เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่760 ทั้งรักทั้งทะเลาะ
บทที่760 ทั้งรักทั้งทะเลาะ
เดิมทีจงหลีคิดว่าจี้จิ่งเชินจะอ่อนข้อให้ แต่ไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินจะส่ายหัวจริงๆ
พูดเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องดำเนินตามแผนการเดิม ฉันจะรอดูว่าเที๋ยนเที๋ยนเตรียมแผนการอะไรที่จะทำให้ฉันเซอร์ไพรส์”
บนใบหน้าของจงหลีมีความตกใจผ่าน พยักหน้า หันหลังเดินจากไป
ในอีกด้าน เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับจี้จิ่งเชินเสร็จ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอก็ระแวงขึ้นมา กังวลว่าสิ่งที่ตัวเองเตรียมไปก่อนหน้านี้จะไม่เข้าที่ ก็รีบเดินกลับไปห้องหนังสือ ตรวจสอบและปรับปรุงแผนก่อนหน้านี้ต่อ
และในขณะที่เธอรีบเดินออกจากสวนดอกไม้ ไปในทางห้องรับแขก ไม่ได้สังเกตร่างลับๆล่อๆ ที่เดินออกมาจากมุมห้องอย่างเงียบๆ มาถึงหลังลานบ้าน เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
เพิ่งจะหันตัวกลับ สิ่งที่ต้อนรับเธอก็คือเสียงตกใจของหลิวเหม่ยหลัน
“เจียนี เธอทำอะไรอยู่!”
เธอรีบเดินขึ้นไป ดึงหล่อนเจียนีที่เพิ่งเข้าประตูกลับมา รีบพูดว่า “เธอไปไหนมา? ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม สองสามวันนี้ให้อยู่ในห้อง ห้ามไปข้างนอก ทำไมไม่ฟังล่ะ?”
เธอเดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง แอบมองข้างนอก เห็นว่าไม่มีคน ถึงจะหันหลังกลับมา สีหน้าลนลานเล็กน้อย ตกใจหวาดผวา
หล่อนเจียนีกลับไม่ได้แคร์ เบ้ปากแล้วพูด “ฉันอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครจะสังเกตเห็น ฉวีผิงพาคนไปตามหาที่นอกเมืองหลวง ไม่เคยได้ตรวจหาภายในบ้านเลย ไว้ใจเถอะ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าฉันคอยแอบซ่อนใกล้ตัวพวกเขามาตลอดหรอก”
“อีกอย่าง ฉันก็ต้องไปดูซะหน่อยว่า พวกเขาได้เตรียมแผนการอะไรเพื่อที่จะตามหาฉัน”
หลิวเหม่ยหลันฟังจบ ถอนหายใจเสียงหนึ่ง
“ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้เป็นที่สำคัญ เธอควรระวังให้ดี ฉันได้ยินพวกเขาพูดว่า แม้ว่าครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ทำอะไรเมื่อตามหาเธอเจอ แต่ทางหมินอันเกอไม่ปล่อยเธอไว้แน่นอน”
ขณะที่พูด เธอก็นึกเรื่องของหลวนจื่อได้ พูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร? ถ้าหากถึงชีวิตขึ้นมาทำไง?”
หล่อนเจียนีได้ยินนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที พูดอย่างหงุดหงิด “ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเธอจะอ่อนแอขนาดนี้? ก็แค่ตกจากบันได ก็เลือดออกเยอะซะขนาดนี้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ตั้งใจสักอย่าง ใครให้เธอมาแย่งของของฉัน?”
“เธอยังกล้ามาเถียงกับฉันอีก? ก็บอกแล้วไงว่าช่วงนี้ให้สงบใจหน่อย ทำไมเธอยังจะไปที่ห้องหนังสือของเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ทันใดนั้นหล่อนเจียนีกระโดดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เสียงดังกว่าเดิม ตะโกนว่า “ที่ทำแบบนี้ก็เพราะเพื่อพวกเราไงล่ะ? ถ้าจะให้เหมือนเธอ อดนรทรหดทำงานให้กับพวกเขาแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้ส้ายหนี้? ถ้าหากฉันขโมยหนังสือแผนการมาได้ แล้วขายให้กับบริษัทที่เป็นศัตรูกัน ถึงเวลานั้นอยากได้เงินเท่าไหร่จะไม่มีให้เหรอ?”
“พวกเรายัจะต้องมาเป็นขี้ข้าให้พวกเขาที่นี่อีกเหรอ? เธอไม่สนับสนุนฉันก็ช่างเถอะ ยังจะมาด่าฉันอีก!”
หลิวเหม่ยหลันได้ยินดังนั้น โกรธจนสูดลมหายใจเข้าลึกๆไปทีหนึ่ง
แต่พอเผชิญกับคนที่ตัวเองเอ็นดูมาตั้งแต่เด็ก หลิวเหม่ยหลันกลับพูดคำที่ด่าว่าเธอไม่ออก
“ฉันเป็นห่วงเกินไป……หามานานขนาดนี้ พวกเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ดูแล้วคงต้องหาวิธีส่งเธอออกนอกประเทศแล้วล่ะ”
หล่อนเจียนีได้ยินนั้น ก็พูดว่า “เธอมีเงินเหรอ?”
หลิวเหม่ยหลันพลิกตู้พยายามหา ก็มีแค่ไม่กี่พัน
“นี่เป็นเงินที่ฉันประหยัดเก็บออมมา รวมกันแล้วน่าจะพอซื้อตั๋วไปเมืองนอกได้ ”
“มีแค่นี้เหรอ?”
หล่อนเจียนีรับมา นับอย่างไม่พอใจ แล้วโยนทิ้งไว้บนโต๊ะ
“ฉันไม่ไป ให้เงินฉันแค่นี้ เธอกะจะให้ฉันไปขอทานที่เมืองนอกเหรอ? ฉันใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้ แทนที่จะตายในเมืองนอก ซ่อนที่นี่ เวินเที๋ยนเที๋ยนพวกเขาหาไม่เจอแน่นอน”
“ไม่ได้ ถ้าหากวันไหนหาเจอทำไงล่ะ?” หลิวเหม่ยหลันเป็นห่วงอย่างมาก
แต่หล่อนเจียนีกลับพูดอย่างหงุดหงิด “ไม่ว่ายังไง ฉันไม่ไป แม้ว่าจะหาเจอ ฉันก็มีวิธีอื่นแก้ปัญหา”
ขณะที่เธอคิด ก็ขี้เกียจฟังคำพูดของหลิวเหม่ยหลัน นึกคนที่เธอพบเจอ ในวันที่เธอวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ
ตอนนั้นเธอไม่ใจเรื่องนี้ พอมานึกดูตอนนี้แล้ว อาจจะช่วยเธอได้
ในขณะที่หล่อนเจียนีซ่อนตัวอยู่ในบ้านตระกูลหล่อน และพยายามจะติดต่อคนที่สามารถช่วยเธอได้คนนั้น ตระกูลหล่อนได้เข้าสู่การตลาดอย่างเป็นทางการ งานประมูลครั้งแรกที่เข้าร่วมกำลังเริ่มขึ้นอย่างเต็มที่
ในขณะที่หลายคนรู้ว่าตระกูลหล่อนและบริษัทเอ็มไอกรุ้ปจะเข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้ และกลายเป็นคู่แข่งกันและยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ประมูลแข่งกัน ต่างแสดงความประหลาดใจและไม่เข้าใจอย่างมาก
ในขณะเดียวกันก็เดาว่า ใครจะชนะการประมูลครั้งนี้
แม้ว่าในด้านของระดับเทคนิคและความสามารถ หรือในด้านของการพัฒนาและความเป็นมืออาชีพแล้ว บริษัทเอ็มไอกรุ้ปนั้นเก่งกว่า บริษัทหล่อนซื่อที่มีเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นตัวแทน แต่เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินแล้ว ทุกคนก็ลังเลเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินที่รักภรรยายิ่งชีพในตอนนี้ จะจงใจปล่อยน้ำเพื่อเอาใจเวินเที๋ยนเที๋ยน และให้ตระกูลหล่อนรับโครงการนี้ไปหรือไม่?
คนอื่นๆแค่มาดูเฉยๆ แต่บริษัทที่เข้าร่วมในงานประมูลคงซวยแน่
หลังจากที่ปล่อยข่าวออกไป ทุกคนต่างแบ่งเป็นสองกลุ่ม ไม่ใช่สนับสนุนจี้จิ่งเชิน ก็สนับสนุนเวินเที๋ยนเที๋ยน สำหรับบริษัทอื่นๆแล้วไม่ได้ให้ความสนใจใดๆ
ดูออกได้ชัดว่า ไม่มีใครรู้สึกว่าพวกเขาจะสามารถแย่งแผนมาจากมือสองคนนี้ได้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่ตัวพวกเขาก็รู้สึกว่าครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนละก็ ก็คือจี้จิ่งเชิน
ในมุมมองของพวกเขา เป็นบริษัทเดียวกันแท้ๆ ทำไมต้องแบ่งเป็นสองกลุ่มเพื่อมาแย่งชิงในงานประมูลล่ะ? นี่มันรังแกกันชัดๆ
แม้ว่าจะไม่พอใจในใจ หลังเริ่มงานประมูล ทุกบริษัทก็ส่งตัวแทนและผลงานที่ภาคภูมิใจ เข้าร่วมงานประมูล
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินนั่งคนละฝั่ง หลังจากที่เริ่มงานก็ไม่มีการพูดคุย เพียงแค่กวาดสายตาผ่านๆบนตัวอีกฝ่าย
ดูจากสีหน้าแล้วนิ่งมาก ดูไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีอะไรในนี้
เมื่อทุกคนคิดว่าโครงการนี้จะถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนประมูลไปอย่างแน่นอน สถานการณ์ต่อไปก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง
เมื่อพูดถึงช่วงการประมูล ตระกูลหล่อนแสดงแผนการและความคิดของตัวเอง แต่ทำไมจี้จิ่งเชินถึงแสดงแรงสู้อย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่า ตั้งใจหาเรื่องตระกูลหล่อน และต้องการแข่งขันใครชนะใครแพ้
ทุกคนดูสถานการณ์นี้ งุนงงไปทันที
สองคนนี้เมื่อวานยังรักกันมาก ทำไมวันนี้ถึงได้แย่งชิงกัน?
หรือว่าความรู้สึกเปลี่ยนไป?
แต่เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนอธิบายความคิดของเธอบนเวที จี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ด้านล่าง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความเอ็นดูและอ่อนโยน ดวงตาจดจ่ออยู่บนตัวเธอ ไม่ขยับหนี
ความรักที่ชัดเจนแบบนี้ เป็นอาการคลั่งรักมากๆ
แต่ทำไมถึงแบบนี้ยังทั้งรักทั้งทะเลาะด้วยล่ะ?
ทุกคนต่างแสดงว่า ไม่เข้าใจเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคนจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ โดยใช้การกระทำ เพื่อแสดงว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ส่วนจี้จิ่งเชิน สายตาที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนตรงหน้านี้ มีความเศร้าผ่านดวงตาของเขา แต่ไม่มีวี่แววจะอ่อนข้อให้สักนิด
น่าแปลกจริงๆ