เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1001 ความผิดของตัวเองก็ต้องแบกรับเอง
นาทีนี้ ไม่ว่าจะบนเวทีเดินแบบหรือผู้ชมตรงใต้เวที ต่างก็ตกใจกับสถานการณ์ของเมื่อกี๊
พอเห็นการปรากฎตัวของหมินอันเกอยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่
ไม่นาน ก็มีคนดูพวกเขาสองคนออก แน่นอนว่าก็เห็นความสัมพันธ์ของหลวนจื่อกับหมินอันเกอ และเริ่มวิพากวิจารณ์เสียงเบาขึ้นมา
หมินอันเกอไม่ได้สนใจสายตาของพวกเขา หลังจากแน่ใจแล้วว่าหลวนจื่อไม่เป็นไร ก็ได้ให้เธอนั่งพักที่เก้าอี้ที่ข้างๆ
หลวนจื่อส่ายหัว: “ฉันไม่เหนื่อย ไม่เป็นไรค่ะ”
“นั่งพักค่ะ” เสียงของหมินอันเกอกลับค่อนข้างแข็งกร้าว
หลวนจื่อหมดหนทาง ได้แต่นั่งลงมา
ต่อมา หมินอันเกอถึงก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนเวที สายตาของเขาจ้องอยู่ที่เหล่านางแบบ พริบตาเดียวก็เปลี่ยนมาเฉียบคมสุดขีด
“ใครเป็นคนทำ?”
เขาถามขึ้นมาปุ๊บ ผู้คนต่างก็สับสนมึนงง ไม่รู้ว่าเรื่องมันยังไงกัน เมื่อครู่ไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำว่ามีคนผลักหลวนจื่อ
หมินอันเกอพูดต่อว่า: “มีคนผลักหลวนจื่อ เป็นคนก้าวออกมาเองดีกว่า”
พอพูดจบ คนที่อยู่ในงานก็ส่งเสียงดังขึ้นมาทันที!
ไอรีนไม่คิดเลยว่าทำถึงขั้นนี้แล้ว หลวนจื่อก็ยังไม่เป็นไรอีก
ยิ่งคิดไม่ถึงว่าหมินอันเกอจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้ เมื่อครู่ตอนที่เธอผลักหลวนจื่อ ได้หลบสายตาของผู้คนแล้วแท้ๆ น่าจะไม่มีคนเห็นสิถึงจะถูก
ได้ยินคำพูดของหมินอันเกอ เธอก็ร้อนตัวขึ้นมาทันที จากนั้นได้พูดอย่างใจร้อน: “หลวนจื่อไม่ได้ล้มลงไปเองเหรอ? ใครเป็นคนผลักเธอ? ”
พอเธอเปิดปาก นางแบบที่อยู่รอบๆก็เริ่มคล้อยตามกันขึ้นมา
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันว่าเพราะประสบการณ์ขั้นพื้นฐานของเธอไม่ผ่าน แล้วล้มลงไปเองมากกว่ามั้ง?”
“ไม่แน่วันนี้เห็นว่าได้ออกหน้าออกตา ตัวลอยถึงเกิดเรื่องมากกว่ามั้ง”
“……”
คนกลุ่มนึงเริ่มวิพากวิจารณ์เสียงแหลมกันขึ้นมา หน้าตาที่บาดลึกเสียดแทน ทำให้ทุกคนช็อก
สายตาของหมินอันเกอยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปใหญ่ แสงของความเยือกเย็นระยิบระยับอยู่
“ผมรู้ความสามารถของหลวนจื่อ เธอไม่มีทางล้มแน่นอน จะต้องมีคนผลักเธอแน่นอน! ก้าวออกมา!”
นางแบบทั้งหลายต่างก็สบตาซึ่งกันและกัน ใครก็ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย
หลุยส์ขมวดคิ้ว เขารู้ดีสำหรับการแก่งแย่งชิงดีของวงการนางแบบ ส่วนหลวนจื่อ เท่าที่ดูนิสัยของเธอน่าจะไม่แกล้งล้มลงไปเอง แล้วมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นหรอก
ระหว่างที่คิด เขาได้หันไปมองเหล่านางแบบที่อยู่ข้างหลัง
“หลวนจื่อถูกคนผลักจริงหรือเปล่า?”
ทุกคนเงียบกริบไม่พูด เวลานี้ไอรีนได้พูดว่า: “ใครจะไปผลักเธอคะ เมื่อกี๊ฉันเห็นชัดแจ๋วเลยว่าเธอล้มลงไปเอง ฉันว่า เธอจงใจอยากใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นมากกว่า?”
เดิมทีหลวนจื่อนั่งอยู่ด้านล่างอย่างเชื่อฟัง ลึกๆยังประหลาดใจอยู่ว่าหมินอันเกอรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเดินแบบอยู่ที่นี่
เวลานี้ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของไอรีน เธอได้เงยหน้าขึ้นมาทันที สายตาไม่ยอมอ่อนข้อมองไปที่เธอ
“ฉันถูกคนผลักลงมาค่ะ” เธอเปิดปากพูด
คำพูดเดียว ทำให้ทุกคนตกใจ
แต่ไอรีนกลับโต้แย้งอย่างรวดเร็ว : “เป็นไปได้ยังไง? เธอล้มลงไปเอง ยังจะมาโทษคนอื่นอีก หลวนจื่อ เธออย่าเกินไปนะ”
“คนที่เกินไปก็คือเธอนั่นแหละ!”
หลวนจื่อพูดเสียงสูง สายตาเฉียบคม
“คนที่เดินอยู่ข้างกายฉันเมื่อครู่ ฉันรู้หมด พวกคุณจะก้าวออกมาเอง หรือจะให้ฉันเรียกชื่อทีละคน?”
คนที่เดินอยู่ข้างกายหลวนจื่อเมื่อครู่นี้ นาทีนี้ได้ยินคำนี้แล้วสีหน้าเปลี่ยนไปเลย
พวกเธอต่างก็มองหน้ากันไปมา
ถึงตัวเองไม่ได้ผลักหลวนจื่อ แต่เดี๋ยวถ้าถูกหลวนจื่อเรียกชื่อ ในงานมีนักข่าวและดีไซนเนอร์เยอะขนาดนี้ จะเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของพวกเธอแน่นอน
พอเป็นแบบนี้ ก็ได้ไม่คุ้มเสียแล้ว
ผ่านไปสักพัก ถึงมีนางแบบสองคนก้าวออกมา
“ตอนนั้นพวกเรายืนอยู่ข้างๆเธอ แต่พวกเราไม่ได้แตะต้องเธอเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไม่มีทางผลักเธอลงไปหรอก”
เห็นว่าในที่สุดก็มีคนเปิดปาก หลวนจื่อพูดอย่างเรียบเฉย: “ฉันรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่พวกเธอ แต่ว่า ตอนนั้นคนที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเธอคือใคร พวกเธอยังจำได้มั้ย?”
ทั้งสองมองหน้ากันทีนึง จากนั้นสายตาได้จ้องมาที่ไอรีนพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
“ฉันจำได้ เหมือนจะเป็นไอรีนนะ?”
เพราะคำพูดนี้ สายตาของผู้คนต่างก็จ้องมองมาที่ไอรีนหมด
ไอรีนหน้าซีดเหมือนไข่ต้ม
“พวกเธออย่าพูดมั่วสิ! ฉันไม่ได้ทำ!”
ผู้คนส่งสายตาสงสัยมา หลวนจื่อแค่ยิ้มอ่อนๆแล้วพูด: “ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วยังจะเป็นใครได้?”
หลุยส์ขมวดคิ้วมองเธอ
นึกย้อนถึงก่อนเริ่มเดินแบบ ไอรีนกับหลวนจื่อเคยมีปากเสียงกันจริงๆ
อีกอย่างแต่ไหนแต่ไรนิสัยของไอรีนก็เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ถ้าเป็นเธอก็ไม่แปลกเลย
“ไอรีน จริงหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ฉันจริงๆค่ะ!” ไอรีนคอยหักล้างด้วยเสียงแหลมและเศร้ารันทด
ระหว่างพูด เธอก็ได้มองไปที่หลวนจื่ออย่างชั่วร้าย
“หลวนจื่อ เธอนี่อำมหิตจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะมาปรักปรำฉันแบบนี้! ทุกคนต้องเชื่อฉันนะคะ ฉันไม่เคยแตะต้องเธอเลย!”
