เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 800 เรื่องของเที๋ยนเที๋ยน ผมไม่มีทางลืม
บทที่ 800 เรื่องของเที๋ยนเที๋ยน ผมไม่มีทางลืม
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
ในตอนนั้นเองเสียงดนตรีก็เปลี่ยนทำนองไปอย่างกะทันหัน!
เพลงที่เดิมจังหวะเร็วอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกระดับ
ชาวต่างชาติที่เต้นตามจังหวะเพลงนั้นราวกับเป็นบ้าไปแล้ว ความถี่ของท่าทางการเต้นเกินระดับของคนปกติไปโดยสิ้นเชิง
ชาวต่างชาติที่เต้นสนุกจนลืมไปว่าตนเองกำลังเชิญเวินเที๋ยนเที๋ยนเต้นรำ ลุกขึ้นหมายจะจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เมื่อเห็นชายร่างสูงจะกระโจนเข้าหาเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตกใจหน้าซีด!
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังไปหลายก้าว ชาวต่างชาติร่างสูงใหญ่หลายคนตรงหน้าล้อมเธอไว้ ทั้งยังเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ
“พวกคุณอย่าเข้ามา!”
แต่เสียงของเธอถูกกลบด้วยเสียงดนตรีและไม่มีใครใส่ใจ ยื่นมือมาหมายจะลูบผมยาวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ชาวต่างชาติคนนั้นกลับถูกเตะออกไปก่อนอย่างฉิวเฉียด
เวินเที๋ยนเที๋ยนสติยังไม่กลับคืนมา ก็ถูกกอดไว้ในอ้อมแขนที่อบอุ่น
“ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นเป็นไรแล้ว”
ฝ่ามืออบอุ่นของชายหนุ่มตบหลังเธอเบาๆ น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำอ่อนโยนทำให้ใจที่กังวลของเธอสงบลง
“จี้จิ่งเชิน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดจี้จิ่งเชินแน่น ราวกับกอดที่พึ่งสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเธอไว้
เหตุการณ์เมื่อสักครู่น่ากลัวเกินไปแล้ว เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเข้าร่วมงานเต้นรำแล้วจะเกิดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ขึ้น
โชคดีที่จี้จิ่งเชินหาเธอเจอ
“ผมบอกแล้ว ว่าผมจะหาคุณเจอ”
เขาอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้น ข้อพับขาพาดบนแขนของเขา
อุ้มในท่าเจ้าหญิง
สบเข้ากับสายตาอ่อนโยนลึกซึ้งของจี้จิ่งเชิน ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกเหมือนได้รับการคุ้มครองราวกับเจ้าหญิง
เขาหาเธอเจอแล้วจริงๆ เหมือนที่เขาพูดไว้ทุกอย่าง ถ้าแยกจากกันเขาจะหาเธอจนเจอ
ที่แท้แล้วคำพูดนั้นไม่ใช่แค่เพื่อปลอบเธอ
ชาวต่างชาติคนอื่นๆ ที่ตกใจกับทักษะของจี้จิ่งเชิน พากันยกนิ้วโป้งให้
ผู้หญิงผมบลอนด์หลายคนยังโชว์ทรวดทรงให้เขาเห็น พยายามดึงดูดชายรูปหล่อชาวตะวันออกคนนี้
เหล่าผู้ชายต่างอิจฉาเขา
พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชวนเวินเที๋ยนเที๋ยนมาเต้นรำกับพวกเขาสักเพลง
แต่กลับสู้คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขาไม่ได้ สายตามองตรงไปที่เขา
เห็นท่าทางสบตากันของพวกเขา ดูแล้วหญิงชาวตะวันออกคนนี้จะเป็นดอกไม้ที่มีเจ้าของเสียแล้ว
เมื่อเห็นพวกเขาเดินไปไกลแล้ว ทุกคนต่างเก็บสายตากลับมาอย่างนึกเสียดาย
จี้จิ่งเชินอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปจนถึงโซฟาของโซนไวน์แล้วถึงปล่อยเธอลง
“ทำอย่างไรดี? ดูแล้วผมคงต้องมัดคุณติดกับตัวผมแล้ว?”
