม”
เมื่อเขาเดินเข้าไป และเห็นหลวนจื่อนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก หลังจากที่ทักทายเธอสองสามประโยคแล้ว เคอเหยียนรุ่ยจึงหันศีรษะมามองที่เวินเที๋ยนเที๋ยน มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ภายในดวงตาก็ปรากฏความคิดออกมาบางอย่าง
พลางถามขึ้นว่า:“คุณเวิน สำหรับชุดแต่งงานของคุณมีความต้องการพิเศษอะไรไหมครับ?”
ใช่แล้ว
ครั้งนี้การที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนัดเคอเหยียนรุ่ยก็เพื่อที่จะให้เขาออกแบบชุดแต่งงานให้กับเธอ
หลังจากที่คราวก่อนเห็นหลวนจื่อจัดงานแสดงโชว์ในครั้งนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชอบผลงานออกแบบของเคอเหยียนรุ่ยเป็นพิเศษ
ในขณะที่หลวนจื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเล่าความคิดของตนให้เธอฟัง หลวนจื่อจึงช่วยติดต่อเคอเหยียนรุ่ยให้
การที่พบกันวันนี้ก็เพื่อพูดคุยรายละเอียดของชุดแต่งงาน
เมื่อคิดถึงท่าทีหึงหวงและผิดหวังของจี้จิ่งเชินเมื่อทราบว่าตนจะออกมาพบกับ เคอเหยียนรุ่ย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
เธอตอบกลับว่า:“ก็ไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร คุณจัดการตามความสามารถของคุณเลย”
เคอเหยียนรุ่ยพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก หลวนจื่อก็แย่งพูดขึ้นก่อน
“มีเพียงความต้องการเดียวคือ อย่าโป้จนเปิดเผยเกินไป ต้องดูเรียบร้อยหน่อย ยิ่งปกปิดเยอะยิ่งดี”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันมากระพริบตาให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน พูดหยอกล้อว่า:“ฉันคิดว่า จี้จิ่งเชินก็ต้องคิดแบบฉันอย่างแน่นอน ใช่ไหม?”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงก่ำ
เคอเหยียนรุ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“ใช่เหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงพยักหน้า หน้าแดงเป็นอย่างมาก
“งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ”