เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1093 เขาลืมตัวเองไปแล้วใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสถานการณ์แล้ว ในใจก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
เข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆกำลังยุ่งกันอยู่
“รีบเตรียมตัวกันนะ วันนี้เปิดพิพิธภัณฑ์เร็วขึ้น ข้างนอกมีคนรออยู่เยอะมากเลย”
“หลังจากที่รายการออกฉายไปเมื่อวาน ฉันยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ผลดีขนาดนี้ พวกเธอเห็นแล้วใช่ไหม? วันนี้เช้าที่มาด้วยกัน ตอนที่ฉันเห็น ยังคิดว่ามองผิดเลย”
“เห็นว่าตอนนี้คนมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์เยอะขนาดนี้ ฉันถึงได้เชื่อไง”
“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกนะที่ฉันเห็นคนเยอะขนาดนี้ แม้แต่ตอนที่เริ่มนิทรรศการครั้งที่แล้ว คนก็ยังไม่ต่อแถวกันอยู่ข้างนอกมากขนาดนี้เลย”
“ตอนนี้เพิ่งแค่ตอนแรก ฉันแทบจะรอไม่ไหวที่จะทำตอนที่สองแล้วสิ ถึงตอนนั้นคนที่มาเข้าชมจะต้องมากขึ้นอย่างแน่นอน”
ขณะที่สองสามคนกำลังพูดกันอยู่นั้น เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาแล้ว ก็เดินเข้าไปด้วยความดีใจ
“คุณเวิน! เห็นคนด้านนอกแล้วหรือยังคะ? มาเข้าชมทั้งหมดเลย! รายการนั้นประสบความสำเร็จมากเลยนะคะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“เห็นแล้วค่ะ อย่าให้คนที่อยู่ข้างนอกรอนานนะคะ เตรียมตัวเสร็จแล้วก็เปิดพิพิธภัณฑ์เลย พื้นที่แสดงนิทรรศการของวัตถุโบราณตอนที่ฉายไป จะต้องระวังกันหน่อยนะคะ คนอาจจะเยอะ”
สองสามคนนั้นพยักหน้าลง แล้วเริ่มตรวจสอบงานกันด้วยความตื่นเต้น
หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วนั้น พอประตูใหญ่ของพิพิธภัณฑ์เปิดแล้ว ทุกคนก็กรูกันเข้ามาทันที
สามารถเห็นได้ชัดว่า คนที่เข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ ส่วนมากแล้วจะเป็นพวกวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่
พวกเขาคงจะได้รับผลกระทบมาจากรายการนั้น จึงเข้ามาดูกันเป็นพิเศษ
จากเหตุการณ์เช่นนี้ รอจนถึงตอนช่วงสุดสัปดาห์ คนจะต้องยิ่งมากขึ้นอีกหรือเปล่า?
ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ต ทุกคนก็ล้วนแต่จะเร่งรัดให้เกิดตอนที่สองขึ้นแล้ว
ตอนนี้บทได้เขียนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องจัดการแสดงต่อแล้ว
ช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่วัน คนที่มีจำนวนมากขึ้นถูกรายการนี้ดึงดูด ทำให้รักประวัติศาสตร์ รักวัตถุโบราณขึ้นมา
ตอนนี้รายการฉายออกไปเป็นครั้งที่สอง ถึงแม้ช่วงเวลาที่ออกอากาศในโทรทัศน์จะเป็นช่วงบ่าย เป็นเวลาที่ทุกคนกำลังทำงาน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าชมเลยแม้แต่นิดเดียว และกลับทะลุสูงสุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย!
สถานีโทรทัศน์รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากตอนที่เห็นตัวเลขนี้ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า รายการที่ม้ามืดแบบนี้ จะนำผลกระทบมาได้มากขนาดนี้
วันนั้น ทุกคนรีบประชุมกัน ปรับเปลี่ยนเวลาในการออกอากาศของรายการเป็นช่วงเวลายอดนิยมในช่วงกลางคืน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและเริ่มโฆษณาอีกด้วย
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ คนจำนวนมากขึ้นที่เห็นรายการนี้แล้ว ก็รู้สึกรักมัน อัตราการเข้ารับชมในทุกๆวันรีเฟลชแล้วยิ่งทำให้น่าตกตะลึงยิ่งนัก
ไม่เพียงแค่ในหน้าจอโทรทัศน์เพียงเท่านั้นที่รักษาอัตราการเข้าชมที่สูงอยู่เช่นนี้ จำนวนการฉายบนอินเตอร์เน็ตก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นสิบล้านในทุกๆวัน
ไม่กี่วันในเวลาสั้นๆ ก็ทะลุไปถึงร้อยล้านแล้ว!
รายการในทุกช่วงนั้นจะมีการแนะนำเรื่องราวใหม่ๆ วัตถุโบราณใหม่ การเรียนรู้จากประสบการณ์ในแต่ละครั้งล้วนแต่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตกตะลึง
ตามที่รายการออกอากาศไปแล้ว คนที่มาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ทุกๆวันนั้นจำนวนคนการต้อนรับแขกที่มานั้นทำลายสถิติเดิมในบันทึกของประวัติศาสตร์พิพิธภัณฑ์
ทุกวัน ประเด็นรายการ 《วัตถุโบราณแห่งชาติ》ล้วนแต่เป็นที่กำลังจุดชนวน แทบจะทุกคนที่กำลังให้ความสนใจอยู่
แต่เดินออกไป ก็จะได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นๆ
เกี่ยวกับคนทำเบื้องหลังของรายการนี้ ภาพลักษณ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็กลับมามีการเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้งในใจของทุกคนด้วยเช่นกัน
ตอนแรกเริ่มที่สุด ทุกคนรู้เพียงแค่ว่าเธอเป็นลูกสาวของตระกูลหล่อน เป็นภรรยาที่รักที่สุดของจี้จิ่งเชิน
และจากการแข่งขันก่อนหน้านี้ในครั้งนั้น ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นนักบูรพาวัตถุโบราณที่โดดเด่นมากคนหนึ่ง และเป็นแชมป์โลกรุ่นแรก
จากนั้น ก็มาพบว่าเธอเป็นภัณฑารักษ์หญิงที่อายุน้อยที่สุดคนแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ตอนนี้เป็นเพราะรายการนี้ ความประทับใจที่ทุกคนมีต่อเธอนั้นก็กลายมาเป็นโปรดิวเซอร์ที่ยอดเยี่ยมมากอีกคนหนึ่งอีกด้วย!
เวินเที๋ยนเที๋ยนมีชื่อเสียงลือเลื่องขึ้นมาในทันที แม้กระทั่งในแต่ละวันบางครั้งในคนที่มาพิพิธภัณฑ์ มีคนกลุ่มใหญ่ที่พุ่งมาทางเวินเที๋ยนเที๋ยน และกลุ่มแฟนคลับก็ยิ่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าหลังจากพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมตัวกลับบ้าน เมื่อออกมากจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติก็จะเห็นคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังรออยู่ทางด้านนอก และคนที่ไม่พอใจมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นจี้จิ่งเชินกับจี้หยู๋ชิง
หลายๆครั้งตอนที่พวกเขามารับเธอ ก็จะเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกปิดล้อมอยู่ท่ามกลางผู้คน ระดับความกระตือรือร้นของแฟนคลับเหล่านั้นไม่น้อยไปกว่าแฟนคลับที่หลงใหลพวกดาราดังๆเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ
ภายใต้การช่วยเหลือของรายการครั้งนี้ บริษัทของหมินอันเกอเองก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน ทำให้กิจการของเขาก็ไปถึงจุดสูงสุดจริงๆเสียที
อีกทั้งตอนที่ทำรายการครั้งนี้ เขายังถือโอกาสนำคนของบริษัทจำนวนไม่น้อย ค่อยๆเริ่มพัฒนาบริษัทขึ้นมาอีกด้วย
นิทรรศการกับเวลาของรายการในช่วงเวลาสองเดือน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติหรือบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ก็ล้วนแต่บรรลุถึงผลประโยชน์ที่สูงสุดด้วยกันทั้งนั้น
คนที่มาเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแค่วัยรุ่นเท่านั้น แม้แต่เด็กๆหลังจากที่ได้ดูรายการแล้ว ก็เกิดความสนใจขึ้นมากด้วยเช่นกัน
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนสำรวจโดยรอบพิพิธภัณฑ์อยู่นั้น ก็จะเห็นเด็กจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจดูพวกวัตถุโบราณเหล่านั้นอยู่บ่อยๆ
เดิมทีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติดูอ้างว้างอยู่บ้าง กิจกรรมครั้งนี้ก็ได้ยึดครองสายตาของทุกคนอีกครั้ง
จนกระทั่งหลังจากนั้นสองเดือน สิ้นสุดรายการวัตถุโบราณแห่งชาติแล้ว ทุกคนก็ยังคงรู้สึกอาลัยอาวรณ์ เฝ้ารอว่าครั้งต่อไปจะเริ่มฉายเมื่อไหร่
และยิ่งไปกว่านั้น รายการนี้ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จภายในประเทศเพียงเท่านั้น ที่ต่างประเทศก็มีแฟนคลับกลุ่มใหญ่ด้วยเช่นกัน
“คุณพ่อนี่คะ!”
โดว์โดว์ชี้ไปยังคนที่อยู่ในโทรทัศน์ แล้วตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
หลวนจื่อกำลังนั่งอยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของโซฟา แววตานั้นจ้องมองไปยังร่างของหมินอันเกอที่อยู่บนหน้าจอ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหมินอันเกอจะไม่ได้เซ็นสัญญาต่อกับบริษัทหวนฉิว แต่กลับเลือกที่จะเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ทำให้รู้สึกไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก
แต่ทางฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมที่จะยอมแพ้กับกิจการของตัวเอง ทำให้หลวนจื่อรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่เคยพลาดการออนแอร์ของรายการ และรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะคิดวิธีที่ดีขนาดนี้ได้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ชอบมากเช่นกัน
ดูตอนสุดท้ายจบลงแล้ว โดว์โดว์ก็หันมาทางหลวนจื่ออย่างรอคอย “คุณแม่คะ ตอนต่อไปฉายเมื่อไหร่คะ?”
“คงจะต้องรอให้ผ่านไปอีกซักพักนึงมั้งลูก?”
โดว์โดว์ได้ยินแล้ว ก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที “ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องรออีกนานเลยใช่ไหมคะถึงจะได้เห็นคุณพ่ออีก?”
หลวนจื่อได้ยินคำพูดนี้ เห็นอาการที่ดูเสียใจบนใบหน้าของโดว์โดว์ จึงเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความสงสารจับใจ : “อยากดูภาพยนตร์ที่หมินอันเกอถ่ายเอาไว้ก่อนหน้านี้อีกไหมคะ? แม่ดาวน์โหลดเอาไว้แล้ว”
โดว์โดว์ขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น : “แต่ภาพยนตร์เรื่องนั้นหนูดูไปห้ารอบแล้วนะคะ……”
“ถ้าอย่างนั้นก็อีกเรื่องนึง《อันฉิง》ล่ะคะ?”
“เรื่องนั้นหนูดูไปเจ็ดรอบแล้วค่ะ……”
หลวนจื่อได้ยินคำตอบนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในทันที
ตั้งแต่ที่เธอมาเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา นอกจากครั้งแรกที่หมินอันเกอมาหาเธอแล้ว เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย
ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมาหาเธอเลย แม้แต่โทรศัพท์ก็โทรมาหาน้อยมากเช่นกัน
บางครั้ง เธอคิดแม้กระทั่งว่าทางฝ่ายนั้นลืมตัวเองไปแล้วหรือเปล่า?
หมินอันเกอไม่โทรมาหาเธอ หลวนจื่อเองก็ไม่รู้ว่าควรจะติดต่อไปดีไหม
ตอนนั้นเธอเองที่เป็นคนเลือกที่จะจากมาเอง ตอนนี้อีกฝ่ายไม่ติดต่อตัวเองมา จะให้ตัวเธอจะไปหาเขากลับได้อย่างไร?
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น โดว์โดว์ก็หยิบโทรศัพท์แล้วกระโดดมาอยู่ตรงหน้าเธอ ด้วยใบหน้าที่ดูรอคอยคาดหวัง
“คุณแม่ คุณแม่ โทรหาคุณพ่อได้ไหมคะ?”