เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่772คุณสามารถฉวยโอกาสแทรกเข้าไปได้
บทที่772คุณสามารถฉวยโอกาสแทรกเข้าไปได้
สองสามวันต่อมา หมินอันเกออยู่กับหลวนจื่อตลอด
เขารู้สึกว่าอารมณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ของหลวนจื่อนั้นดูผิดปกติ อาจจะเกิดจากผลกระทบจากอารมณ์ของตัวเอง ดังนั้นจึงได้จึงยื่นขอไปทางบริษัท ให้เขาอยู่บ้านเพื่อดูแลเธอ
แต่หลวนจื่อเห็นเช่นนี้แล้วนั้น กลับให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง
ทุกครั้งที่เห็นหมินอันเกอ ในหัวของเธอก็จะมีภาพในวันนั้นที่หมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินด้วยกันปรากฏขึ้นมา
รูปถ่ายเหล่านั้นถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกวางเข้าไปในกล่องแล้ว อยากจะหาเวลาเอาไปทิ้ง แต่สองสามวันมานี้ ทุกครั้งตอนที่หมินอันเกอออกไปนั้น หลวนจื่อมักอดที่จะเอามาพลิกดูไม่ได้
ทุกๆครั้งที่ดู ทั้งสองคนในรูปถ่ายที่สบตากันด้วยความรักใคร่ ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด
เดิมทีหมินอันเกอที่อยู่ข้างๆเธอมาตลอด เห็นช่วงสองสามวันมาเริ่มค่อยๆฟื้นฟูดีขึ้น จึงรู้สึกวางใจขึ้นมา
แต่ที่เขาไม่รู้เลยก็คือ เวลานี้ภายในใจของหลวนจื่อกลับเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม แทบอยากจะไม่ต้องเห็นหน้าหมินอันเกออีกตลอดไปเลยเสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากว่าสองสามวันมานี้เขาอยู่รอบๆตัวเธอตลอด ต่อให้หลวนจื่ออยากจะไปจากที่นี่ ก็ไม่สามารถหาโอกาสไปได้เลยเช่นกัน
แล้วก็ผ่านไปอีกสองสามวัน รอจนกระทั่งทางบริษัทมีข่าวคราวส่งมา หมินอันเกอจึงต้องออกไปทำงาน หลวนจื่อจึงหาโอกาสได้ในที่สุด
หมินอันเกอเพิ่งจะออกไปนั้น หลวนจื่อก็รีบจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศไล่หลังเลยทันที แล้วเก็บของอย่างลวกๆเพื่อเตรียมจะออกจากที่นี่ไป
ก่อนออกไปนั้น เธอมองรูปถ่ายที่อยู่ในมือใบนั้น แม้กระทั่งคิดว่าอยากจะเขียนอวยพรเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอที่ต่อไปพวกเขาจะสามารถอยู่ด้วยกันได้แล้ว
แต่ขณะที่เธอกำลังถือปากกาอยู่นั้น จู่ๆโทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ดังขึ้น
เวลานี้หลวนจื่อไม่ได้มีกะจิตกะใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว จึงไม่ได้รับสาย
แต่บุคคลที่โทรเข้ามานั้นกลับยังคงโทรมาไม่จบไม่สิ้น ราวกับแน่ใจว่าเธอจะต้องอยู่ที่บ้านอย่างไรอย่างนั้น จึงกดโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นห้าถึงหกครั้ง หลวนจื่อถึงได้รับสาย
“ใครคะ?”
เพิ่งจะเอ่ยถามเสร็จนั้น ปลายสายก็มีเสียงของหล่อนเจียนีดังขึ้น : “ที่แท้คุณก็ยังอยู่นี่เอง ฉันคิดว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นเสียอีก?”
ได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของหลวนจื่อเปลี่ยนไปดูแย่ลงเป็นอย่างมาก
ทั้งหมดนี่เป็นเพราะหล่อนเจียนี ถ้าหากไม่มีหล่อนเจียนี ก็คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมากมายขนาดนี้ ไม่คิดว่าเธอยังจะกล้าโทรมาอีก!
หลวนจื่อกำหมัดแน่น พลางกัดฟันแล้วเอ่ยขึ้น : “คุณอีกแล้ว!”
“แน่นอนว่าต้องเป็นฉันสิ ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันเท่านั้นแหล่ะที่เป็นห่วงอันตรายและความปลอดภัยของคุณ”
หล่อนเจียนีหัวเราะออกมาอย่างพอใจ พลางเอ่ยขึ้น : “ตอนนี้คุณคิดจะจากไป?หรือว่าฆ่าตัวตายล่ะ? ผู้หญิงอย่างคุณชอบหมินอันเกอมานานขนาดนี้ สุดท้ายแล้วมาจับได้ว่าเพื่อนตัวเองกับผู้ชายมาหักหลังคุณแบบนี้ คงจะไม่มีกะจิตกะใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วหรอกมั้ง?”
“ฉันจะทำอะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?” น้ำเสียงของหลวนจื่อดูไม่สบายใจ
แต่หล่อนเจียนีกลับเอ่ยขึ้น : “ฉันจะบอกเรื่องเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ เป็นเพราะเราสองคนเป็นพวกหัวอกเดียวกัน ฉันเพียงแค่ไม่อยากจะให้คุณเลือกเส้นทางที่จะต้องไปจากที่นี่หรอกนะ”
“นี่เป็นการตัดสินใจของตัวฉันเอง ไม่เกี่ยวกับคุณ”
น้ำเสียงของหลวนจื่อนั้นมีความแข็งแกร่งมาก พลางโต้ตอบกลับไป : “ฉันเตือนคุณไว้หน่อยนะว่าคุณเองก็ควรจะพิจารณาตัวเองบ้าง ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินพวกเขาก็ล้วนแต่ตามหาคุณ เชื่อว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะเจอตัวคุณ”
หล่อนเจียนีหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“เห็นเจตนาดีของฉันเป็นเจตนาที่ไม่ดีไปอย่างนั้นจริงๆสินะ ที่ฉันโทรมาครั้งนี้ ก็เพราะหวังดีกับคุณนะ คุณคิดจะจากไปแบบนี้จริงๆหรือ? คุณไม่อยากจะแย่งหมินอันเกอกลับมาอีกครั้งนึงอย่างนั้นใช่ไหม?”
เห็นว่าหลวนจื่อไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอจึงเอ่ยพูดต่อ : “ตอนนี้คุณยังตั้งท้องลูกของหมินอันเกออยู่ อีกไม่นานก็จะต้องคลอดแล้ว คุณอยากจะให้ลูกตัวเองได้ชื่อว่าเป็นลูกนอกสมรสอย่างนั้นหรือ? เวินเที๋ยนเที๋ยนมีสิทธิอะไรที่ได้คบทั้งจี้จิ่งเชิน แล้วก็หมินอันเกออีก แต่คุณกลับไม่ได้ใครเลยแม้แต่คนเดียว?”
หลวนจื่อคิดอยากจะวางสาย แต่ได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงหยุดการเคลื่อนไหวลงทันที แต่กลับจับพลัดจับพลูฟังเสียงของเธอไปอย่างไม่รู้ตัว
“คุณคิดจะพูดอะไรกันแน่?”
“ฉันก็แค่อยากจะช่วยคุณเท่านั้น ช่วยคุณแย่งหมินอันเกอกลับมาอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนมีแค่จี้จิ่งเชินคนเดียวก็พอแล้ว คุณเคยคิดหรือเปล่า บางทีหมินอันเกอเองก็ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนหลอกเหมือนกัน”
น้ำเสียงของเธอนั้นราวกับปิศาจร้ายที่อยู่ในใจ ปลุกปั่นมอมเมาอย่างต่อเนื่อง
“ต่อให้หมินอันเกอใจอ่อน สามารถยอมรับที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคบกับจี้จิ่งเชินได้ แต่คุณเคยคิดหรือเปล่า ว่านิสัยอย่างจี้จิ่งเชิน จะยอมให้หมินอันเกอเป็นชู้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างนั้นหรือ? ถ้าหากถูกจับได้เข้า พวกเขาทั้งสองคนสุดท้ายแล้วคงลงเอยไม่ดีแน่ หลังจากที่คุณจากไปแล้ว ต่อไปหมินอันเกอคนเดียวก็แย่น่ะสิ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” หลวนจื่อเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ : “ต่อให้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นมาจริงๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องปกป้องหมินอันเกออย่างแน่นอน”
“คุณรู้สึกว่ามันจะเป็นอย่างนั้นหรือ? ต่อให้เธอปกป้อง จี้จิ่งเชินก็จะยกโทษให้จริงๆอย่างนั้นหรือ? ภรรยาของตัวเองไปสมคบคิดกับผู้ชายคนอื่น เป็นผู้ชายคงจะทนไม่ได้หรอกนะ คุณชอบอันเกอขนาดนี้ สู้ที่จะใช้โอกาสนี้ แย่งเขามาไม่ดีกว่าหรือ”
หล่อนเจียนีเอ่ยพูดออกมาอย่างจริงใจน่าเชื่อถือ : “นี่จะดีกับคุณ แล้วก็ดีกับหมินอันเกอด้วย ไม่ใช่วิธีที่ดีอย่างนั้นหรอกรึไง?”
หลวนจื่อได้ยินแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะรู้สึกหวั่นไหวไปบ้าง
เธอขมวดคิ้ว แล้วเงียบไปพักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นในที่สุด : “แต่ฉันอยู่กับหมินอันเกอมาเป็นสิบกว่าปี เขาไม่เคยมองฉันเลย เขาไม่ได้ชอบฉัน เขารักเพียงแค่เวินเที๋ยนเที๋ยน ฉันจะทำยังไงถึงจะสามารถทำให้เขาหยุดมองมาที่ฉันบ้าง?” ฟังออกถึงความหวั่นไหวของหลวนจื่อ หล่อนเจียนีจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“โง่จริงๆเลยนะสาวน้อย คุณต้องการไม่ใช่เพียงแค่สายตาของเขาที่หันมามองคุณ แต่เป็นหัวใจของเขาต้องมีเพียงแค่คุณคนเดียวต่างหาก ทำถึงตรงจุดนี้ได้ สิ่งแรกก็คือจะต้องตัดขาดความสัมพันธ์ของเขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนซะ”
หลวนจื่อได้ยินแล้ว จึงรีบส่ายหน้า
“ไม่ได้ เที๋ยนเที๋ยนเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันจะทำร้ายเธอไม่ได้”
“ฉันให้คุณไปทำร้ายเธอตอนไหนกัน? ฉันเพียงแค่อยากให้คุณไปพูดสร้างความสัมพันธ์เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชิน ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเอาทั้งจิตใจและร่างกายไว้กับจี้จิ่งเชิน เธอก็จะไม่มีเวลาไปรบกวนหมินอันเกอแล้ว รอนานเข้า ถึงตอนนั้นหมินอันเกอก็จะค่อยๆล้มเลิกความตั้งใจ แล้วคุณก็ค่อยๆแทรกเข้าไป แล้วสุดท้ายเขาก็จะตกหลุมรักคุณ”
หลวนจื่อได้ยินแล้ว กลับรู้สึกลังเลอยู่บ้าง
“แบบนี้ได้จริงๆหรือ?”
“ได้สิ!”เมื่อเผชิญกับความสงสัยของหลวนจื่อ หล่อนเจียนีจึงหลอกล่อเธอ : “เรื่องนี้ไม่ได้เป็นผลร้ายต่อใครเลย แต่ทุกฝ่ายจะได้ผลประโยชน์ด้วยซ้ำ ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะมีความสุข หมินอันเกอเองก็จะไม่มีอันตรายอะไร พวกคุณก็สามารถคบกันได้อีก เรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจี้จิ่งเชินจับได้ มีแต่ผลดีไม่มีผลเสียเลยซักนิด คุณจะไม่พิจารณาหน่อยจริงๆหรือ?”
หลวนจื่อได้ยินคำพูดเธอแล้ว ก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้น
ถึงแม้ว่าความสามารถในการเข้าใจเหตุผลจะบอกตัวเองว่าไม่ควรเชื่อคำพูดของหล่อนเจียนี แต่เธอพรรณนาออกมาได้อย่างงดงามมากเหลือเกิน ทำให้เกิดความคาดหวังขึ้น
ความจริงแล้ว ถ้าหากเพียงแค่พูดความสัมพันธ์ให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชิน ก็คงจะไม่ได้เป็นผลไม่ดีสำหรับใครทั้งนั้น
ตัวเองก็ไม่ต้องกังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอจะต้องได้รับบาดเจ็บ
ยิ่งคิด เธอก็ยิ่งหวั่นไหว
ถ้าหากทำได้จริงๆล่ะก็ สามารถจะบรรลุถึงผลลัพธ์ที่สวยงามได้
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น แล้วซักพักหนึ่งถึงได้พยักหน้าลง
“ฉันรู้แล้ว คุณอยากจะให้ฉันทำยังไง?