เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1032 เทคนิคที่แอบเรียนมา
ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเรื่องราวครั้งที่แล้วขึ้น อาจารย์ฟ่านก็ออกไปจากวงการซ่อมแซมวัตถุโบราณ ตอนนี้ในประเทศก็หายไปไม่เห็นเงาเลยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเธอเลย และยังคิดว่าคนๆนี้จะถอนตัวออกไปแล้วหรือเปล่า แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเธออีกครั้งในการแข่งขันครั้งนี้
อีกทั้ง การแข่งขันรอบนี้จะต้องอยู่รอบเดียวกับเธออีกด้วย
อาจารย์ฉู่มองดูข้อมูลที่อยู่ในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน แน่นอนว่าเขารู้จักอาจารย์ฟ่านอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วย
เขาถอนหายใจออกมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเข้าสู่การแข่งขันรอบตัดสินด้วย เธอคงจะรู้จักเธอใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
อาจารย์ฉู่เอ่ยขึ้น : “เทคนิคการซ่อมแซมของคนๆนี้เก่งมาก ถึงแม้ว่าจะออกไปจากพระราชวังตั้งนานแล้ว แต่เมื่อก่อนก็เป็นนักบูรพาโบราณวัตถุอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน ความแค้นระหว่างพวกเธอสองคน จะต้องยิ่งเพิ่มความระวังเอาไว้ให้มากๆนะ”
“ฉันทราบค่ะ”
เห็นว่าพิธีกรได้ประกาศผู้ชนะแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้อยู่ต่ออีก จึงลุกขึ้นยืนแล้วเตรียมจะเดินออกไป
และเพิ่งจะได้ไปได้เพียงสองก้าวนั้น กลับชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนว่าแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นคนที่พวกเขากำลังพูดถึงเมื่อครู่นี้นั่นเอง
“อาจารย์ฟ่าน?”
เธอมองคนที่อยู่บนขั้นบันไดนั้นด้วยความประหลาดใจ
คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ฟ่านจะมาดูการแข่งขันครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน
พออาจารย์ฟ่านเห็นว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว อาการสีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนไปในทันที
“พรุ่งนี้คนที่แข่งกับฉันก็คือเธอสินะ ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ เวินเที๋ยนเที๋ยน”
เธอกัดฟันพลางเอ่ยขึ้นมา เมื่อนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้แล้ว ก็กัดฟันด้วยความแค้น
ต่อให้เป็นเพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนคนนี้ หลังจากที่หลีเจียเวยแพ้ในครั้งนั้น แม้แต่ตำแหน่งในวงการซ่อมแซมบูรพาวัตถุโบราณนี้ของเธอก็ยังต้องยอมถอยไปด้วยเช่นกัน
สุดท้ายแล้วก็จนตรอก ทำได้เพียงต้องออกนอกประเทศเพียงเท่านั้น
ครั้งนี้ได้ยินว่ามีการจัดแข่งขันภายในประเทศ เธอก็รีบมา
ถึงแม้ว่าจะใช้ในนามผู้เข้าแข่งขันของประเทศอื่นๆก็ไม่เป็นไร เพียงแค่สามารถชนะได้ เธอก็จะสามารถลบล้างความอับอายนั้น แล้วกลับมาสู่จุดสูงสุดในอาชีพของเธอได้อีกครั้ง!
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย มองพิจารณาเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า แสร้งทำเป็นยิ้มออกมา
“เป็นอย่างไรบ้าง? คิดว่าจะมาเจอฉันในสถานการณ์แบบนี้ใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูคนที่อยู่ทางด้านหลังของอาจารย์ฟ่านอีกสองสามคน ทั้งหมดล้วนแต่เป็นสมาชิกของทีมอื่น
ครั้งนี้ ทีมของประเทศพวกเขา มีเพียงแค่อาจารย์ฟ่านคนเดียวเท่านั้นที่เข้ารอบการแข่งขันรอบสุดท้ายได้สำเร็จ ดูเหมือนกับทุกคนจะฝากความหวังนี้เอาไว้ที่เธอ
“ฉันเพียงแค่คิดไม่ถึง ว่าคุณจะมาอยู่ในทีมต่างประเทศแบบนี้ค่ะ”
อาจารย์ฟ่านหัวเราะเยาะออกมา
“ฉันเดินมาถึงก้าวนี้ได้ ไม่ใช่ว่าต้องขอบคุณเธอหรอกหรือ? ถ้าหากไม่ใช่เธอ ฉันจะไปต่างประเทศได้อย่างไร? แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพียงแค่รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ ทุกคนก็จะได้เห็นการแข่งขันของเรา เห็นฉันที่เป็นคนทำให้เธอแพ้อย่างยับเยิน แล้วฉันก็จะสามารถกลับมาได้อีกครั้ง”
อาจารย์ฉู่ที่ยืนอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นแล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้นมา
“คุณอย่ามาก่อกวนเลย การแข่งขันครั้งนี้เป็นชื่อเสียงและเกียรติยศของประเทศ จะมาทำอะไรวู่วามไม่ได้!”
อาจารย์ฟ่านหัวเราะเยาะขึ้นมา แววตาเย่อหยิ่งและเหยียดหยาม
“นี่มันก็เป็นเรื่องของพวกคุณ ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน? ฉันเพียงแต่ต้องการที่จะสนใจตัวเองให้ดีก็เท่านั้น การแข่งขันครั้งนี้ประเทศไหนจะเป็นฝ่ายชนะฉันไม่ได้แคร์ ฉันเพียงแค่สนใจประโยชน์ที่ฉันจะได้รับเท่านั้น”
ว่าแล้ว ก็เอ่ยพูดกับคนที่อยู่ทางด้านหลัง แล้วถึงได้หันหลังเดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น
อาจารย์ฟ่านมีทุนนี้อยู่จริงๆ จึงสามารถพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้
การแข่งขันครั้งใหญ่นี้ ในการแข่งขันทุกๆรอบของเธอ ได้รับชัยชนะมาอย่างได้เปรียบ ไม่เพียงแค่สามารถทำเสร็จได้ก่อนเวลาเพียงเท่านั้น อีกทั้งยังทางด้านเทคนิคก็ยังทิ้งห่างจากอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
จากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเข้าใจอาจารย์ฟ่านก่อนหน้านี้ เมื่อเธอไปต่างประเทศ ระดับการซ่อมแซมวัตถุโบราณของเธอนั้นก็มีการพัฒนาไปมากอย่างชัดเจนเช่นกัน
ประกอบกับการประกาศสงครามเมื่อครู่นี้ของเธอ คิดได้ว่า วันพรุ่งนี้จะต้องเป็นศึกหนักเสียแล้ว
วันรุ่งขึ้น สนามแข่งขัน
วันนี้มีผู้ชมจำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน
คนส่วนใหญ่ล้วนแต่จำได้ว่าก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลายเป็นนักบูรพาวัตถุโบราณมาได้ไม่นาน เคยปรากฏตัวในรายการหนึ่งแทนท่านเปิง เป็นคณะกรรมการในรายการหนึ่ง
ในตอนนั้น อาจารย์ฟ่านเองก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วยเช่นกัน และยังเกิดความขัดแย้งเล็กๆกันระหว่างทั้งสองคนอีกด้วย
แม้กระทั่งเนื่องจากหลีเจียเวยก็วางกับดักเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วแม้แต่อาจารย์ฟ่านเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่ตอนนั้น เธอก็เหมือนกับหายสาบสูญไป
ใครก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าเวลานี้ เธอจะมาปรากฏตัวอยู่ในฐานะของผู้เข้าแข่งขันของประเทศอื่นแบบนี้
เวลาหลายปีผ่านไป ทั้งสองคนก็มายืนประจันหน้ากันอีกครั้ง
ส่วนครั้งนี้ ใครจะชนะ?
ไม่เพียงแค่จะเป็นชื่อเสียงเกียรติยศให้กับประเทศเพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคนด้วยเช่นกัน
แต่ครั้งนี้ ในใจของทุกคนนั้นรู้สึกกังวลอยู่บ้าง
ถึงอย่างไร ตำแหน่งของอาจารย์ฟ่านตอนที่อยู่ในประเทศนั้น เท่าเทียมพอๆกับอาจารย์ฉู่และท่านเปิงของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง
ถึงแม้ว่าจะมีคุณธรรมที่ไม่ดี ต่อมาก็ไปต่างประเทศ แต่การแข่งขันครั้งนี้ก็สามารถเห็นได้ว่า ระดับการซ่อมแซมของอาจารย์ฟ่านนั้นไม่ได้ถดถอยลงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับยังพัฒนาขึ้นมาไม่น้อยเลยอีกด้วย
สถานการณ์เช่นนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะชนะก็คงจะลำบากเป็นอย่างมาก
ถ้าหากการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้คนที่เดิมทีเป็นของประเทศตัวเอง แต่กลับทำให้ผู้เข้าแข่งขันของประเทศอื่นได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันได้ คงจะสร้างความอัปยศยิ่งนัก!
ถึงแม้จะไม่ใช่การแข่งขันที่ชิงแชมป์ แต่กลับได้รับความนิยมสูงมาก
แม้แต่คนที่ไม่เคยดูการแข่งขันมาก่อน ตอนนี้ก็ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
จี้จิ่งเชินได้ตรวจสอบอาจารย์ฟ่านคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว คิ้วขมวดขึ้นมาเล็กน้อย ปรากฏให้เห็นรอยย่นออกมา
“เที๋ยนเที๋ยน หลังจากที่คุณกลับมาแล้ว วิธีการซ่อมแซมของอาจารย์ฟ่านมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง
“ตอนที่แข่งขันสองสามรอบก่อนก็สังเกตเห็นแล้วค่ะ สิ่งที่อาจารย์ฟ่านซ่อมเมื่อก่อน ฉันเคยเห็นแล้วก็เข้าใจมันดีด้วยค่ะ ว่าจะเหมือนกับอาจารย์ฉู่ ล้วนแต่เรียนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองไปยังอาจารย์ฟ่านที่เดินขึ้นไปบนเวที แววตาปรากฏความสงสัยออกมา
“แต่การแข่งขันก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้ใช่วิธีที่ตัวเองเรียนมา”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินลดต่ำลง
“หนึ่งปีก่อน อาจารย์ฉู่ก็ไปต่างประเทศ เข้าร่วมสมาคมการบูรพาวัตถุโบราณของประเทศA แล้วเรียนรู้เทคนิคการซ่อมแซมที่มีลักษณะพิเศษของประเทศAมา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วกลับรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
“ประเทศAมีเทคนิคการซ่อมแซมที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ด้วยหรือคะ?”
เรื่องนี้ในวงการบูรพาวัตถุโบราณนั้นไม่ได้มีอะไรที่เป็นความลับแล้ว ประวัติศาสตร์ของประเทศAนั้นสั้นมาก เวลาในการซ่อมแซมวัตถุโบราณก็สั้นมากด้วยเช่นกัน เพียงแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้น
สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจึงทำได้เพียง “ยอมรับ” กับเทคนิคการบูรพาวัตถุโบราณของประเทศอื่นๆ
ใช้เงินจำนวนมากในการเชิญนักบูรพาไปเพื่อแอบศึกษาเทคนิคของพวกเขา
เทคนิคการซ่อมแซมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศจำนวนไม่น้อย ล้วนแต่ถูกพวกเขาแอบเรียนรู้ไปจนหมด
เนื่องจากเทคนิคการบูรพาวัตถุโบราณไม่เหมือนกับลิขสิทธิ์ ดังนั้นหลังจากที่เทคนิคของอาจารย์หลายๆท่านได้ถูกขโมยไปแล้วนั้น ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ต้องเก็บความฝืนทนนี้เอาไว้เท่านั้น
แต่แทบจะทุกคน ที่ได้เอาประเทศAจัดวางอยู่ในแถวที่ห้ามไปมาหาสู่ด้วยเป็นอันขาด
แม้แต่ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ 80%ล้วนแต่เป็นบุคคลมีความสามารถที่พวกเขาขุดมาจากประเทศอื่นๆอีกด้วย และอาจารย์ฟ่านเองก็เป็นหนึ่งในนั้น