เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 927 เด็กดื้อ อย่าทำให้คุณแม่โมโห
บทที่ 927 เด็กดื้อ อย่าทำให้คุณแม่โมโห
“เป็ด” หล่อนหลีชี้ไปที่ตำแหน่งนิ้วของหยู๋ชิง แล้วแก้ไขการออกเสียงให้ถูกต้องอีกครั้ง
“วาวา”
สำเนียงของเด็กเล็กทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับเวินหงหยู้ที่อยู่ข้างๆ หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
หล่อนหลีกลอกตามองทั้งสองคน แล้วก้มหน้าสอนหยู๋ชิงต่อ
“คุณแม่พักผ่อนเถอะ เขายังเด็กขนาดนั้น ยังเร็วไปที่จะพูด”
“เจ็ดเดือนแล้ว เริ่มสอนได้แล้ว” หล่อนหลีคิดว่าหลายชายของตัวเองฉลาด ต้องเริ่มพูดได้เร็วแน่นอน
“หยู๋ชิง มา เรียก ‘คุณยาย’ ” หล่อนหลีแทบที่จะรอฟังจี้หยู๋ชิงเรียกคุณยายเป็นครั้งแรกไม่ไหว
คราวนี้จี้หยู๋ชิงแม้กระทั่งจะทำลวกๆ ก็ขี้เกียจที่จะทำแล้ว เอาแต่มองหนังสือเล่มเล็ก นิ้วเล็กๆ ยังรู้จักที่พลิกหน้าถัดไป
ความสามารถในการเลียนแบบท่าทางแข็งแกร่งมาก
จี้หยู๋ชิงที่ไม่ร้องไม่งอแงนั้นทุ่นแรงได้มาก หลังจากที่หลวนจื่อได้ยินเรื่องนี้ก็มองสภาพตัวเองที่ราวกับหมีแพนด้า แล้วคร่ำครวญความยุติธรรมกับสวรรค์
“วันนี้เสี่ยวชิงอ่านหนังสือเองได้แล้ว” ทันทีที่จี้จิ่งเชินเข้าประตูมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็แบ่งปันความสุขกับเขาอย่างดีใจ
“ใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินหันไปมอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนประคองแขนของจี้หยู๋ชิง ให้เขาเผชิญหน้ากับจี้จิ่งเชิน “เสี่ยวชิง ดูคุณพ่อสิ”
จี้หยู๋ชิงเหลือบมองพ่อของตัวเอง แล้วหันหลังให้อย่างไม่ไว้หน้าโอบกอดคอเวินเที๋ยนเที๋ยน ศีรษะเล็กๆ ซบไปกับผมของเธอ แล้วยังเจียดเวลามองปราดจี้จิ่งเชิน สายตาเจือความลำพองใจ
จี้จิ่งเชินส่ายหน้าแล้วมองไปอีกครั้ง เจ้าหนุ่มน้อยก็ฝังศีรษะลงบนหน้าอกของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว
นี่เขามองผิดไปใช่ไหม?
เขากำลังอวด?
เด็กดื้อ
นอนอยู่ในอ้อมแขนของเวินเที๋ยนเที๋ยนทั้งวันก็ช่างเถอะ ยังกล้ายั่วยุอีก?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่สังเกตเห็นสายตาของจี้หยู๋ชิง เอ่ยยิ้มๆ “ขี้งอน”
จี้จิ่งเชินสงสัยว่าหยู๋ชิงนั้นตั้งใจ
“เที๋ยนเที๋ยน คุณโอ๋เขาเกินไปแล้ว”
จี้จิ่งเชินจ้องเจ้าเด็กแสนอวดดีคนนี้
จี้จิ่งเชินขุดเขามาจากอ้อมแขนของเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้หยู๋ชิงส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ แต่ไม่สามารถต่อต้านจี้จิ่งเชินได้ ถูกบังคับให้ห้อยอยู่บนมือเขาราวกับกระสอบ
ดวงตาโตจ้องดวงตาเล็ก
ใครก็ไม่ยอมแพ้ให้ใคร
“คุณระวังหน่อย” เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบบอก
“คุณวางใจเถอะ” จี้จิ่งเชินเอ่ย
เสียงของพ่อบ้านดังมาจากข้างนอกพอดี เหมือนว่าหล่อนหลีจะส่งของมาอีกแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเป็นห่วงจี้หยู๋ชิงเล็กน้อย
“คุณลงไปก่อนเถอะ ผมจะกล่อมเขาหลับเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย
คุณทำได้เหรอ?”
“ไม่มีปัญหา” จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นยิ้มบางให้เธอแล้วเอ่ย “เมื่อก่อนตอนกล่อมคุณหลับ ก็ชำนาญแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ได้ยินดังนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
ถือโอกาสนี้ให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกันก็ไม่เลว
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดพลางพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินออกมา
เมื่อคนเดินออกไปแล้ว จี้จิ่งเชินก็วางจี้หยู๋ชิงไว้ข้างหน้าตัวเอง สีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
“จี้หยู๋ชิง ทางที่ดีหนูเชื่อฟังหน่อย อย่าทำให้แม่โมโห อย่าทำให้เธอเหนื่อยเกินไปจนป่วย ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกับพ่อแน่”
เสี่ยวหยู๋ชิงเบิกตากว้าง สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังมาก ในแววตานิ่งสงบไม่สมกับวัย
จี้จิ่งเชินวางเขาลงเตียงเล็กของตัวเอง
“ได้ยินไหม? ได้ยินแล้วก็ตอบ!”
เสี่ยวหยู๋ชิงเอ่ยอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “ยียียายา”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าอย่างพอใจ
“ดีมาก ตอนนี้ก็หลับตานอนได้แล้ว” น้ำเสียงออกคำสั่ง
“ยียียายา”
“หลับ”
“ยียียายา” มือเล็กชี้ไปที่หนังสือนิทานข้างเตียง
จี้จิ่งเชินมองแล้วขมวดคิ้ว
“หนูยังอยากฟังนิทาน? อย่าโลภมากสิ”
“ยียียายายียี”
“……”
จี้จิ่งเชินยืนจ้องเขาอยู่ข้างเตียงเด็ก ใครก็ไม่ยอมถอยให้ใคร
จ้องอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็หยิบหนังสือขึ้นมา
“ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”
“ยีย้า!”
จี้จิ่งเชินนั่งลงข้างเตียง แล้วเปิดหนังสือนิทาน
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงผมยาวคนหนึ่ง……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บของที่หล่อนหลีส่งมาให้เรียบร้อยแล้ว ก็รู้สึกเป็นห่วงจี้จิ่งเชินขึ้นมาเล็กน้อย
จึงขึ้นไปชั้นบนแล้วเปิดประตู กลับได้ยินเสียงของจี้จิ่งเชิน
“เจ้าชายบอกว่า ต้องช่วยเจ้าหญิงออกมาให้ได้……”
การเคลื่อนไหวของเธอชะงักไปทันที มองจี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ข้างเตียงเด็กอ่อนอย่างประหลาดใจ
พวกเขาเล่านิทาน?
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินทุ้มต่ำ อ่อนโยนเป็นอย่างมาก
เสี่ยวหยู๋ชิงบนเตียงเด็กอ่อนได้หลับไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้เดินเข้าไปอีก ยืนมองอยู่ที่ประตูครู่หนึ่งแล้วก็ออกมาเงียบๆ
เมื่อเดินลงมาชั้นล่าง เสียโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“สาวตัวน้อย ตอนนี้เธออยู่บ้านไหม? ฉันกับอาจารย์ของเธอ พบวัตถุโบราณชิ้นหนึ่ง อยากให้เธอดู พอมีเวลาไหม?”
“แน่นอนว่ามีเวลา ท่านจาง ตอนบ่ายฉันไปหาท่านเลยดีไหม?”
