เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1060 สร้างอนาคตอันรุ่งโรจน์
เห็นหลายคนสีหน้าไม่พอใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน
ชี้ไปที่บรเวณหรึ่งด้านบน เอ่ย “พวกคุณน่าจะหมายถึงตรงนี้ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว นี่คุณจะอธิบายว่าอย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ตรงนี้ฉันบูรณะแล้วจริงๆ แต่ว่าได้ใช้เทคนิคเล็กน้อย ที่ฉันพึ่งค้นพบก่อนหน้านี้”
หลายคนปรากฏสายตางงงวย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยต่อ “ถ้ามองอย่างละเอียดก็จะเห็น เพียงแต่ว่าต้องมาจากด้านในถึงจะเห็น”
หลายคนได้ยินดังนั้น ก็คว่ำกาลง แล้วโน้มเข้าไปดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”
“ได้รับการบูรณะอย่างระมัดระวังจริงๆ และยังมองไม่เห็นจากภายนอก!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เอ่ย “นี่เป็นข้อดีของเทคนิคการบูรณะแบบนี้ แต่ว่าก็มีข้อจำกัดหนึ่งเช่นกัน คือรอยแตกร้าวต้องตรงตามเงื่อนไข ขนาดของรอยร้าวต้องเติมเต็มซึ่งกันและกัน”
เหล่ากรรมการได้ยินดังนั้น ก็เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
“คุณหมายความว่า เพราะกาใบนี้ถูกทำตกโดยไม่ทันระวังก่อนหน้านี้เลยเข้าข่ายเงื่อนไขพอดี?”
“ใช่แล้ว”
ตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ตกใจเล็กน้อย
ตอนนั้นเธอกำลังประหม่ากังวลใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นก็นึกถึงเทคนิคการบูรณะที่เคยปรึกษากับอาจารย์ฉู่ก่อนหน้านี้ขึ้นมา
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วก็คิดไม่ถึงว่าสอดคล้องกับเงื่อนไขพอดี!
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
เหล่ากรรมการมองกาในมือ “เป็นความโชคดีในความโชคร้าย!”
“คิดไม่ถึงว่าปรากฏรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ขึ้น กลับช่วยเธอได้เป็นอย่างมาก!”
“เทคนิคการบูรณะแบบนี้ ฉันพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่บอกฉัน ฉันก็มองไม่ออกเลย”
“ฉันก็ด้วย…….”
พวกเขามองของในมืออย่างแปลกใจ เมื่อเริ่มศึกษาเทคนิคการบูรณะแบบใหม่นี้ ก็ลืมไปหมดแล้วว่าตอนนี้พวกเขายังอยู่ในการแข่งขัน
จนพิธีกรกระแอมขึ้นมา ในที่สุดพวกเขาก็ได้สติกลับมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอีกครั้ง
เมื่อทุกคนที่นี่เห็นภาพตรงหน้านี้ ล้วนเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
ได้ยินที่ปรมาจารย์เหล่านั้นพูด หรือว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมีโอกาสชนะจริงๆ?
พิธีกรเอ่ยถาม “ขออนุญาตสอบถามเหล่ากรรมการ สามารถประกาศผลการแข่งขันได้หรือยัง?”
เหล่ากรรมการพยักหน้า เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปรอบๆ สนามแข่ง
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนนี้คนที่อยู่ที่สนามแข่งเหลือเพียงแค่หนึ่งส่วนสาม นั่งกันอยู่กระจัดกระจาย
เขาเพิ่มเสียงดังขึ้นเล็กน้อย เอ่ยอย่างแน่วแน่ “ทุกท่าน วันนี้เป็นวันพิเศษ ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ ล้วนเป็นสักขีพยานการกำเนิดแชมป์ของการแข่งขันครั้งนี้ด้วยตัวเอง! และพวกคุณจะไม่รู้สึกเสียเปล่าอย่างแน่นอน!”
“ในการแข่งขันครั้งที่สาม แม้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นกลางทาง จนกระทั่งคุกคามกำดำเนินการแข่งขันตามปกติ แต่เพราะผู้เข้าแข่งขันตัดสินใจมุ่งมั่น การแข่งขันจึงไม่ได้หยุดลง”
“พูดกันว่า สถานการณ์เสี่ยงสามารถกระตุ้นศักยภาพของคนคนหนึ่งได้ แต่ผมเชื่อว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีไม่ใช่แค่คำว่าศักยภาพ! พวกเราสามารถเห็นว่าเมื่อถึงคราวเข้าตาจนก็ยังมีจุดเปลี่ยนที่น่าแปลกใจ เห็นว่าความพยายามคือชัยชนะ!”
“เพราะเธอพยายามมาตลอด วันนี้ถึงได้เปล่งประกายได้ด้วยตัวของเธอเอง!”
เสียงของกรรมการดังขึ้น โบกมือไปมาอย่างตื่นเต้น ใบหน้าแดงเรื่อเล็กน้อย
“เพื่อนๆ ผู้ชมทุกท่าน การแข่งขันครั้งนี้เกินความคาดหมายของทุกคน เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เสียเปรียบอย่างแน่นอนกลับกลายเป็นได้เปรียบ และชนะการแข่งขันครั้งนี้!”
“รอบที่สามของการแข่งขัน เธอเอาชนะปรมาจารย์จอห์นด้วยสองต่อหนึ่ง! เป็นแชมป์การแข่งขันบูรณะวัตถุโบราณครั้งใหญ่คนแรกของประเทศ”
“ผมเชื่อว่า บันทึกนี้จะถูกเธอเก็บรักษาไว้ ไม่มีใครประสบความสำเร็จแบบนี้ด้วยอายุน้อยขนาดนี้ ไม่มีใครมีพรสวรรค์และพยายามแบบเธอแล้ว!
“วันนี้ จะเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนตลอดไปในหัวใจของทุกคน!”
ตอนทุกคนได้ยินความเห็นของเหล่ากรรมการเมื่อสักครู่ ก็สามารถเดาบางอย่างได้อย่างคลุมเครือแล้ว
ได้ยินดังนั้น ตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
พวกเขาลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น ตะโกนชื่อของเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาพร้อมกัน
“เวินเที๋ยนเที๋ยน! เวินเที๋ยนเที๋ยน! เวินเที๋ยนเที๋ยน!”
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้กลับไป โชคดีที่พวกเขารอต่อ เพราะในใจพวกเขาเชื่อว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังอย่างแน่นอน!
แค่มุ่งมั่นต่อไป จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
คนพวกนั้นที่ออกจากสนามแข่งไปกลางทางจะต้องเสียใจภายหลังมากอย่างแน่นอน
การแข่งขันที่โต้ตอบกันอย่างดุเดือด ต่อให้สิบปีให้หลัง ยี่สิบปีให้หลัง พวกเขาพูดขึ้นมาก็จะยังรู้สึกตื่นเต้น
พวกเขาสามารถบอกกับคนอื่นได้อย่างภูมิใจว่าตอนเวินเที๋ยนเที๋ยนชนะการแข่งขัน ฉันอยู่ที่นั่น! ฉันได้เห็นความสำเร็จของเธอ!
ทุกคนต่างลุกยืนขึ้น เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
ตอนปรมาจารย์จอห์นรู้ผลการตัดสินนี้กลับไม่ได้แปลกใจ
ตอนแข่งขันรอบที่สอง เขาก็เดาได้ถึงบางอย่างแล้ว”
เป็นขอบเขตที่ตนเองชำนาญที่สุดแท้ๆ ยังแพ้ให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เมื่อมองแบบนี้ ที่รอบแรกเขาสามารถเอาชนะได้เพราะโชคดีก็เท่านั้น
“ปรมาจารย์จอห์น” เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย
จอห์นเงยหน้าขึ้น ตั้งแต่เมื่อสักครู่เขาเอาแต่ศึกษาเทคนิคการบูรณะของเวินเที๋ยนเที๋ยน ยิ่งดูมากเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกมหัศจรรย์มากยิ่งขึ้น
นี่เป็นระดับที่เขาคาดไม่ถึงและเข้าไม่ถึงจริงๆ
“ดีมาก” เขาพยักหน้าอย่างพอใจ น้ำเสียงเจือความเศร้าเล็กน้อย
“เดิมฉันยังเป็นห่วงว่าสังคมตอนนี้ ความใจร้อนของคนจะทำให้เทคนิคการบูรณะหายไป มีคนแบบเธออยู่ฉันก็วางใจแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างถ่อมตัว “ดูจากระดับฝีมือการบูรณะแล้ว คุณยังอยู่เหนือฉัน”
จอห์นส่ายหน้ายิ้มๆ
“ไม่นาน คุณจะไปถึงยอดเขาใหม่ ยอดเขาที่ไม่มีใครไปถึง”
ตาเขาเป็นประกายเล็กน้อย ราวกับว่ามองเห็นภาพในอนาคต
“ตอนนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยน โลกที่เป็นของเธอจะมาถึง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ย “ไม่ ควรจะเป็นโลกใหม่ของการบูรณะวัตถุโบราณ”
ปรมาจารย์จอห์นชะงักไป แล้วยิ้มออกมา
“ใช่แล้ว ความจริงก็คือแบบนี้”
เขายกมือขึ้นตบไหล่เวินเที๋ยนเที๋ยน เอ่ยให้กำลังใจ “สู้ๆ อนาคตเธอจะสดใส”
พูดจบก็โน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา “เพียงแต่ว่าสามีเธอจะขี้หึงเกินไปหน่อยแล้ว ฉันเป็นชายแก่ที่ร่างกายลงดินไปครึ่งหนึ่งขนาดนี้แล้ว ยังเอาแต่จ้องฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองอย่างประหลาดใจ ด้านหลังไปไม่ไกลจี้จิ่งเชินกำลังมองมาทางพวกเขาอย่างที่คาดไว้จริงๆ
เธอยิ้มแล้วเอ่ย “ขออภัย”
“ฉันเข้าใจ”
ปรมาจารย์จอห์นมองกาบนโต๊ะใบนั้นที่เวินเที๋ยนเที๋ยนบูรณะ แล้วครุ่นคิดเอ่ย “ดูท่า เส้นทางการเรียนรู้ของฉันต้องเริ่มขึ้นแล้ว”
พูดจบก็หมุนตัวจะเดินจากไป
เธอพึ่งเดินจากไปได้ไม่กี่วินาที บนเอวก็มีมือข้างหนึ่งมารวบเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
“อย่าวิ่งไปทั่ว”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู