เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 924 ชื่อของลูก
บทที่ 924 ชื่อของลูก
“เจ้าหนูน้อย หนูมีชื่อแล้วนะ หยู๋ชิง,เสี่ยวหยู๋ชิง”
เห็นได้ชัดว่าหล่อนหลีเองก็รู้สึกว่าชื่อนี้ไม่เลว จึงหันกลับไปหยอกจี้หยู๋ชิง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเวินหงหยู้ที่อุ้มจี้หยู๋ชิงแล้วไม่ค่อยสะดวก จึงโทษตัวเองในใจเล็กน้อย แม้ว่าเวินหงหยู้พึ่งจะสี่สิบนิดๆ กำลังหนุ่มแน่น
แต่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ก็เป็นหล่อนหลีกับเวินหงหยู้ที่ดูแลจี้หยู๋ชิง เพื่อให้เธอพักผ่อนอย่างเต็มที่
ผลสุดท้ายก็ไม่ได้พักผ่อนอยู่ดี
เมื่อยเอวปวดหลัง
“คุณพ่อ หนูอุ้มเสี่ยวหยู๋ชิงเอง คุณพ่อทานข้าวเถอะ”
เวินหงหยู้โบกมือ “ไม่เป็นไรๆ พ่อยังอยากใกล้ชิดกับหลานของพ่ออยู่ เที๋ยนเที๋ยน ลูกกับหยู๋ชิงไม่เสียงดังเลยแม้แต่น้อย ว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ โตขึ้นต้องเป็นเด็กดีที่รู้ความแน่ๆ”
ในน้ำเสียงนั้นเจือความภาคภูมิใจและชื่นชม
“อืม ว่านอนสอนง่ายจริงๆ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้ารับ
ตอนออกจากโรงพยาบาลหมอได้แอบบอกกับเขาแล้ว ว่าตอนที่ร่างกายของลูกน้อยกำลังมีพัฒนาการสารพิษในช่องท้องยังไม่ถูกขับออกไป หรือหมายความว่าพัฒนาการอาจจะได้รับผลกระทบนั่นเอง
แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของหมอเท่านั้น
มองจากภายนอกแล้ว ลูกมีพัฒนาการที่ดีมาก
ถ้าหากเป็นด้านสมองหรือสภาวะจิตใจแล้ว ต้องรอให้โตก่อนถึงจะสามารถวินิจฉัยออกมาได้
เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน บางทีอาจจะไม่เป็นไรก็ได้ ไม่ให้เธอคิดมากจะดีกว่า
งานแต่งงานของหลวนจื่อกับหมินอันเกอมีกำหนดที่ต้นเดือนหน้า ยังมีเวลาเตรียมงานอีกสิบกว่าวัน หล่อนหลีกับเวินหงหยู้ร่วมงานแต่งงานเสร็จแล้วก็จะกลับไปพักฟื้นที่บ้านพักตากอากาศ
สองวันมานี้หลวนจื่ออุ้มโดว์โดว์มาที่ปราสาทเก่าทุกวัน เดี๋ยวก็เลือกแบบการ์ดเชิญกับเวินเที๋ยนเที๋ยน เดี๋ยวก็ขบคิดเรื่องสถานที่จัดงานแต่งงานและเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งรู้ว่าจะจัดงานแต่งงานครั้งหนึ่งนั้นมีงานที่ต้องทำซับซ้อนมากแค่ไหน
งานแต่งงานกับจี้จิ่งเชินตอนนั้น ล้วนเป็นจี้จิ่งเชินที่จะรับทำทุกอย่าง ตัวเองเพียงแค่สวมใส่ชุดแต่งงานสีขาวแล้วปรากฏตัวอย่างสวยงามก็พอแล้ว
คิดถึงเรื่องชุดแต่งงาน เธอก็เอ่ยแนะนำหลวนจื่อ
“ชุดแต่งงานเธอเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”
หลวนจื่อได้ยินก็เข้าใจความหมายของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ทันที เธอไม่อยากให้ประสบการณ์ของเธอเกิดขึ้นกับตัวเอง
“วางใจเถอะ เที๋ยนเที๋ยน แต่ว่าหล่อนเจียนีผู้หญิงคนนั้น กล้าที่จะตัดชุดแต่งงานเธอจนพัง ไม่อย่างนั้น ต้องเป็นชุดแต่งงานที่สวยที่สุดแน่ๆ สวมใส่ออกมาแล้วสะกดผู้คนได้แน่นอน”
“ช่างเถอะ มีคำอวยพรของพวกเด็กๆ ก็ดีนะ”
ในเวลาเดียวกันที่ผู้ใหญ่สองคนคุยกัน สายตาก็มองไปที่จี้หยู๋ชิงกับหมินยู่โดว์ตรงหน้าเป็นครั้งคราว
พรมขนาดใหญ่ปูบนพื้น บนพรมยังปูด้วยผ้าฝ้ายผืนเล็กกว่าเล็กน้อยที่เป็นมิตรกับผิว
เด็กตัวไม่เล็กสองคนนอนพิงอยู่ในกองหมอนอิง
โดว์โดว์เกือบจะเก้าเดือนแล้ว เป็นวัยที่กำลังชอบคลานไปทั่ว
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของเธอได้รับมาจากหมินอันเกอ นิสัยร่าเริงซุกซนกับคล้ายหลวนจื่อเป็นอย่างมาก
ตุ๊กตาของเล่นถูกเธอย้ายไปยังบริเวณเดียวกันหมด เหลือเพียงสองตัวที่จี้หยู๋ชิงพิงอยู่
โดว์โดว์ถูกล้อมไปด้วยกองของเล่นราวกับภูเขา นั่งอยู่ท่ามกลางกองของเล่นมองจี้หยู๋ชิงอย่างลำพองใจ สีหน้าภาคภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก
ในทางกลับกัน จี้หยู๋ชิงมองเธออย่างสงบนิ่ง นัยน์ตาสีดำกะพริบขนตาที่หนาแน่นราวกับขนแปรงขนาดเล็ก เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแล้วก็ใจอ่อน
“เที๋ยนเที๋ยน เสี่ยวหยู๋ชิงของเธอเลี้ยงง่ายเกินไปแล้ว”
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ หลวนจื่อถูกเสี่ยวโดว์โดว์ทรมานจนเหลือทน
ตอนกลางวันนอนทั้งวัน ตกกลางคืนต้องตื่นขึ้นมาให้นมหลายครั้ง ต้องอุ้มถึงจะนอนหลับ พอจะวางลงก็ตื่นขึ้นมาได้ง่าย
เป็นปิศาจน้อยที่ชอบทรมานคนอื่นนั่นเอง
แต่จี้หยู๋ชิงนั้นเลี้ยงง่ายกว่า ไม่ร้องไม่งอแง และไม่กลัวคนแปลกหน้า
หรือนี่จะเป็นความแตกต่างของลูกตัวเองกับลูกคนอื่น?
“อิจฉาเธอจริงๆ เที๋ยนเที๋ยน เธอไม่รู้หรอกว่าโดว์โดว์นั้นรังแกคนเก่งแค่ไหน พี่เลี้ยงบอกว่าเด็กเล็กก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้ผ่านช่วงนั้นมาแล้ว โตขึ้นก็ดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว”
“ฉันสิอิจฉาเธอ โดว์โดว์ร่าเริงน่ารักขนาดนี้”
“เธอชอบขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นแลกกันเอาไหม” หลวนจื่อพูดเล่น
ที่จริงแล้วจะดื้อกว่านี้ จะหนักใจมากกว่านี้ ก็ยังรักลูกของตัวเองที่สุดอยู่ดี
ไข่เงินไข่ทองก็ไม่สู้ไข่ซนๆ ของตัวเอง
นี่เป็นประโยคที่หมินอันเกอชอบพูดเป็นประจำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขานรับอย่างเป็นธรรมชาติ “ได้สิ”
พูดพลางอุ้มโดว์โดว์ขึ้น
แม้ว่าโดว์โดว์จะกลัวคนแปลกหน้า แต่กลับชอบเพียงแม่บุญธรรมอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกส่งยิ้มร่าเริงให้
ในตอนนั้นเองเธอที่กำลังน้ำลายไหลจูบลงบนแก้มเวินเที๋ยนเที๋ยนหนักๆ แล้วหัวเราะเสียงดัง
“โดว์โดว์ อยู่ที่นี่ดีไหม? ไม่ต้องการแม่แล้ว ต่อไปอยู่กับฉันแทน” พูดพลางทำท่าทางปิดตาของเธอ ไม่ให้เธอมองหลวนจื่อ
โดว์โดว์ร้อนรนแล้ว ใช้แรงดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำอย่างไรก็แรงน้อยสู้ไม่ได้
ปากน้อยๆ เบะร้องไห้ออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบปล่อยมือ แล้วปลอบเธอ
หลวนจื่อจึงรีบเข้ามาอุ้ม โดว์โดว์ก็หยุดร้องไห้ทันที น้ำตาสักหยดก็ไม่เห็น ดูท่าแล้วเมื่อสักครู่คงเป็นการแสดง เวินเที๋ยนเที๋ยนตกในนึกว่าร้องไห้จริงๆ อยากจะมอบรางวัลการแสดงออสการ์ให้เธอจริงๆ เลย
จี้หยู๋ชิงพึ่งจะสามเดือนที่แม้แต่คลานยังทำไม่ได้ ยังคงนอนอยู่บนหมอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปหยิบปลาโลมาในมือขึ้นมาหยอกเขา
“เสี่ยวหยู๋ชิง ยิ้มหน่อย”
จี้หยู๋ชิงไม่สนใจเธอ ปากเล็กขมุบขมิบ เป่าน้ำลายเป็นฟองเล่น
เดิมเวินเที๋ยนเที๋ยนอยากขอคำแนะนำเรื่องประสบการณ์การเลี้ยงลูก สุดท้ายวันนี้จี้จิ่งเชินก็เลิกงานก่อนเวลา กลับมาถึงก็พาเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงออกไปทำธุระข้างนอกทันที
ระหว่างทาง เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากถามจี้จิ่งเชินว่าจะไปที่ไหน กลับได้รับแต่รอยยิ้มลึกลับเป็นคำตอบ
รถมาถึงโรงงานแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว จี้จิ่งเชินรับหยู๋ชิงในมือเวินเที๋ยนเที๋ยนมาแล้วเดินนำเข้าไป
“พี่จิ่ง นี่มันที่ไหนกัน?” โรงงานตรงหน้าดูไม่ใหญ่นัก เป็นเรือนสี่ประสาน กลางลานมีต้นสึบากิเติบโตได้ดี ให้ร่มเงาขนาดใหญ่ ลมพัดให้กลิ่นหอมลอยมาด้วย
บนผนังด้านหนึ่งยังมีดินเหนียวขึ้นรูป ทั้งชาม ทั้งเหยือก
คนที่มีสถานะเป็นนักบูรพาวัตถุโบราณอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยนคุ้นเคยกับดินเหนียวเหล่านี้ดี เบิกตากว้างมองจี้จิ่งเชินอย่างไม่กล้าเชื่อสายตา
“นี่คือ? โรงเตาเผา?
จี้จิ่งเชินพยักหน้า
“คุณจี้ คุณมาแล้ว”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินออกมากลางสวน ผมที่แซมสีขาวไปแล้วครึ่งหนึ่ง หลังค่อมเล็กน้อย ฝ่ามือแห้งแตกและมีดินเหนียวติดอยู่ตามรอยแตก ยากที่จะล้างให้สะอาด
ผู้อาวุโสนำทางทั้งสองคนมาในห้องห้องหนึ่ง อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดินเหนียว โต๊ะขนาดใหญ่หลายตัวมีเหนียว ชุดอุปกรณ์ มีดแกะสลัก มีดไม้ไผ่ และอีกบางส่วนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร
“นี่คือ? จะทำอะไร?” เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่เข้าใจ
จี้จิ่งเชินพยักหน้าให้ผู้อาวุโส ผู้อาวุโสจึงออกไป
“คุณชอบเครื่องเคลือบดินเผาไม่ใช่เหรอ? ผมมีไอเดียหนึ่ง พวกเรามาทำกันเองสักชิ้นไม่ดีเหรอ?”
เดิมจี้จิ่งเชินตรวจเอกสารอยู่ที่บริษัท เดินผ่านโต๊ะทำงานของจงหลี เห็นของประดับชิ้นเล็กบนโต๊ะของเขา เป็นเครื่องเคลือบดินเผารูปพัดขนาดเล็กสวยงามและน่ารักมาก
ภายใต้การแสดงออกเป็นนัยๆ ของจี้จิ่งเชิน จงหลีจึงให้ที่อยู่ของที่นี่มา
ที่นี่สามารถเผาเครื่องปั้นดินเผ่าที่ทำเองเป็นเครื่องกระเบื้องเคลือบได้