เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 841 จะไม่ให้คุณห่างกายอีกแล้ว
บทที่ 841 จะไม่ให้คุณห่างกายอีกแล้ว
มือของหมินอันเกอวางบนไหล่ของหลวนจื่อ เป็นการปลอบเธอโดยไร้เสียง
สิ่งที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ก็มีแค่ภาวนาแล้ว
จี้จิ่งเชินไม่คิดว่าไฟของห้องผ่าตัดจะดับลงอย่างรวดเร็ว
หมอเดินเรียงกันออกมา
“หมอ เที๋ยนเที๋ยนเป็นยังไงบ้าง?”
จี้จิ่งเชินถามอย่างร้อนใจมาก
หัวหน้าถอดหน้ากากอนามัยออก แล้วพยักหน้าให้เขา “คุณจี้ คุณเวินไม่เป็นไร เพียงแค่ขาดสารอาหารบวกกับความเครียดทางจิตใจเป็นเวลา ถึงได้หมดสติไป”
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย
“แล้วพิษล่ะ?”
เขาพบอาหารที่ถูกใส่ยาพิษร้ายแรงในสถานที่ที่เวินหงไห่ใช้ขังเวินเที๋ยนเที๋ยน
เป็นไปได้มากว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอาจจะกินเข้าไปแล้วโดยไม่ตั้งใจ
หมอกลับส่ายหน้า
“ตามที่คุณบอก พวกเราได้ทำการตรวจให้เธอแล้ว แต่ไม่พบสารพิษที่คุณกล่าวถึงในร่างกายของเธอ”
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้นจึงถอนหายใจออกมายาวๆ
“ไม่มีก็ดีแล้ว”
บางที เวินเที๋ยนเที๋ยนอาจจะไม่ได้กินอาหารที่มีพิษพวกนั้น
แค่เธอปลอดภัยก็ดีแล้ว
หลวนจื่อเองก็สีหน้ายินดี รีบถามต่อ “แล้วพวกเราสามารถไปเยี่ยมเธอได้เมื่อไหร่?”
“หลังจากคนไข้ตรวจเสร็จแล้ว จะถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วย คาดว่าพรุ่งนี้พวกคุณก็สามารถมาเยี่ยมเธอได้แล้ว”
หัวหน้าพยักหน้าอย่างสุภาพ พูดจบแล้วก็ขอตัวจากไป
“ดีจัง เที๋ยนเที๋ยนไม่เป็นไร!”
หลวนจื่อโผเข้ากอดหมินอันเกอ ตื่นเต้นจนน้ำตาคลอเบ้า
ถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นอะไรไป เธอจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
หัวใจที่เต้นแรงมาทั้งวันของหมินอันเกอก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
“ผมบอกแล้วว่าเธอเป็นคนดีฟ้าคุ้มครอง ต้องไม่เป็นไร!”
พูดจบหมินอันเกอก็มองไปทางจี้จิ่งเชิน “คุณจี้ ในเมื่อเที๋ยนเที๋ยนไม่เป็นไรแล้ว คุณกลับไปพักสักหน่อยดีกว่า ผมรู้ว่าคุณเหนื่อยมาก”
สภาพของจี้จิ่งเชินตอนนี้ที่จริงแล้วไม่ได้ดีมากนัก
ก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกลักพาตัวไป เขาก็ไม่ได้พักผ่อนเลย ไม่กินไม่ดื่มไม่นอน ถึงขีดจำกัดของร่างกายนานแล้ว
ก่อนหน้านี้เพื่อส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เขาก็สูญเสียแรงกายไปไม่น้อย รอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทันได้ไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด
ผมที่ถูกหวีไปด้านหลังอย่างพิถีพิถันในวันธรรมดา ในตอนนี้กลับพันกันยุ่งเพราะเหงื่อ ดูน่าอายเล็กน้อย
“ผมไม่เป็นไร ผมจะรอเธอที่นี่”
จี้จิ่งเชินเงยขึ้นมองพวกเขา “พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ”
เขามองที่ท้องของหลวนจื่อ พูดอย่างสื่อความหมาย
หมินอันเกอกับหลวนจื่อเข้าใจความหมายของเขา แม้ว่าหลวนจื่อก็อยากอยู่รอเวินเที๋ยนเที๋ยนพื้น แต่หมินอันเกอกลับหยุดเธอไว้ด้วยเหตุผล
“ที่นี่มีคุณจี้อยู่ก็พอแล้ว” หมินอันเกอมองลงไป จ้องเธออย่างจริงจัง “อย่าทำให้ผมเป็นห่วงเข้าใจไหม?”
หลวนจื่อจึงต้องพยักหน้าอย่างประนีประนอม
จี้จิ่งเชินมองตามหลังพวกเขากลับไป รอจนกระทั่งหลังเที่ยงคืน เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงถูกย้ายไปที่ห้องพักผู้ป่วยทั่วไป
ตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ฟื้น จี้จิ่งเชินขอเก้าอี้เฝ้าไข้แล้วนั่งลงข้างๆ เวินเที๋ยนเที๋ยน ใช้สายตาพิจารณาใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
หลังจากผ่านความทรมานมาหลายวัน ดูเหมือนว่าเธอจะผอมลงไปมาก
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นแล้ววางบนหน้าท้องของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
“ผมจะไม่ให้พวกคุณห่างกายผมอีกต่อไปแล้ว”
เขาพูดอย่างดื้อดึงข้างหูเวินเที๋ยนเที๋ยน
……
ความมืดที่ยาวนาน ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเธอยังอยู่ในโกดังมืดนั่น
แต่ไม่นานดวงตาของเธอก็พบกลับแสงริบหรี่
“คุณฟื้นแล้ว?”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังเข้าหูเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาที่สับสนค่อยๆ หาจุดโฟกัส
จากนั้นเธอก็เห็นสายตาที่เป็นห่วงคู่นั้นของจี้จิ่งเชิน
“จี้จิ่งเชิน?”
เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นต้องการจะสัมผัสใบหน้าของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินรู้สึกตัวกลับมา จับมือเธอไว้ทันทีแล้วทาบมือเธอเข้ากับใบหน้าของตัวเอง
“ผมเอง ผมอยู่นี่ คุณสัมผัสได้หรือยัง?”
จี้จิ่งเชินจูบที่ฝ่ามือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
สายตาของเขาอ่อนโยนเหลือล้น
ให้หัวใจที่ตื่นตระหนกของเธอ ได้รับการปลอบขวัญอย่างเต็มที่
“หิวไหม? ผมไปหาอะไรมาให้คุณทานสักหน่อยดีไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอนนี้ผอมจนทำให้เขากังวล
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า เธอจับมือจี้จิ่งเชินไว้แน่น ไม่ยอมให้เขา
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะหาจี้จิ่งเชินเจออีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้จี้จิ่งเชินห่างกายตัวเอง
“ฉันไม่หิว”
พูดพลางดิ้นรนจะลุกขึ้น
จี้จิ่งเชินรีบเข้าไปพยุงเธอ
“เมื่อคืนคุณรอฉันอยู่ตลอดเลยเหรอ?”
เธอยกมือขึ้นสัมผัสกรอบหน้าของจี้จิ่งเชิน
ดวงตาของเขาแดงก่ำ ขอบตาด้านล่างมีรอยดำคล้ำชัดเจน
เห็นได้ว่าเพื่อตามหาเธอ จี้จิ่งเชินต้องวิ่งเต้นทั้งวันทั้งคืนไม่ได้พักผ่อนแน่
เมื่อนึกถึง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจเป็นอย่างมาก
“ผมไม่เป็นไร ที่สำคัญคือคุณ รีบบำรุงร่างกายให้ดี อยากกินอะไรก็บอกผม ผมจะหาคนทำให้คุณ”
“ต่อให้ไม่อยากอาหาร ก็ต้องกินสักหน่อยจากนั้นค่อยพักผ่อน เพื่อคุณ แล้วก็เพื่อลูกของเรา”
มือของเขาวางลงบนหน้าท้องเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
“คุณ คุณรู้หมดแล้ว?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า สายตาอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ยกมือขึ้นทัดผมไว้หลังใบหูให้เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยท่าทางรักใคร่
“เป็นผมที่ไม่ได้ปกป้องพวกคุณให้ดี”
นัยน์ตาเขาฉายแววโทษตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบส่ายหน้า “ไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นเวินหงไห่……”
เมื่อพูดถึงชื่อนี้ นัยน์ตาเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปรากฏแววหวาดกลัวเล็กน้อย มือกลับถูกกุมไว้แน่น
จี้จิ่งเชินลดสายตาลง นัยน์ตาฉายแววดุดัน คมกริบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าเขากำลังปลอบตัวเอง ยิ้มออกมาบางเบา
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นไร ใช่แล้ว เวินหงไห่ล่ะ?”
จี้จิ่งเชินลดสายตาลง ปกปิดแววตาโหดเหี้ยมไว้แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “เขาหนีไปแล้ว”
“งั้นเหรอ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจอย่างผิดหวังเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าต่อไปจะมาหาเธออีกหรือเปล่า……
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินจับมือเธอไว้แน่น
“ไม่ต้องห่วง ผมคิดว่าเขาคงไม่มาหาคุณอีกแล้วล่ะ”
เห็นน้ำเสียงเขามั่นใจขนาดนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนในใจมีความสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้า
“ฉันรู้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอุ่นใจขึ้นทันที สายตาของจี้จิ่งเชินทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกรักใคร่
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเคาะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินสบตากัน
“ผมไปเปิดเอง”
จี้จิ่งเชินส่งสายตาให้เธออย่าใจร้อน
ประตูห้องเปิดออก เป็นหมินอันเกอกับหลวนจื่อที่เดินเข้ามา
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นพวกเขาสองคน ก็ดีใจแล้วยิ้มออกมาทันที
“หลวนจื่อ หมินอันเกอ พวกคุณมาแล้ว”
เธอตบลงบนเตียง “มานั่งนี่สิ”
หลวนจื่อนั่งลงข้างเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเชื่อฟัง “เที๋ยนเที๋ยน เธอฟื้นแล้ว ฉันตกใจเกือบตาย! ต่อไปเธอต้องระวังนะ”
เธอกอดเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ก็เกรงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะรับไม่ไหวจึงไม่กล้าออกแรง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลดเธอกลับ พูดปลอบขวัญ “เธอดูสิ ไม่ใช่ว่าฉันยังสบายดีอยู่? อีกอย่างเพื่อเด็กในท้องแล้ว ฉันก็จะใส่ใจระวังให้มาก”
หลวนจื่อได้ยินประโยคนั้นก็ชะงักไป
หลายวินาทีต่อมาถึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมา เบิกตากว้างอย่างตกใจ
“อะไรนะ? เด็กในท้อง?