เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 792 เกิดเรื่องแล้ว!
บทที่ 792 เกิดเรื่องแล้ว!
“จี้จิ่งเชิน!” เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจอุทานออกมา รีบร้อนขัดขวางเขา “ไม่เอาแบบนี้ พวกเราอยู่ที่ระเบียง……”
ถ้าพ่อบ้านมาเห็นเขา ต่อไปเธอจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอพวกเขา?
ผู้ชายคนนี้ไม่รักษาสัญญาเลยสักนิด!
แต่พูดถึงสัญญา……
“หกชั่วโมงของวันนี้ใช้ไปหมดแล้ว!”
ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดถึงจุดนี้ขึ้นมา
“หกชั่วโมง? มันคืออะไร? ผมเคยพูดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?”
จี้จิ่งเชินเปลี่ยนใจอย่างไม่สะทกสะท้าน ยังมีการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ของเขากำลังบอกเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่เรื่องหนึ่ง
“ก่อนหน้านี้คุณรับปากฉันแล้วชัดๆ ……”
ใบหน้าน่ารักของเวินเที๋ยนเที๋ยนย้อมสีแดงระเรื่อ ราวกับผลแอปเปิลสุก
ทำให้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากกัดสักคำ
จี้จิ่งเชินตามใจตัวเองด้วยการแนบชิดเข้าไปทิ้งรอยจูบไว้บนหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลบไม่ทันจึงถูกจูบไปเต็มๆ
เธอจะหดคอไปข้างหลัง กลับถูกฝ่ามือใหญ่บังคับไว้ เดิมเป็นเพียงจูบเบาบาง กลับถูกจี้จิ่งเชินพัฒนากลายเป็นจุมพิตลึกซึ้ง
สุดท้ายแล้วลมหายใจของพวกเขาทั้งคู่ก็ขาดเป็นห้วงๆ
“คุณ คุณรอเดี๋ยวก่อน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างลมหายใจไม่พอ
เธอไม่ต้องการให้เรี่ยวแรงไม่เพียงพอสำหรับรับมือกับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้
นัยน์ตาสีดำขลับราวกับน้ำหมึกของจี้จิ่งเชินจับจ้องที่เวินเที๋ยนเที๋ยน เหมือนหมาป่าที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อของตัวเองได้ตลอดเวลา
ความปรารถนาของเขานั้นพรั่งพร้อมแล้ว แต่เพราะสติของเขากลับรั้งเขาไว้
“เที๋ยนเที๋ยน คุณรู้ไหมว่าคุณอร่อยแค่ไหน คุณหวานเหมือนชื่อคุณเลย”
จี้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แล้วทอดถอนหายใจออกมาเสียงเบา
ได้ยินแบบนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกจนใจ
อะไรคือหวานเหมือนชื่อของเธอ เธอไม่ใช่ของกินเสียหน่อย……
เธอดิ้นจะหลุดอย่างไม่รู้ตัว กลับถูกเขาพูดขัดไว้ “ทางที่ดีอย่าดิ้น”
เธอชะงักค้างอยู่ที่เดิมในทันที ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงอันตรายของเขาเท่านั้น
“คุณ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงหูแดงพูดไม่ออก น่าอายเกินไปแล้ว!
“ให้ผมกอดคุณดีๆ”
ฝ่ามือของจี้จิ่งเชินลูบเบาๆ บนหลังที่แข็งทื่อขของเวินเที๋ยนเที๋ยน “ผมรู้อะไรควรไม่ควร”
น้ำเสียงสุขุมเยือกเย็นของเขา ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนสงบลงได้อย่างแปลกประหลาด
จี้จิ่งเชินสูดลมหายใจแถวหลังลำคอของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ราวกับกำลังดมกลิ่นหอมจากตัวเธอและราวกับยืนยันกลิ่นบนตัวของเธอเอง
เขารู้ว่างานแต่งงานวันพรุ่งนี้สำคัญแค่ไหน ทนมาได้เดือนตั้งเดือนกว่า ทนต่ออีกคืนจะเป็นไรไป
แต่เขาอยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าใจ
ว่าเขาแคร์เธอแค่ไหน
“ขอบคุณ”
แน่นอนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังออกว่าจี้จิ่งเชินนั้นลำบากกับการอดทนแค่ไหน
เธอไม่เคยคิดมาก่อน จี้จิ่งเชินจะสามารถทำเพื่อเธอได้ถึงขนาดนี้
“ระหว่างเรายังจำเป็นต้องเกรงใจไหม? คุณนายจี้?”
จี้จิ่งเชินยกยิ้มบาง ศีรษะแนบชิดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน “แค่คุณไม่ลงโทษที่ผมอยู่ด้วยเกินเวลาก็พอแล้ว”
เวลาที่อยู่ด้วย?
จริงสิ เธอลืมไปแล้ว จี้จิ่งเชินใช้เวลาหกชั่วโมงของวันนี้หมดแล้ว ที่เกินมาล้วนเป็นบัญชีติดค้าง
คนขี้โกงคนนี้นี่!
“ไม่ได้ ควรลงโทษก็ต้องลงโทษ!”
รอยยิ้มฉายผ่านแววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ปากกลับพูดว่าต้องการลงโทษเขา
จี้จิ่งเชินไม่พลาดรอยยิ้มของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่พยายามซุกซ่อนไว้
เขายังคงกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ แสร้งทำเป็นตกใจคำว่า “ลงโทษ” ของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นคุณคิดจะลงโทษผมยังไง?”
“คุณคิดว่าไงล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ตอบคำถามเขา กลับโยนคำถามกลับไปให้เขาแทน
“ผมคิดว่า……” จี้จิ่งเชินครุ่นคิดอยู่สักพัก “แค่คุณไม่ลงโทษผมไม่ให้เข้าห้องนอนก็โอเคแล้ว”
เขาจงใจพูดพลางเป่าลมหายใจใส่หูของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ทำเธอจั๊กจี้ใบหูไปหมด
“งั้นก็ลงโทษคุณคืนวันแต่งงานไม่ให้เข้าห้องนอน!”
เธอพูดไปแบบนั้นแต่ไม่ได้ต้องการลงโทษเขาจริงๆ
แต่เพราะวันแต่งงานนั้นมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ ต้องจัดการแขก ต้องต้อนรับเพื่อนสนิท
ไม่ว่าเธอหรือจี้จิ่งเชินทั้งคู่ต้องเหนื่อยเอามากๆ อย่างแน่นอน
แต่ว่าถึงตนจะพูดแบบนั้น จี้จิ่งเชินก็ต้องไม่ปฏิบัติตามแน่นอน
คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินจะครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพยักหน้า
“ได้”
น้ำเสียงจริงจัง นัยน์ตาเจือด้วยรอยยิ้ม
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองเขาอย่างแปลกใจ
“จริงเหรอ?”
“แน่นอน” ชายหนุ่มพูด แต่รอยยิ้มตรงมุมปากของเขาทำไมถึงดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง
แต่คราวก่อนเขาก็รับปากว่าก่อนงานแต่งงานจะเจอไม่เจอหน้ากัน
แต่เขากลับมาอยู่ด้วยถึงหกชั่วโมงทุกๆ วัน!
ไม่เพียงแค่นั้น หลายครั้งตอนเธอตื่นขึ้นมาก็เห็นจี้จิ่งเชินนอนหลับอยู่ข้างๆ เธอ!
ได้รับสายตาเชือดเฉือนของเวินเที๋ยนเที๋ยน จี้จิ่งเชินก็แสดงรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาอย่างไม่สนใจ
เขาต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะอยู่ข้างๆ เธอเสมอ
ต่อให้เธอไล่เขาไป ก็สลัดเขาไม่หลุด
พวกเขาควรพัวพันอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต สิบปีก่อนเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้
ในอนาคต ก็ต้องเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน เป็นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
เช้าวันรุ่งขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของจี้จิ่งเชิน
แม้ว่าเมื่อวานพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไร แต่ก็คุยกันจนดึก
คุยไปคุยมาพวกเขาก็หลับไป
เธอคิดว่าตัวเองจะนอนไม่หลับ คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถหลับลงได้
มหัศจรรย์จริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกตัวลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังมาจากในห้องนอน
เธอจึงรีบบ้วนฟองยาสีฟันในปากแล้วกลับไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนรับสาย
เสียงเรียกเข้าหยุดลงทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองชายหนุ่มที่นอนบนเตียงอย่างหวั่นใจ
ยังดีที่จี้จิ่งเชินยังคงหลับสนิท ไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วปิดประตูห้องพลางเอ่ยถาม “ฮัลโหล? ใครคะ?”
เมื่อสักครู่เธอรีบร้อนเกินไปจึงไม่ได้มองแจ้งเตือน
“เที๋ยนเที๋ยน ไม่ดีแล้ว ชุดแต่งงานมีปัญหา!”
อีกด้านหนึ่งของสายโทรศัพท์เป็นเสียงของหลวนจื่อ
เมื่อเธอพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วทันที เอ่ยถามอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ “เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“ชุดแต่งงานถูกตัดพังหมดแล้ว คุยผ่านโทรศัพท์ไม่ชัดเจน เธอรีบๆ มา!”
หลวนจื่อไม่จำเป็นต้องบอก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ต้องรีบไปดูอยู่แล้ว
เรื่องเกี่ยวกับชุดแต่งงาน จะสะเพร่าไม่ได้
“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
เธอพูดจบก็วางสายไป
เมื่อกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ พอหมุนตัวก็ถูกจี้จิ่งเชินรวบเข้าไปในอ้อมกอด
“เช้าขนาดนี้ใครโทรหาคุณกัน?”
เขาถามเสียงเบา ยังเจือด้วยน้ำเสียงงัวเงียเหมือนพึ่งจะตื่นนอน
“เพื่อนคนหนึ่ง โทรมาอวยพรให้ฉันมีความสุขกับการแต่งงาน”
เธอแอบจี้จิ่งเชินสั่งตัดชุดแต่งงานมาตลอด
ดังนั้นตอนนี้ที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นชุดแต่งงานกันแน่ เธอจึงไม่อยากให้จี้จิ่งเชินกังวล
ถ้าต้องสั่งตัดชุดแต่งงานใหม่ ต้องไม่ทันเวลาแน่นอน
บอกจี้จิ่งเชินไปก็ช่วยอะไรไม่ได้
ปิดไว้ก่อนดีกว่า เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวล
“คุณไม่ทานข้าวเช้าแล้วเหรอ?”
จี้จิ่งเชินเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ถามอย่างแปลกใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไป ก่อนจะพยักหน้า
“อืม ฉันออกไปข้างนอกก่อน เดี๋ยวก็กลับมา!”
เธอพูดออกมาทันที แล้วเดินออกไปอย่างรีบร้อน
ตอนนี้ในใจเธอเต็มไปด้วยความกังวล ชุดแต่งงานดีๆ อยู่ทำไมอยู่ๆ ถึงถูกคนตัดจนพัง?
เคอเหยียนรุ่ยบอกว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นแน่นอนไม่ใช่เหรอ