เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1028 คุณพ่อคุณแม่ อย่าทะเลาะกัน
แต่เมื่อเห็นสายตาเข้มงวดของจี้จิ่งเชิน เขาก็ได้แต่พยักหน้า ไม่พูดเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับน้องสาวขึ้นมาอีก
จี้หยู๋ชิงมองของเล่นในมือ ในเมื่อไม่มีน้องสาว ถ้าอย่างนั้นก็ให้โดว์โดว์เป็นน้องสาวก็แล้วกัน
แม้ว่าโดว์โดว์จะโตกว่าเขาหลายเดือน แต่ก็เซ่อซ่า
เป็นน้องสาวนั่นแหละ
วันต่อมา
จี้หยู๋ชิงตั้งตารอน้องสาวโดว์โดว์มาเล่นด้วยยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ นั่งเตรียมพร้อมบนโซฟาอยู่ก่อนแล้ว
เขาต้องคุยกับน้องโดว์โดว์เรื่องที่เมื่อวานคุณพ่อหัวเราะเยาะเขา ให้น้องสาวปลอบใจ
จนกระทั่งตอนบ่าย ในที่สุดหลวนจื่อก็พาโดว์โดว์มา
“คุณแม่ เร็วๆ! เร็วๆ!”
โดว์โดว์โยกไปมาไม่หยุด ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แทบจะรอเข้าไปข้างในไม่ไหวแล้ว
หลวนจื่อจนใจ
ตั้งแต่เมื่อวาน เวินเที๋ยนเที๋ยนโทรมาเชิญพวกเขามา หลังจากบอกว่าจี้หยู๋ชิงอยากเจอโดว์โดว์แล้ว โดว์โดว์ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก คืนก่อนหน้านี้ก็แทบนอนหลับไม่สนิท
เช้าวันนี้ยังหาชุดกระโปรงที่ตัวเองชอบมาใส่โดยเฉพาะ
แต่เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจ ปกติจี้หยู๋ชิงเหมือนกับพ่อของเขาราวกับเคาะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน เย็นชาเป็นที่สุด
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะออกตัวชวนโดว์โดว์ไปหา มิน่าเธอถึงได้ดีใจขนาดนี้
แต่ต่อให้ดีใจจริงๆ นี่ก็มากเกินไปหน่อยไหม?
เธอก้มมองใบหน้าอมชมพูของโดว์โดว์ในอ้อมแขนอย่างจนใจ
เมื่อมาถึงที่ปราสาทเก่า โดว์โดว์เห็นจี้หยู๋ชิงก็ตาเป็นประกายขึ้นทันที ไม่รอให้หลวนจื่อปล่อยมือ ก็กระโดดลงด้วยตัวเองแล้วพุ่งเข้าไปทันที
หลวนจื่อเห็นดังนั้น ก็ส่ายศีรษะอย่างหมั่นไส้
แล้วบ่นกับเวินเที๋ยนเที๋ยน “เธอดูลูกชายเธอสิ ชิงตัวลูกสาวฉันไปแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จนใจ ตัวเองก็หมดหนทาง
เธอมองไปด้านหลังของหลวนจื่อแล้วไม่เห็นใคร จึงเอ่ย “หมินอันเกอไม่ได้มากับเธอเหรอ?”
หลวนจื่อชะงักไป แล้วส่ายหน้า
“เขาไปบริษัท”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สังเกตเห็น จึงเอ่ยยิ้มๆ “ก่อนหน้าฉันวางแผนว่าจะให้พวกเธอพาโดว์โดว์ไปเที่ยวด้วยกัน”
“ฉันอาจไม่มีเวลา”
หลวนจื่อส่ายศีรษะ ตอนก้มหน้าลง แววตาฉายแววหงอยเหงาเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกงงงวยในใจเล็กน้อย
เธอจำได้ว่า ตอนนี้หมินอันเกอน่าจะยังไม่ภาพยนตร์ที่ต้องถ่ายทำ?
“ตอนนี้เธอกับหมินอันเกอเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่มีอะไร ก็ดีนะ”
หลวนจื่อชะงักไป
ความจริงหลังจากกลับประเทศมาแล้ว หลวนจื่อได้พูดคุยกับหมินอันเกอน้อยมาก
ต่อให้ร่วมชายคาเดียวกัน ก็ไม่รู้จะอยู่ร่วมกันอย่างไร
มีบางครั้งที่เธอมองแหวนบนนิ้วของตัวเอง แล้วสงสัยว่าก่อนหน้านี้ตัวเองใจร้อนเกินไปหรือเปล่า?
บางเรื่องก็ไม่สามารถเดินไปถึงจุดสุดท้ายด้วยการทุ่มเทเพียงฝ่ายเดียว
ก่อนหน้านี้หมินอันเกอสัญญาแล้ว ว่าจะพยายามทำความคุ้นเคยแล้วก็รักเธอ
แต่พยายามกับทำได้ มันคนละเรื่องกัน
เป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว เขาก็พยายามแล้ว แต่ผลก็ยังไม่เป็นที่พอใจ
เธอนึกถึงคำพูดพวกนั้นของปรมาจารย์หูหลินที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ลังเลอยู่นาน แล้วก็เอ่ยถามออกไป “เที๋ยนเที๋ยน ฉันมีคำถามหนึ่งอยากถามเธอ”
“ถ้าหากตอนนี้มีโอกาสอยู่ตรงหน้าเธอ ถ้าคว้าโอกาสนี้ไว้ก็จะสามารถทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จได้ เธอจะไปไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธออย่างประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมหลวนจื่อถึงถามคำถามนี้
เห็นหลวนจื่อสู้รบกับความคิดตัวเองอยู่นาน เธอจึงคิดอย่างรอบคอบแล้วเอ่ย “ฉันไม่ไป”
หลวนจื่อชะงักไป
“ทิ้งความฝันของตัวเองได้เหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ไม่ได้บอกว่าพวกเราไม่ไป ก็ต้องทิ้งความฝัน เพราะจี้หยู๋ชิงยังเด็กมาก และฉันก็ปล่อยจี้จิ่งเชินไปไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้ฉันเลยไม่ไปไหน แต่ในอนาคตฉันก็สามารถไล่ตามความฝันได้เหมือนกัน”
หลวนจื่อได้ยินดังนั้น กลับหัวเราะอย่างขมขื่น
“ฉันเข้าใจแล้ว”
แม้ว่าคำถามเดียวกัน แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนมีจี้จิ่งเชิน มีจี้หยู๋ชิง ที่สำคัญคือความรักที่พวกเขามีต่อกัน
แต่ตัวเองนั้น…….
หลวนจื่อส่ายหน้า เธอพวกนี้ไม่มีเลย
“หลวนจื่อ เธอเป็นอะไรไป?” เวินเที๋ยนเที๋ยนถามอย่างเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร” หลวนจื่อฝืนยิ้มออกมา “ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้น ใช่สิ ให้ฉันดูการเตรียมตัวช่วงหลายวันมานี้ของเธอหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธออย่างเป็นห่วง แต่ในเมื่อหลวนจื่อไม่ยอมพูดออกมา เธอจะถามต่อก็คงไม่เหมาะ
“ไม่มีปัญหา ตามฉันมาสิ”
อีกด้านหนึ่ง
โดว์โดว์วิ่งไปถึงข้างๆ จี้หยู๋ชิงอย่างรวดเร็ว
“ชิงชิง! ชิงชิง!”
แม้ว่าเธอจะโตกว่าจี้หยูชิงอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังเดินได้ไม่มั่นคง โซเซไปมาจนเกือบจะล้มลงบนตัวเขาแล้ว
จี้จิ่งเชินพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าสุขุมและเคร่งขรึม
“อืม”
เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของโดว์โดว์ ด้วยท่าทางที่ดูมากประสบการณ์
“น้องสาว……”
ได้ยินคำเรียกนี้ โดว์โดว์ก็ชะงักไป
“ไม่ใช่น้องสาว นี่โดว์โดว์”
“น้องสาว” จี้หยู๋ชิงกลับยึดหมั่น
โดว์โดว์ยู่ปาก
“ไม่ใช่ ไม่ใช่……”
จี้หยู่ชิงไม่ได้สนใจอะไรมาก จับโดว์โดว์ไว้แล้วพูดอ้อแอ้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ไม่ง่ายกว่าจะเล่าจนจบแล้ว จี้หยู๋ชิงก็ยื่นศีรษะออกมาเล็กน้อย
หวังว่าโดว์โดว์จะทำเหมือนกับในละครเมื่อวาน ลูบหลังเขา แล้วร้องเพลงปลอบเขา
แต่โดว์โดว์กลับเอาแต่เบิกตากว้าง มองเขาอย่างงงงวย
จี้หยู๋ชิงยืนศีรษะของตัวเองไปข้างหน้าโดว์โดว์
แต่โดว์โดว์ไม่เข้าใจเลยตั้งแต่แรก เหลือบไปเห็นของที่อยู่ข้างๆ อย่างรวดเร็ว ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วพูดอย่างดีใจ “ชิงชิง เล่นพ่อแม่ลูกกัน!”
เธอพูดด้วยสีหน้าดีใจ เต็มไปด้วยความคาดหวัง
จี้หยู๋ชิงเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมา
อย่างที่คิด โดว์โดว์คนเซ่อซ่านี่จะให้ความร่วมมือได้อย่างไร?
มองนัยน์ตาเป็นประกายของโดว์โดว์ที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ ได้แต่รับมาแล้วเตรียมตัว
ดูเหมือนว่าเพราะวันนี้จี้หยู๋ชิงออกตัวเรียกโดว์โดว์มาเอง โดว์โดว์จึงดูคึกคักและให้ความสนใจ
จนกระทั่งถึงตอนเย็นแล้ว ในที่สุดก็ต้องเตรียมตัวกลับอย่างตัดใจไม่ได้
เมื่อหลวนจื่อพาโดว์โดว์เดินออกมา กลับเห็นหมินอันเกอยืนอยู่ด้านนอก
เขายืนอยู่ข้างรถ ไม่รู้ว่ารออยู่นานแค่ไหนแล้ว
ทันทีที่หลวนจื่อเห็นเขาก็ชะงักไป แต่โดว์โดว์ที่อยู่ในอ้อมแขนกลับตาเป็นประกายขึ้นมาทันที รีบยื่นมือออกไป
“คุณพ่อ!”
หมินอันเกอยกเท้าเดินเข้ามา เพราะรออยู่นานแล้ว ขาทั้งสองข้างก็รู้สึกชาเล็กน้อย
“พวกคุณมาที่นี่ทำไมไม่บอกผม?”
วันนี้หมินอันเกอออกไปข้างนอกรอบหนึ่ง เมื่อกลับมา กลับไม่เจอหลวนจื่อกับโดว์โดว์แล้ว หาอยู่นานกว่าจะเจอร่องรอยของพวกเธอ
เดิมเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งสองคน แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้คำพูดนั้นเข้าหูของหลวนจื่อ กลับเปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง
“หรือว่าจะไปที่ไหน ต้องบอกคุณหมดเลยไหม?”
ทันใดนั้นก็เสียงดังขึ้น ทำให้หมินอันเกอขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“แล้วคุณหมายความว่าอย่างไร?” หลวนจื่อแย้ง
หมินอันเกอมองเธอ หัวคิ้วขมวดแน่น
“หลวนจื่อ คุณอย่าไร้เหตุผล ผมกำลังเป็นห่วงคุณ! เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้……”
หลวนจื่อเจ็บปวดใจขึ้นมาทันที
“แล้วเมื่อก่อนฉันเป็นอย่างไร?”
“คุณ…….”
ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน โดว์โดว์ที่ตกใจอยู่ข้างๆ
เธอมองทั้งสองคนอย่างตื่นตระหนก ไม่นานดวงตาก็เอ่อคลอด้วยน้ำตา
“คุณพ่อคุณแม่ อย่าทะเลาะกัน”