เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 799 เริ่มฮันนีมูนกันเถอะ!
บทที่ 799 เริ่มฮันนีมูนกันเถอะ!
ฮันนีมูน
ใช่แล้ว พวกเขาเสร็จสิ้นงานแต่งงานแล้ว ทั้งยังสาบานว่าจะซื่อสัตย์ต่อกัน
สามีภรรยาที่พึ่งแต่งงาน จะขาดฮันนีมูนไปได้อย่างไร?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองวิวด้านนอก อดไม่ได้ที่จะใฝ่ฝันในใจ
เฮลิคอปเตอร์บินผ่านป่าเขาและมหาสมุทร
เวินเที๋ยนเที๋ยนยุ่งเรื่องชุดแต่งงานมาทั้งวัน พิงลงบนไหล่ของจี้จิ่งเชินแล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในห้องห้องหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ ลุกขึ้นอย่างงงงวย เมื่อมองไปด้านนอกหน้าต่างก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
ด้านนอกหน้าต่างเป็นท้องทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา
เธออยู่บนเรือ?
“คุณตื่นแล้ว?”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังมาจากข้างหลัง ตามด้วยกอดเอวของเธอไว้แน่น
“พวกเราอยู่ในทะเล?”
“อืม” จี้จิ่งเชินเอ่ยถาม “อยากออกไปดูไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปข้างนอกกับเขา
เรือสำราญขนาดใหญ่ เมื่อออกประตูมาเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พบว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติผมบลอนด์
เธอสงสัยมากว่าตนเองยังอยู่ในประเทศอยู่ไหม?
“จี้จิ่งเชิน พวกเราอยู่ที่ไหนกันแล้ว?”
เมื่อกลับมาถึงห้อง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถามสิ่งที่ตนเองสงสัยออกไป
จี้จิ่งเชินยิ้มบาง แววตาเย็นชาก็อ่อนโยนลงทันที
เขาตบบนโซฟาข้างๆ “มานั่งนี่สิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของเขา
จี้จิ่งเชินรวบเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่ข้างเขาเข้ามากอดอย่างเป็นธรรมชาติ
“ที่นี่คือต่างประเทศ พวกเรากำลังนั่งอยู่บนเรือที่กำลังมุ่งไปTenanya”
Tenanya?
เธอจำได้ว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวมาก
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ บริกรสวมชุดทักซิโด้ก็เข้ามาเสิร์ฟแชมเปญ
“สวัสดีครับ ผมเป็นคนรับผิดชอบเรือลำนี้ วันนี้จะมีการจัดงานเต้นรำหน้ากาก ถ้าทั้งสองท่านสนใจ หนึ่งทุ่มครึ่งที่โถงใหญ่ตรงกลาง รอคอยทั้งสองท่านไปเยี่ยมชม”
ผู้รับผิดชอบพูดพลางหยิบหน้ากากออกมาสองอัน ส่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน
งานเต้นรำหน้ากาก?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหน้ากากของทั้งสองคน
อันหนึ่งเป็นหน้ากากครึ่งหน้าสีม่วง มีขนนกหลากหลายสีตรงขอบ รูปทรงสวยหยาดเยิ้มแค่มองก็รู้แล้วว่าเหมาะให้ผู้หญิงสวมใส่
ส่วนอีกอันเป็นหน้ากากสีดำบริสุทธิ์ ที่ปกปิดเฉพาะครึ่งบนของใบหน้าผู้สวมใส่เท่านั้น
หน้ากากสีดำสนิทที่ดูเรียบง่ายนี้ควรเป็นของจี้จิ่งเชินอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
จี้จิ่งเชินยกยิ้ม มองเวินเที๋ยนเที๋ยน “คุณนายจี้ อยากไปไหม?”
นี่คือกำลังขอความคิดเห็นจากเธอ?
“ฉันอยากไป ไม่รู้ว่าคุณจี้จะให้เกียรติไปกับฉันไหม?”
เธอหัวเราะแล้วโยนคำถามกลับไปให้เขาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินแบบนั้นแล้วจะจับมือเธอแล้วจุมพิตลงบนหลังมือของเธอ
“ด้วยความยินดีครับ”
เมื่อทั้งสองคนทานอาหารเย็นแล้วก็มาถึงที่ห้องโถงกลางที่ผู้รับผิดชอบบอกไว้
ตอนนั้นเองชาวต่างชาติจำนวนมากก็ได้มารวมตัวกันที่นี่
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไป บนหน้าของทุกคนต่างสวมหน้ากากอยู่ แต่หน้ากากมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป
“คุณว่า ถ้าฉันไปรวมอยู่ในกลุ่มคน คุณจะหาฉันเจอไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเที๋ยนจูงมือจี้จิ่งเชิน แล้วถามเสียงเบา
ต้องหาไม่เจอแน่นอน คนเยอะขนาดนี้แล้วยังมีจำนวนไม่น้อยที่สวมหน้ากากเหมือนของเธอ
รูปร่างก็ยังใกล้เคียงกัน
จี้จิ่งเชินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะให้คำตอบที่แน่วแน่กับเธอ “ผมหาเจอ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไป เขาพูดอย่างแน่ใจขนาดนี้เลย?
แต่คนเยอะขนาดนี้ ถ้าเธอปนไปในกลุ่มคนจริงๆ จี้จิ่งเชินจะหาเจอจริงๆ เหรอ?
“พวกเราไปดื่มไวน์กันเถอะ?”
เธอดึงมือจี้จิ่งเชินมาประสานเบาๆ
ทั้งคู่เดินไปทางโซนไวน์
ในตอนนั้นเอง คนกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามา!
ดูท่าทางน่าจะกำลังเล่นเกมไล่ล่าอยู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงผิวปากของพวกเขา
เพียงพริบตาเดียวไม่ทันได้หลบก็ถูกชนเข้า
แม้เธอจะไม่ล้มลง แต่แรงที่ปะทะมาก็ทำให้เธอปล่อยมือจี้จิ่งเชิน
เธอกำลังจะหาจี้จิ่งเชิน ทันใดนั้นไฟในงานเต้นรำกลับดับลง!
ช่างโชคไม่ดีอย่างต่อเนื่องเลยจริงๆ!
“คุณผู้หญิงคุณผู้ชายทั้งหลาย ยินดีต้อนรับสู่Tebiango งานรื่นเริงของพวกเราในคืนนี้!”
“มาสนุกกับงานเต้นรำสวมหน้ากากนี้กันเถอะ ดนตรี!”
ประโยคภาษาต่างประเทศโหมโรงเปิดงานเลี้ยง
แสงไฟปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงดนตรี เสียงที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวากระทบเข้าหูของผู้คน
ชาวต่างชาติที่สวมหน้ากากเริ่มหมุนตัวไปมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินผ่านกลุ่มที่กำลังหมุนตัวไปมาไปยังโซนไวน์อย่างลำบาก
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกชาวต่างชาติคนหนึ่งจับไว้
“เฮ้ คนสวย สนใจอยากเต้นกับผมสักเพลงไหม?”
ผู้ชายคนนั้นสวมหน้ากากสุนัขดัลเมเชียนสีน้ำตาลแดง ดูเป็นกันเองอย่างมาก
แม้ภาษาอังกฤษของเวินเที๋ยนเที๋ยนจะพอใช้ได้ แต่อีกฝ่ายพูดเร็วเกินไปก็รู้สึกฟังลำบากอยู่เล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นคนตรงหน้ายังพูดติดสำเนียงอย่างหนัก
“Sorry.”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบอย่างรวดเร็วแล้วหมุนตัวจะเดินออกมา
น่าเสียดายที่เขาดูเหมือนยังไม่อยากยอมแพ้ไปแบบนี้
“แค่เต้นสักเพลงก็พอแล้ว สาวสวยชาวตะวันออก ผมชอบผมยาวสีดำของคุณแล้วก็รูปร่างที่เย้ายวนของคุณ!”
ชาวต่างชาติพูดพลางยื่นมือมาด้วย
การเชื้อเชิญจากฝ่ายชาย ทำให้หลายคนรอบข้างเริ่มหยอกล้อ
“ขออภัย……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า ปฏิเสธเขาอีกครั้ง
ชายคนนั้นจึงต้องก้มหน้าจากไปอย่างเสียดาย
รูปร่างหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเด่นชัดเกินไป เธอผมยาวสีดำราวท้องฟ้ายามค่ำคืน และนัยน์ตาสีดำสนิท
ทำให้ผู้ชายไม่น้อยสนใจอยากได้เธอ
พวกเขายังเริ่มคุยกันว่าใครกันที่จะมีเสน่ห์มากพอที่จะพิชิตสาวจากตะวันออกลึกลับคนนี้ได้
และการที่เธอปฏิเสธผู้ชายคนนั้นยิ่งทำให้คนอื่นๆ เกิดความกระตือรือร้น
มีคนที่สองที่สามขวางทางเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วชวนเธอเต้นรำอยู่เรื่อยๆ
ทั้งหมดต่างล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พวกเขาคงจะคิดไม่ถึงว่า ไม่ว่าพวกเขาจะพูดโม้อย่างไร ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องการเพียงแค่จี้จิ่งเชินเท่านั้น ไม่ได้หยุดไว้ให้พวกเขาตั้งแต่แรก
หลายๆ คนเริ่มเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นดูอ่อนแอมาก
พวกเขาจึงเปลี่ยนวิธีในการเชื้อเชิญเธอ
นั่นก็คือแสดงการเต้นของตนเองตรงหน้าเธอ
ดนตรียิ่งมีความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าชายหนุ่มก็ใช้ร่างกายแข็งแรงของพวกเขาเต้นไปตามเสียงเพลง
การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูคลุ้มคลั่งและดุเดือด
ในความคิดของพวกเขาคิดว่าผู้หญิงลึกลับจากตะวันออกคนนี้จะต้องเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเซ็กซี่ของพวกเขาอย่างแน่นอน!
แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่า
ในหัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนคิดเพียงแต่ว่าควรเดินอ้อมชาวต่างชาติที่กำลังเต้นอยู่กลุ่มนี้ไปที่โซนไวน์ได้อย่างไร?
คนที่มาชวนเธอเต้นรำได้ขวางทางของเธอไว้หมดแล้ว
ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เธอร้อนใจเล็กน้อย จี้จิ่งเชินรู้ว่าเธอหายไป น่าจะไปรอเธออยู่ที่โซนไวน์แล้ว
ถ้าเธอยังไม่ไปอีกล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาจะคลาดกันแล้ว
และการถูกจับตามองจากผู้คนจำนวนมากทำให้รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย