เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 901 เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้
บทที่ 901 เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้
โต้วโต้วตกตะลึงกับการแสดงออกที่จริงจังบนใบหน้าของเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงชายเสื้อของจี้จิ่งเชิน และนั่งยอง ๆ ลงไป
“ถึงแม้ว่าฉันจะเปลี่ยนเป็นทูตสวรรค์จริง ๆ อยู่บนสวรรค์ก็สามารถเฝ้ารักษาโต้วโต้วของฉันได้”
เธอลูบหัวของโต้วโต้ว “พี่สาวจะคอยมองดูโต้วโต้วตลอดเวลา มองดูโต้วโต้วโตเป็นผู้ใหญ่”
โต้วโต้วเชื่อฟังปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนลูบคลำ และยังถูในฝ่ามือของเธออย่างโอนเอนตาม
ความอาลัยอาวรณ์ของเธอที่มีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่จำเป็นต้องยับยั้งสิ่งใด
เหยาเย้นถอนหายใจในใจ เธอรู้ดีว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนใจดีแค่ไหน สวรรค์ไม่ควรจะต้อนรับอย่างไม่มีน้ำใจกับเธออย่างนี้
เธอตบไหล่เล็ก ๆ ของโต้วโต้ว “รีบกลับไปเถอะ กล่าวลาพี่เวินเที๋ยนเที๋ยน”
“พี่เที๋ยนเที๋ยนลาก่อน!”
โต้วโต้วพุ่งไปโบกมือให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน “จดจำสัญญาของพวกเรานะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าเบา ๆ สายตาที่อบอุ่น
เหยาเย้นส่งเธอออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนจาก เธอก้มลงกอดเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เที๋ยนเที๋ยน พวกเด็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต้องการคุณ ฉันก็ต้องการคุณ เพื่อพวกเรา ขอให้คุณมุ่งมั่นยืนหยัดต่อไป”
เธอมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา
เหยาเย้นไม่รู้ว่า จากกันครั้งนี้ ยังสามารถเจอเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อีกไหม
เมื่อวานตอนที่จี้จิ่งเชินหาเธอเจอ บอกให้เธออย่างชัดเจน โอกาสรอดชีวิตของเวินเที๋ยนเที๋ยนน่าจะมีเพียงแค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์
ฉะนั้น เขาหวังว่าเธอจะคิดวิธีออก ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่า พวกเด็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่สามารถไม่มีเธอ
ชีวิตของเธอ ก็ไม่ใช่แค่เด็ก ๆ เท่านั้น
เหยาเย้นเป็นคนจัดการทั้งหมดนี้ เธอไม่รู้ว่าสามารถช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินได้แค่ไหน แต่ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เธอทำได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ฉันรู้แล้ว ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี ๆ”
พูดเสร็จ จี้จิ่งเชินผลักเธอกลับไปขึ้นรถ
บนถนน เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบขรึมไม่พูด
จนกระทั่งเกือบจะลงรถ เธอพึ่งจะเปิดปากถามประโยคแรก “ถ้าหากไม่มีฉัน พวกเขาจะเสียใจไหม?”
ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกตัว หน้าที่ของเธอไม่ใช่แค่ลูกที่อยู่ในท้อง หรือดูแลพ่อแม่เท่านั้น
ยังมีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี และยังมีความฝันของเธอ
เธอหวังที่จะเปิดสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีในทุกที่ทั่วโลก เธอหวังว่าสิ่งที่เธอทำทุกอย่าง สามารถช่วยพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นที่สูญเสียครอบครัว
เด็กกำพร้าพวกนี้ ก็คือหน้าที่ความรับผิดชอบของเธอ
เธอไม่สามารถเลือกที่จะช่วยพวกเขาแล้ว วางมือไม่สนใจ เลิกล้มกลางคัน
จี้จิ่งเชินได้ยินคำไต่ถามของเธอ ดวงตาที่ลึกซึ้งพบกับดวงตาที่สับสนของเธอ
เขาพยักหน้าอย่างช้า ๆ
“แน่นอน ในสายตาของพวกเขา คุณคือพี่สาวคนโตที่รักที่สุดของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้”
สายตาของจี้จิ่งเชินมีความมั่นใจที่ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องเชื่อถือ
เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้……
ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จำแววตาที่โศกเศร้าของโต้วโต้วได้ และนึกถึงในตะกร้าที่เต็มไปด้วยดอกคาร์เนชั่น
เธอเพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ ทำให้เธอยากที่จะอดกลั้น
จี้จิ่งเชินเห็นเธอเงียบ ยกมือขึ้นลูบไปที่ด้านหลังของเธอ พยายามทำให้เธอสงบลงด้วยวิธีนี้
“ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจแบบไหน ผมจะไม่ขัดขวางคุณ”
จิ้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในอ้อมกอด ให้สัญญากับเธอด้วยเสียงต่ำ
ไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหนเหรอ?
แต่เห็นเด็ก ๆ พวกนี้ เห็นจี้จิ่งเชินแบบนี้ เธอจะมีทางเลือกอะไรได้บ้าง?
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลง น้ำตาร่วงหล่นออกจากหางตา
……
หลังจากวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินปรารถนาที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นจี้จิ่งเชิน หรือว่าแม่ครัวและพ่อบ้าน ทุกคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างชัดเจน
เธอมักจะลูบท้องอย่างใจลอย บางทีใจลอยก็ใช้เวลาไปเกือบจะทั้งวันแล้ว นอกเสียจากจะมีคนอยู่ข้าง ๆ ตะโกนเรียกเธอ เธอถึงจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ
อีกทั้งเวลาที่เหลือ มักจะใช้เวลาในการนอนหลับใหล
หนึ่งเดือนผ่านไปชั่วพริบตา ร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งนับวันยิ่งซีดเซียว
หลวนจื่อไม่ง่ายกว่าจะพักฟื้นเสร็จ ในที่สุดหมินอันเกอตกลงที่จะปล่อยเธอออกจากบ้าน
หลวนจื่อไม่รอให้ชักช้า รีบพาโดว์โดว์ไปถึงโรงพยาบาลทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งจะตื่นขึ้น เมื่อเห็นพวกเขา รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนใบหน้า และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
“หลวนจื่อ อันเกอ! พวกเธอมาได้ยังไง?”
เธออยากจะลงจากเตียง กลับถูกหลวนจื่อสกัดอย่างเร่งรีบ “ไม่ต้องไม่ต้อง เธออยู่บนเตียงพักผ่อนเถอะ”
หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอ สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนผิดไปจากเดิมมากยิ่งขึ้น
หลวนจื่อมองไปที่ท่าทางซีดเซียวของเธอ รู้สึกอึดอัดในใจอย่างมาก เธอนั่งอยู่ข้าง ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยน จับมือเธออย่างหนักแน่น
“อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ให้ฉันมาดูแลเธอนะ”
เธอตบหลังมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบา ๆ สัมผัสถึงความรู้สึกของมือคนที่อยู่ใต้มือ หลวนจื่อแทบจะควบคุมไม่อยู่ที่จะร้องไห้ออกมา
เธอนึกไม่ออกเลยว่า หากเวินเที๋ยนเที๋ยนยังเป็นแบบนี้ต่อไปจะอ่อนแอขนาดไหน!
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอบอุ่นใจ เมื่อหลวนจื่อบอกว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเธอ
แต่เธอยังคงส่ายหน้าปฏิเสธแล้ว
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เธอกับอันเกอยังคงมีเรื่องอีกเยอะที่ต้องทำ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโดว์โดว์ที่น่ารักอีกคนหนึ่ง จะแบ่งความสุขได้ยังไง? ฉันอยู่ที่นี่ยังมีจี้จิ่งเชินดูแลฉันอยู่”
“จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง? เรื่องนี้ก็กำหนดให้เป็นแบบนี้แล้ว เธอยังกลัวว่าฉันจะดูแลเธอได้ไม่ดีเหรอ? จี้จิ่งเชินดูเหมือนร่างกายสูงใหญ่บึกบึนแบบนั้น จะละเอียดรอบคอบเหมือนฉันได้ยังไง!”
หลวนจื่อมองเธอด้วยสายตาที่ปูดเร้า ราวกับจะบอกว่าแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่เห็นด้วยกับการอยู่ของเธอ เธอก็จะไม่จากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
จริง ๆ แล้ว จี้จิ่งเชินดูแลผู้คนไม่ค่อยเป็น
แต่นั่นคือเมื่อก่อน
หลังจากที่ตัวเองออกจากโรงพยาบาล จี้จิ่งเชินทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และเชี่ยวชาญยิ่งกว่าแม่ครัวและพ่อบ้านเสียอีก
แต่เห็นหลวนจื่อยืนกราน กลัวว่าเธอจะเสียใจ จำใจต้องตอบรับ: “งั้นก็ได้ แต่เธอก็ต้องใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้มาก ๆ โดว์โดว์ยังอยู่ในช่วงที่ต้องการคนดูแล”
“ฉันรู้แล้ว”
หลวนจื่อพูดแบบนั้น แต่คิดในใจว่า เอาโดว์โดว์ให้อันเกอกับคนที่บ้านดูแลไปก่อน หรือไม่ก็จ้างพี่เลี้ยงเด็กก็ได้ไม่เป็นไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนทางด้านนี้ถือว่าห่างจากผู้คนไม่ได้อย่างแท้จริง
เธอมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเจ็บปวดใจ นี่แค่หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอ นึกไม่ถึงเลยว่าเที๋ยนเที๋ยนจะอ่อนแอถึงขั้นนี้!
จี้จิ่งเชินดูแลเธออย่างไรกันแน่!
เมื่อพูดถึงจี้จิ่งเชิน……
หลวนจื่อสังเกตไปรอบ ๆ อย่างละเอียด พบว่ามีแค่พ่อบ้านที่อยู่ จี้จิ่งเชินกลับไม่มีแม้แต่เงา รู้สึกงงงวยเล็กน้อย
“จี้จิ่งเชินล่ะ? เขาคงจะไม่ใช่ยุ่งงาน และโยนเธอทิ้งไว้ที่นี่หรอกนะ?”
หลวนจื่อพูดอย่างไม่กล้าที่เชื่อ แม้ว่าเธอจะดูออกว่า จี้จิ่งเชินเป็นห่วงเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างมาก
แต่ในเวลานี้ ทำไมเขาไม่ดูแลเวินเที๋ยนเที๋ยนตลอดเวลา?
หลวนจื่อบ่น: “ไม่ได้ ฉันจะต้องโทรศัพท์หาเขา ถามให้ชัดเจน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว แต่ยังคงจับมือของหลวนจื่อไว้ “เธออย่าโมโหสิ คือฉันเองที่ไม่อยากหวังให้เขาอยู่เป็นเพื่อนฉันบ่อย ๆ”
เมื่อฟังแล้ว หลวนจื่อตกตะลึง
“เธอไม่หวังว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ?”
ดวงตาของหลวนจื่อเบิกกว้าง มีภรรยาคนไหนบ้างที่ไม่อยากให้สามีอยู่ด้วย ในระหว่างตั้งครรภ์?
สำหรับตัวเธอเอง มักจะไม่สนใจไยดี แต่เมื่อเธอตั้งท้องลูก เธอก็ตั้งตารอคอยการมาของหมินอันเกอ
เมื่อเธอตั้งครรภ์เธอมักจะชอบคิดฟุ้งซ่าน ต่อมาได้พักอยู่ที่โรงพยาบาล ทุกวันมักจะไม่มีอะไรทำ ทำให้คิดมากมากขึ้น
ในตอนนั้นมีหมินอันเกออยู่เป็นเพื่อน มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างยิ่ง และให้เธอมีความรู้สึกปลอดภัยอย่างเต็มที่
แต่ตอนนี้เธอได้ยินอะไร นึกไม่ถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดว่าเธอไม่ต้องการให้จี้จิ่งเชินอยู่กับเธอ?
เธอคิดอะไรอยู่กันแน่!