จี้จิ่งเชินพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ
ปกติแล้วจัดการกับออเดอร์สั่งซื้อจำนวนมากหลายร้อยล้านเขายังไม่ขมวดคิ้วเลย
แต่ตอนนี้ หัวคิ้วของเขากลับกำลังขมวดแน่น
กลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย
ความกลัวในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกคำพูดของเขาทำลายลงในทันที กุมมือจี้จิ่งเชินไว้
“คุณผูกแล้ว”
เธอจับมือของจี้จิ่งเชินไว้แน่น
ไม่อยากปล่อย
จี้จิ่งเชินสังเกตเห็นความรู้สึกของเธอ จึงเปลี่ยนท่าทางให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
เขาพลิกฝ่ามือแล้วจับมือเธอไว้เช่นกัน
“เป็นเด็กดีอยู่ข้างๆ ผม อย่าวิ่งไปทั่ว”
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ละสายตา ราวกับกำลังมองสมบัติล้ำค่า
“ทำไมมองฉันอย่างนั้น?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหดคออย่างอึดอัดเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าแก้มของตนเองกำลังเห่อร้อนขึ้นเล็กน้อย
โชคดีที่มีหน้ากากบังไว้ไม่ให้เห็นใบหน้าแดงๆ ของเธอ
เธอรู้สึกขอบคุณหน้ากากที่สวมอยู่เป็นอย่างมาก
จี้จิ่งเชินก้มหน้าต่ำลงเท่าหน้าผากของเธอ
หน้ากากทั้งสองสัมผัสกัน เหมือนพวกเขาจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดของหัวใจทั้งสองดวงภายใต้หน้ากาก
เป็นท่าทางที่ใกล้ชิดกันมาก พวกเขาสองคนเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แค่อยากมองคุณ”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและนุ่มนวล ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาพ่นใส่ต้นคอของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหูแดงไปหมด
เธอแสร้งพูดอย่างไม่สนใจ “คุณ คุณอย่าทำแบบนี้สิ……”
ได้ยินแบบนั้นจี้จิ่งเชินก็ขัดขึ้น “อย่าทำอะไร? มองคุณน่ะเหรอ วางใจเถอะ ทั้งชีวิตนี้ผมมองไม่เบื่อหรอก”
คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้น
ไม่มีเบื่อตลอดไป
คำว่า “ตลอดไป” สองคำนี้ ใครก็รับประกันไม่ได้
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเชื่อเขาอย่างไม่เผื่อใจ
เธอเชื่อทุกคำที่จี้จิ่งเชินพูด
“คุณ คุณอยากเต้นรำไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่าถ้าหากยังไม่ทำอย่างอื่น เธอจะจมน้ำตายในสายตาของจี้จิ่งเชินอยู่แล้ว
จี้จิ่งเชินไม่พลาดความอึดอัดใจของเธอที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากาก
เขาก้มลงจูบใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่โผล่พ้นหน้ากากออกมา
ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็พยักหน้าเบาๆ “ได้ พวกเราไปเต้นรำกัน”
การปรากฏตัวของจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนดึงดูดสายตาของทุกคนได้ในทันที
เมื่อพวกเขาเริ่มเต้นรำ หลายๆ คนก็ผิวปาก
เห็นพวกเขาจับมือกันแล้วหมุนตัวอย่างรวดเร็วด้วยกันในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าจังหวะเต้นรำไม่ได้เร่งรีบ กลับตามจังหวะของดนตรีได้อย่างพอดี
พวกเขามองพวกเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แล้วทุกคนก็ค่อยๆ หยุดการเต้นรำลง
พวกเขาต่างจับตาดูคู่สามีภรรยาหนุ่มสาว
พวกเขาแสดงจังหวะที่รวดเร็วออกมาได้อย่างสง่างาม!
พวกเขาสองคนเหมือนกับของที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ แยกห่าง รวมกัน หมุนตัว โยกย้าย ร่วมมือกันอย่างไร้ที่ติ!
DJที่เปิดเพลงอยู่ข้างหลังเวทีเห็นเข้า และไม่อยากให้ความสนใจของงานเต้นรำหน้ากากถูกทั้งสองคนขโมยไป
เขาจึงเปลี่ยนเพลงทันที
จากจังหวะรวดเร็วกลายเป็นเชื่องช้า จังหวะของดนตรีราวกับบันไดที่พังทลายลงมา
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ผู้คนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
เมื่อทุกคนคิดว่าการเต้นรำของพวกเขาถูกขัดด้วยเหตุนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินหมุนตัวเข้าหากันแล้วจากนั้นก็เต้นไปตามจังหวะเชื่องช้าของดนตรีวอลทซ์
ทุกคนถูกเอาชนะด้วยการเชื่อมต่อที่สวยงามนี้ ก็ทยอยปรบมือให้
เพลงวอลทซ์ที่ผ่อนคลายไม่เหมือนกับVienna Waltzก่อนหน้านี้
หลังจากที่พวกเขาเต้นไปได้นิดหน่อยก็ทยอยพากันเต้นตามพวกเขา
จี้จิ่งเชินพาดแขนของเขารอบเอวอ่อนนุ่มของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วเอ่ยชม “คุณแสดงได้ดีมาก”
“ใช่ไหม งั้นต้องชอบคุณครูจี้ที่สอนได้ถูกต้อง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแววตาเจือด้วยรอยยิ้ม เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนเต้นรำกับเขาครั้งแรก
“ตอนนั้นคุณมือเท้าเงอะงะ เหยียบโดนผมตลอดเลย”
จี้จิ่งเชินพูดพลางยกยิ้มขึ้นหวนคิดถึงความทรงจำนั้นขึ้นมา
ที่แท้พวกเขากำลังคิดถึงเรื่องเดียวกัน
ได้ยินแบบนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทำสีหน้าลอยหน้าลอยตา “ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณก็จำมาจนถึงตอนนี้เลยเหรอ!”
เธอไม่ได้ตั้งใจเหยียบเขา สมควรให้จี้จิ่งเชินคิดแค้นนานถึงขนาดนี้ไหม?
จี้จิ่งเชินจับได้ถึงความไม่พอใจในแววตาเวินเที๋ยนเที๋ยน แม้จะผ่านหน้ากากแต่เขาก็เดาได้ถึงสีหน้าน่ารักของเธอในตอนนี้ได้
“เรื่องเกี่ยวกับเที๋ยนเที๋ยน ผมจำได้นานมากๆ ขอแค่เกี่ยวกับคุณ ผมไม่มีทางลืม”