เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1009 ซ้อนกล
แอนนี่ดีใจจนหัวเราะออกมาราวกับว่าตัวเองได้ตำแหน่งคุณหนูจี้แล้ว! ไม่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
“ใช่แล้ว ไปถามจี้จิ่งเชินอีกดีกว่าว่าเขาจะรับผิดชอบกับฉันยังไง”
เธอเอาโทรศัพท์ออกมา กำลังเตรียมกดโทรออกไป
เดินมาถึงมุมโค้ง จู่ๆข้างหน้ากลับมีคนสองคนดักทางเธอไว้
แอนนี่ไม่แม้แต่จะยกหน้าขึ้น ขมวดคิ้วและตะคอกออกไป
“ใครเนี่ย? หมาดีไม่ขวางทางอ่ะรู้จักหรือเปล่า? ไปไกลซะ!”
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขยับตัวเลยสักนิด
แอนนี่ยกหน้าขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
“พวกคุณฟังไม่รู้เรื่องหรือไง? ไปไกลๆซะ! พวกคุณรู้ว่าฉันเป็นใครไหม? อีกไม่นานฉันจะเป็น……”
“คุณจี้ครับ รบกวนคุณมาที่นี่หน่อยครับ” บอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคนเปิดปากพูดขึ้นมาทันที
แอนนี่ชะงักไปสักพัก
จากนั้นก็เห็นบอดี้การ์ดสองคนนี้ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว จี้จิ่งเชินเดินขึ้นมา
บนใบหน้าเขาไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาสักอย่างแถมเย็นชามากด้วย ตอนมองไปที่แอนนี่ราวกับมีน้ำค้างเย็น
“เมื่อกี้คุณบอกว่าอีกไม่นานคุณจะเป็นอะไร?”
น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับลมหนาวของฤดูหนาวสามเดือน ทำเอาคนฟังกลัวสุดขีด
แต่แอนนี่ก็ไม่ได้ก้าวถอยหลัง ตอนนี้เธอเอาตัวเองวางในตำแหน่งของคุณหนูจี้แล้ว
เธอรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าอย่างประจบ
“ไม่ใช่ ฉันแค่พูดไปเรื่อยเอง ฉันจะบอกว่าการแข่งขันจะเริ่มแล้ว ฉันต้องไปทำงาน คุณจี้คุณมาทำไม?”
จี้จิ่งเชินกวาดมองเธอด้วยความเย็นชา
“ฉันมาทำตามสัญญาของฉัน มารับผิดชอบคุณไง”
ได้ยินแบบนี้ ดวงตาแอนนี่สว่างขึ้นมาทันทีและเซอร์ไพรส์มาก
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? คุณหย่ากับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว?”
สายตาของจี้จิ่งเชินยิ่งเยือกเย็นไปอีก ราวกับมีดคมที่เต็มไปด้วยเลือด นัยน์ตาสีดำลึกลับราวกับทะเลราวกับท้องฟ้าตอนกลางคืน
“ทำไมฉันต้องหย่า?” เขาถามกลับ
แอนนี่ชะงัก
“แต่ว่า……”
เธอพึ่งเดินเข้ามาหนึ่งก้าวก็โดนบอดี้การ์ดสองคนนั้นจับข้อมือไว้ กักไว้แน่น!
แอนนี่โมโหขึ้นมาทันที
“นี่! พวกคุณทำอะไรเนี่ย? ฉันเป็นคุณหนูจี้นะ!”
“ปล่อยฉัน! เชื่อไหมว่าฉันทำให้พวกคุณโดนไล่ออกตอนนี้ได้!”
แต่บอดี้การ์ดสองคนกลับไม่สนใจไม่ขยับตัว
แอนนี่เลยต้องมองไปที่จี้จิ่งเชิน
“จิ่งเชิน เกิดอะไรขึ้น? คุณบอกจะทำตามสัญญาที่เคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอว่าจะรับผิดชอบฉัน?”
เธอขยับเข้าใกล้จี้จิ่งเชินอีกหน่อย แต่ไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินกลับก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วราวกับเธอเป็นสัตว์ป่าเถื่อนอะไรสักอย่าง
เขาขมวดคิ้ว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ก็จะรับผิดชอบไง รับผิดชอบกับเรื่องที่โกหกคุณเรื่องของฉันกับเวินเที๋ยนเที๋ยนไง!”
“พาตัวไป!”
เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แอนนี่ได้ยินแบบนี้สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เป็น……เป็นไปได้ไง? ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คุณบอก……”
“ยัยโง่! ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง?”
จี้จิ่งเชินไม่ได้อธิบาย หันหลังเตรียมตัวเดินไปหลังเวทีเพียงสั่งไปว่า “ให้หล่อนห่างจากฉันสามเมตร ไม่ต้องให้กลิ่นเหม็นเน่าบนตัวเธอมาโดนฉัน!”
“ครับ ประธานจี้”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนจับตัวแอนนี่และเดินตามไป
บนใบหน้าแอนนี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าซีดจนไม่เห็นเส้นเลือด แถมยังมึนงงไปด้วย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
อีกด้าน เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อุตส่าห์รอดผ่านพวกนักข่าวที่มาล้อมรอบ มาถึงที่ห้องพักของคนแข่งขัน
ผลักประตูเข้าไปก็รู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศในห้องอึดอัดมาก
เห็นบนมือของพวกอาจารย์ฉู่ถือหนังสือพิมพ์และนิตยสารไว้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดาออกทันที
ได้ยินเสียงเปิดประตู คนพวกนั้นหันมามอง
“เที๋ยนเที๋ยน!”
“เที๋ยนเที๋ยน เกิดอะไรขึ้น?”
“หรือว่าคุณกับจี้จิ่งเชินเป็นจริง……”
คนพวกนั้นรีบไถ่ถามด้วยความเร่งรีบ
ความสัมพันธ์ของพวกเขาและเวินเที๋ยนเที๋ยนก็สนิทกัน และรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและจี้จิ่งเชินทำให้คนอิจฉามาก
แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ในใจก็ยิ่งกังวลเป็นห่วงไปอีก
และบวกกับวันนี้ต้องแข่งขันแต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่รู้ว่าจะกระทบกระเทือนกับทักษะฝีมือเธอหรือเปล่า
คนนอกอาจจะรู้สึกการแข่งขันระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและนิวมั้นครั้งนี้ไม่มีอะไร แต่มีแค่พวกอาจารย์ฉู่เท่านั้นที่รู้
ครั้งก่อนพวกนิวมั้นเคยมายั่วยุที่ห้องฝึกของพวกเธอ เพราะแข่งแพ้เวินเที๋ยนเที๋ยน
ถ้าครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนแพ้อีก พวกเธอก็จะยิ่งเสียศักดิ์ศรีและยิ่งทำให้พวกนิวมั้นอวดดีไปอีก
อาจารย์ฉู่ถอดหายใจ “เที๋ยนเที๋ยนถ้าคุณลำบากใจจริงๆ ถึงครั้งนี้จะแพ้ก็ไม่เป็นไร”
“ใช่ ใครก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา”
“การแข่งขันครั้งนี้คุณทำเต็มที่ก็พอ ไม่ต้องบังคับตัวเอง”
คนทั้งกลุ่มพยายามมาพูดปลอบใจ แต่จางลัยยี่ที่ฟังอยู่ข้างๆกลับไม่พอใจ
“แพ้ก็ไม่เป็นไร? พวกคุณนี่พูดออกมาได้น่าฟังจัง”
เขามองบนใส่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“นี่เป็นการแข่งขันนะ เมื่อก่อนพวกคุณพูดตลอดไม่ใช่หรือไงว่าห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงาน? พอตอนนี้กลายเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เปลี่ยนงั้นเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่ก็น่าจะรู้ความหมายนี้ดี แต่ว่าครั้งนี้มันเป็นสถานการณ์พิเศษ
ถ้าเปลี่ยนมาเป็นเขามาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงรับปากไม่ได้ว่าจะทำออกมาได้เต็มที่หรือเปล่า
“เวินเที๋ยนเที๋ยนชนะมาสองรอบแล้ว จากความสามารถขอหล่อนก็ถือว่าพอได้แล้ว……”
“พูดไปเรื่อย!”
เสียงจางลัยยี่พูดตัดบทพวกเขาด้วยความไม่พอใจ “เวินเที๋ยนเที๋ยนครั้งนี้เป็นเหตุผลของตัวคุณเองนะ คุณอย่ามาถ่วงพวกเราเพราะตัวคุณเอง ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่สามารถแข่งขันได้งั้นก็รีบยอมแพ้ก่อนจะดีกว่า จะได้ไม่ขายขี้หน้ากลายเป็นตัวตลกของคนอื่น!”
“จางลัยยี่! คุณหมายความว่าไง?”
อาจารย์ฉู่ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยความไม่พอใจ “ครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่างประเทศ รู้ว่าต้องให้ความสำคัญแต่ทำอย่าง……”
ทันใดนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยกมือขึ้นมาห้ามเขาไว้
“อาจารย์ฉู่ ฉันไม่เป็นไร”
“แต่ว่า……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม สายตามองไปที่หน้าจางลัยยี่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความมั่นคง
“การแข่งขันวันนี้ ฉันจะทำเต็มที่แน่นอน ปรมาจารย์จางไว้ใจได้เลย”
เห็นสีหน้าบนหน้าเธอและน้ำเสียงที่มั่นใจแบบนี้ ทันใดนั้นทำเอาจางลัยยี่สงสัยขึ้นมา
ทำไมเวลาแบบนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนยังมีความมั่นใจขนาดนี้?
ทั้งๆที่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่มีทางมีอารมณ์แข่งขันอีก……
แต่แป๊บเดียว เขาก็ส่ายหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังโอ้อวดอยู่แน่ๆ!
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นแบบนี้ดีที่สุด แต่ฉันว่าครั้งนี้คุณแพ้แน่ๆ!”
พูดจบก็เดินออกไป
คนทั้งกลุ่มได้ยินประโยคสุดท้ายของเขาก็ขมวดคิ้วและไม่เข้าใจกัน
“จางลัยยี่เป็นอะไรเนี่ย? เขาทำไมชอบบอกว่าพวกเราจะแพ้ตลอด?”
“เขาไม่ใช่ฝั่งเดียวกับพวกเราหรือไง? ไม่เข้าใจจริงๆ”
อาจารย์ฉู่ได้ยินแบบนี้ก็ก้มหัวไตร่ตรองนึกคิด
“เที๋ยนเที๋ยนมานี่ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแล้วเดินตามเขาไปอีกข้าง
อาจารย์ฉู่ขมวดคิ้ว เอาเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตัวเองเห็นจางลัยยี่อยู่กับนิวมั้นบอกให้เธอ
“ความสัมพันธ์ของจางลัยยี่และนิวมั้นไม่ธรรมดา วันนั้นทั้งสองคนแอบไปคุยลับหลังเสร็จ ตรงทางคุณก็เกิดเรื่องพอดี คุณว่าในนี้มันอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันไหม?