เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 853 เธอเห็นแก่ตัวเกินไป
บทที่ 853 เธอเห็นแก่ตัวเกินไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหันไป เห็นรูปลักษณ์ของจี้จิ่งเชินผ่านโทรทัศน์
เขาซีดเซียวมาก
แค่ไม่เจอไม่กี่วันเอง กลับดูผอมลงไปมาก
ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าซีดเซียว
เขาได้นอนบ้างไหม?
จี้จิ่งเชินสบตากับกล้องโดยไม่ละสายตา ราวกับกำลังมองเข้ามาในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ผมคิดถึงคุณมาก” เขาพึมพำเสียงเบา
ภาพในโทรทัศน์ ในตอนนั้นได้เปลี่ยนเป็นภาพงานแต่งงานของพวกเขา
ภาพที่ทั้งคู่ยืนอยู่หน้ากำแพงดอกไม้ คุณพ่อพาเธอเดินบนพรมแดง……
สุดท้าย หยุดไว้ที่ภาพของช่วงเวลาการแลกแหวน
“พวกเราผ่านอุปสรรคมามากมายกว่าจะได้อยู่ด้วยกัน หรือว่าคุณจะละทิ้งคำสัญญาของพวกเราแล้ว?”
“ไม่ต้องหลบผมแล้ว ขอร้องล่ะเที๋ยนเที๋ยน ผมเป็นห่วงคุณ”
“ผม……”
เขาเงียบไป แววตาปรากฏร่องรอยของการต่อสู้กันภายในใจ
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา
“ขอแค่คุณกลับมา ผมจะรับปากคุณทุกอย่าง…….”
คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ในห้องการถ่ายทอดสดต่างชะงักไปเมื่อได้ยินคำนี้
พ่อบ้านมองเขาอย่างตกใจ หรือว่าคุณชายตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บเด็กไว้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยถูกลักพาตัวหลายครั้งแล้ว ด้วยฐานะของผู้กุมอำนาจตระกูลหล่อนและคุณนายของตระกูลจี้ มีคนมากมายที่คิดจะทำร้ายเธอ
การกระทำของจี้จิ่งเชิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากำลังบอกทุกกับคนว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากบ้านไปแล้ว และไม่มีบอดี้การ์ดอยู่ข้างๆ
ถ้ามีคนคิดไม่ซื่อ จะทำอย่างไร?
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่สามารถควบคุมได้มากขนาดนั้น แค่พาเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาได้ เขายอมทำทั้งนั้น
เพราะผู้หญิงคนนั้น……
ชีวิตของผู้หญิงโง่ๆ คนนั้นถูกคุกคามมานานแล้ว!
การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์นั้นสั้นมาก แค่เพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับคิดว่า ตัวเองได้ผ่านความพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ
อดีตของเธอกับจี้จิ่งเชิน ราวกับภาพยนตร์ที่ฉายขึ้นมาในความคิด
มองใบหน้าของชายตรงหน้า แม้ชัดเจนว่าอยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่กลับห่างไกล
“ขอโทษ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
เธอเห็นแก่ตัวเกินไป
อยากปกป้องลูกจนไม่สนอะไรอย่างเห็นแก่ตัว กลับไม่ใส่ใจความรู้สึกของจี้จิ่งเชินมาก่อน
เธอเดินจากมาอย่างเห็นแก่ตัว กลับไม่รู้ว่าเพื่อที่จะตามหาเธอแล้ว เขาจะทำไปมากมายขนาดนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ จี้จิ่งเชินไม่ใช่คนที่ชอบแสดงตัวในวงสังคม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพูดถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
แต่เพื่อที่จะตามหาเธอ เขายังคงทำถึงขนาดนี้
เธอหาคลิปของจี้จิ่งเชินในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนย้อนดูซ้ำๆ
แม้ว่าทุกคำพูดในนั้น เธอจะจดจำได้หมดแล้ว แต่กลับยังคงดูอย่างจริงจัง
เคร่งครัดมาก
ราวกับกลัวว่าจะลืมใบหน้าของชายหนุ่ม ย้อนดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งแม่บ้านมาเร่งอีกครั้ง เธอถึงรู้สึกตัว
กับข้าวบนโต๊ะเย็นหมดแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลง แสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมา
……
วันรุ่งขึ้น หลวนจื่อมาหาเธอ สายตาเต็มไปด้วยความกังวล
เมื่อเจอหน้าก็เอ่ยถามเธอทันที “โฆษณาเมื่อวาน……เธอเห็นหรือยัง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าเงียบๆ
ใบหน้าที่ผอมอยู่แล้วของเธอ ยิ่งตอบลึกลงไปอีก
ล่างขอบตาหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่านอนหลับได้ไม่ค่อยสนิท
หลวนจื่อมองอย่างสงสาร
“หรือว่า พวกเรากลับไปกันไหม?”
เธอกุมมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน “ฉันมองออก จี้จิ่งเชินแคร์เธอมากจริงๆ แค่เธอคุยกับเขาดีๆ ต้องมีสักวิธีแน่”
ไม่ใช่เหมือนกับตอนนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างทรมานกันและกัน
หลวนจื่อตาแดงเรื่ออย่างทนไม่ไหว
พูดอย่างไม่น่าฟัง บางทีนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอไม่อยากให้ช่วงเวลาสุดท้ายของเวินเที๋ยนเที๋ยน ต้องทนทรมานกับความโหยหา และแบกรับความเจ็บปวดมากมายถึงเพียงนี้
“กลับไปเถอะ”
เธอพูดขึ้นอีกครั้ง
กลับไปอยู่ข้างๆ จี้จิ่งเชิน อย่างน้อยจะได้ไม่เป็นทุกข์เหมือนในตอนนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น
“ฉันกลับไปไม่ได้……”
เธอลูบหน้าท้องของตัวเอง “ฉันได้ยินเขาคุยกับพ่อบ้านแล้ว เขาบอกว่าเพื่อฉันแล้ว ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาเด็กคนนี้ออก”
ได้ยินดังนั้น แววตาของหลวนจื่อก็ยิ่งสับสน
วิธีของจี้จิ่งเชินก็ไม่สามารถพูดได้ว่าผิด เขารักเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก เขาไม่สามารถให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งครรภ์ต่อไปได้ สุดท้ายจึงเลือกเดินไปในทางที่ต้องทำลาย
เขาได้แต่ใช้วิธีนี้เพื่อปกป้องเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเธอต้องการคือคลอดลูกคนนี้ออกมา
พวกเขาไม่มีวิธีเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย จึงทำให้ได้ผลลัพธ์แบบตอนนี้
“เที๋ยนเที๋ยน ในโฆษณาจี้จิ่งเขินไม่ได้พูดว่าเขายอมแพ้เหรอ? เขาต้องสนับสนุนเธอแน่”
หลวนจื่อตัดใจจากเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ลง และทนมองเธอกับจี้จิ่งเชินทรมานกันและกันแบบนี้ไม่ได้
โฆษณาเมื่อคืน เธอเองก็เห็นแล้ว
เธอคิดไม่ถึงว่า จี้จิ่งเชินจะทำเพื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงขนาดนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนไหนเลยจะไม่เข้าใจเหตุผลนี้
เธอส่ายหน้า
“ฉันรู้จักเขาดี เขาทำไม่ได้หรอก ฉันแค่คิดจะอุ้มท้องชีวิตเล็กๆ เขาต้องการปกป้องจากฉัน ฉันไม่มีทางมองเขา……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดต่อ
เธอสะอื้นจนพูดไม่เป็นคำแล้ว
หลวนจื่อกลัวว่าเธอจะทุกข์ใจเกินไป จึงรีบเอ่ยปลอบ “ก็ได้ๆ ฟังเธอ เธอจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับร้องไห้หนักยิ่งขึ้น
ราวกับระบายความอึดอัดและความคิดถึงของตัวเองออกมา
หลวนจื่ออยู่กับเธอ ลูบหลังเธอเบาๆ
จนกระทั่งถึงเที่ยงตรง เธอจึงพยุงเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ร้องไห้จนเหนื่อยมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“กินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนเธอเสร็จแล้ว ฉันก็จะกลับแล้ว เธอไม่รู้หรอกว่าสองวันมานี้จี้จิ่งเชินจับตามองฉันแค่ไหน”
หลวนจื่อเปิดประเด็น ยิ้มพลางจัดจานให้เธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนสงบลงมากแล้ว
เธอมองหลวนจื่ออย่างแปลกใจ “แล้วเธอก็ยังมา ไม่กลัวถูกเขาเจอเข้าเหรอ?”
“ตอนฉันมาระวังตัวมาก ยังให้คนขับรถวนตั้งหลายรอบ ยืนยันว่าไม่มีใครตามมาแล้วถึงจะเข้ามา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะ “ในเมื่อมาไม่ง่ายขนาดนั้น ทำไมทานข้าวเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะ? รีบขนาดนั้นเลย?”
เธออยากให้หลวนจื่ออยู่ต่อ คุยเป็นเพื่อนเธอให้นานอีกหน่อย
หลวนจื่อถอนหายใจ เอ่ยอย่างลำบากใจ “ใช่แล้ว จี้จิ่งเชินส่งคนมาจับตาดูฉันที่บ้าน ฉันจะไล่พวกเขาไปก็ไม่ได้ วันนี้ยังแอบออกมาตอนที่พวกเขาเผลอเลย”
“อย่างนี้นี่เอง……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างเกรงใจ “ขอโทษนะ รบกวนเธอแล้ว”
“รบกวนอะไรกัน อีกอย่าง นอกจากมาหาเธอที่นี่แล้ว ฉันเองก็ไม่ได้ไปที่ไหน”
หลวนจื่อส่ายหน้าให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ต้องถือสา “ฉันอยู่บ้านทั้งวัน เบื่อจะตาย”
“ขนาดเธอยังเบื่อเลย ฉันเบื่อยิ่งกว่าอีก”
หลวนจื่ออยู่ที่บ้าน ยังมีคนในครอบครัวให้พูดคุยด้วย มีหมินอันเกอคอยดูแลอยู่เป็นประจำ
เธออยู่ที่นี่ คนรู้จักสักคนก็ไม่มี
หลวนจื่อไม่ได้โน้มน้าวเธอให้กลับไปแล้ว แค่เอ่ยแนะนำเธอ “เธอไปเดินเล่นได้ อากาศที่นี่ไม่เลวเลย เธอเรียกป้าแม่บ้านไปด้วยก็ไม่ต้องกลัวใครรังแกเธอแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับเล็กน้อย
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว หลวนจื่อก็ควรจะกลับแล้ว
พวกเธอบอกลากัน แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าไม่ไกลมีสายตารักใคร่คู่หนึ่งกำลังมองมาตรงนี้
รถที่จอดอยู่ในบริเวณเงามืด
เงาของร่างหนึ่งนั่งอยู่ในความมืด สายตาจับจ้องที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เที๋ยนเที๋ยน……
เที๋ยนเที๋ยนของเขา