“ไม่ต้องๆ อาจารย์เธออยู่ที่นี่แล้ว พวกเราไปหาเธอที่นั่นดีกว่า ของชิ้นนี้ใช้ความพยายามมากกว่าจะได้มา”
ท่านจางแทบจะรอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นวัตถุหายากชิ้นนี้ไม่ไหวแล้ว นี่เป็นของที่แม้กระทั่งท่านเปิงที่เห็นสมบัติล้ำค่าจนชินแล้วยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้นทันที พอดีกับจี้จิ่งเชินที่เดินลงมาพอดี
“เป็นอะไรไป?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอธิบาย “ท่านจางอยากให้ฉันไปหา เหมือนว่ามีของต้องการให้ฉันดู”
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น ไม่จำเป็นต้องคิดก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
สามารถทำให้ท่านจางตื่นเต้นได้ขนาดนี้ ก็มีแค่วัตถุโบราณแล้ว
เหตุผลที่ตามเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ไปหาก็สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็คิดถึงจุดนี้ จึงเอ่ยยืนยันกับจี้จิ่งเชิน “ร่างกายของฉันหายดีแล้ว ไปดูหน่อยได้ไหม?”
จี้จิ่งเชินเห็นดังนั้น ก็ยื่นมือไปรวบเอวของเธอ
“ผมจะไปกับคุณ ให้พวกเขาได้เจอหยู๋ชิงด้วย”
เขายังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ท่านจางคอยเลียบๆ เคียงๆ ต้องการแนะนำลูกชายตัวเองให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอด
ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว แต่จี้จิ่งเชินยังจำได้ชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ไม่ได้ค้นพบความคิดในใจของเขา จึงพยักหน้าอย่างดีใจ
“ฉันจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้”
พูดพลางรีบเอ่ยกับท่านจางในสายโทรศัพท์ “ท่านจาง ฉันจะไปกับจี้จิ่งเชิน”
“เขาก็จะมาเหรอ?”
ท่านจางกลับไม่พอใจเล็กน้อย
ทุกครั้งที่จี้จิ่งเชินมาด้วย ตราบใดที่ใช้เวลานานหน่อย เขาก็จะพาเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยยิ้มๆ “ใช่ พวกเราพาหยู๋ชิงไปด้วย”
“เสี่ยวหยู๋ชิงก็มาด้วย?” ท่านจางได้ยินก็รีบพยักหน้าทันที “ดี! ดี! พวกเธอรีบมา พวกเราจะรอ”
“ทราบแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับปากอย่างเต็มปากเต็มคำ
ทันทีที่มาถึงตระกูลจาง ท่านจางกับท่านเปิงก็รออยู่ในห้องรับแขกแล้ว
เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา ท่านจางก็ออกมาต้อนรับอย่างตื่นเต้น โน้มเข้าไปหาลูกที่อยู่ในอ้อมแขนของจี้จิ่งเชิน
“เสี่ยวหยู๋ชิง ไม่เจอกันนานเลย!”
“ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย เรียกคุณปู่สิ”
จี้จิ่งเชินที่อุ้มจี้หยู๋ชิงอยู่มีสีหน้ามืดลงทันทีที่
ทั้งสองคนล้อมเสี่ยวหยู๋ชิงไว้ เดี๋ยวก็หยอกเขา เดี๋ยวก็พูดคุยเฮฮา
เสี่ยวหยู๋ชิงที่มักจะมีสีหน้าเคร่งขรึม ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าน่ารัก
แม้กระทั่งบนหน้าของท่านเปิงที่สุขุมมาแต่ไหนแต่ไร ก็ปรากฏรอยยิ้มอบอุ่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงยิ้มถาม “ท่านจาง ท่านเปิง ของที่พวกท่านพูดถึงล่ะ?”
คราวนี้ทั้งสองคนจึงได้สติกลับคืนมา ปล่อยเสี่ยวหยู๋ชิงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“อยู่ทางนี้