เธอพูดไปด้วยและร้องไห้ไปด้วย
ผู้คนเห็นแล้วต่างก็ค่อนข้างลังเล ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใคร
“เธอไม่ได้แตะต้องหลวนจื่อสักนิดเลยจริงเหรอ?” ในขณะนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เปิดปากพูด
“ก็ใช่น่ะสิ!” ไอรีนพูดเสียงสูง และพูดอย่างแน่วแน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอ่อนๆ
“แล้วนี่คืออะไร?”
เธอยกมือถือของตัวเองขึ้นมา ผู้คนมองดูอย่างละเอียด มือถือหยุดอยู่ที่อัลบั้มรูปพอดี
ในนั้นคือรูปถ่ายใบนึง ถ่ายตอนที่ปิดงานเดินแบบไว้ได้พอดี
นางแบบทุกคนและดีไซน์เนอร์ปรากฏตัวในเวลาพร้อมกัน
เมื่อครู่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเตรียมตัวถ่ายรูปของหลวนจื่อ จะส่งไปให้หมินอันเกอดูพอดี กลับจับพลัดจับผลู ไม่คิดเลยว่าจะถ่ายเจอภาพที่หลวนจื่อถูกผลักลงไป!
มือคู่นึง ได้ยื่นออกมาจากหมู่คนและใช้แรงผลักหลังเธอทีนึง
และเจ้าของๆมือคู่นั้น ก็คือไอรีน!
รูปถ่ายได้ชัดเจนมาก แค่ดูแว๊บเดียวก็เข้าใจหมด
ผู้คนเห็นรูปถ่ายใบนี้แล้ว ต่างก็มองไปที่ไอรีนอย่างตกตะลึง
ตอนนี้มีหลักฐานที่ชัดเจนขนาดนี้แล้ว เธอยังจะกล้าเล่นลิ้นอีก?
ไอรีนคิดไม่ถึงเลยว่าภาพตอนก่อเหตุจะถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้!
เธอเบิกตากว้าง อยู่ภายใต้สายตาที่กล่าวโทษของทุกคน ได้เซถอยหลังไปหลายก้าว
“ไม่……ไม่ใช่ฉัน คนที่อยู่ในรูปไม่ใช่ฉัน”
“ไม่ใช่เธอได้ยังไง?”
มีคนพูดอย่างไม่พอใจ: “รูปก็อยู่ที่นี่แล้ว เธอยังไม่ยอมรับอีก?”
“เกิดเป็นนางแบบ ไม่นึกเลยว่าจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้”
“นางแบบๆนี้ ไม่มีสิทธิ์ร่วมงานเดินแบบเลยด้วยซ้ำ! วันนี้สามารถทำร้ายหลวนจื่อได้ พรุ่งนี้ก็สามารถทำร้ายคนอื่นได้เหมือนกัน!”
“ใช่ๆๆ!”
สีหน้าของหลุยส์ดูแย่สุดๆ ไอรีนเป็นซุปเปอร์โมเดลเปิดงาน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำเรื่องแบบนี้ออกมา ไม่อาจให้อภัยได้จริงๆ!
ผลักนางแบบล้ม เป็นเรื่องที่เลวที่สุด!
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การร่วมงานของเราเป็นโมฆะ เธอไปหางานใหม่เถอะ!” เขาพูดอย่างเย็นชา
สีหน้าของไอรีนซีดเซียวและพ่ายแพ้ยับเยิน จับเสื้อของหลุยส์ไว้ด้วยความเร่งรีบ
“ไม่นะ หลุยส์ ฉันอธิบายได้!”
“ฉันไม่ระวังค่ะ ฉันไม่ทันระวังจริงๆนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ!”
หลุยส์ส่ายหัว
“นี่เป็นความผิดที่เธอทำเอง ก็ควรจะแบกรับเอง!”
“ฉัน……”
ไอรีนถอยหลังไปหลายก้าว ปรากฎเท้าลื่นได้ล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นโดยตรง
แต่หน้าตาเธอยังมึนงงสับสน เพราะอนาคตของตัวเองได้ดับสนิทแล้ว!