เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่775 ทำไมเป็นวันนี้?
บทที่775 ทำไมเป็นวันนี้?
ในใจของหลวนจื่อนั้นรู้สึกเป็นกังวล กลับมายังห้องอาหารพร้อมกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน รอยยิ้มบนใบหน้าก็อ่อนโยนขึ้นมา เขานั่งลงแล้วหยิบช้อนขึ้นมาเตรียมจะทานข้าวต้ม
สายตาของหลวนจื่อจ้องมองอยู่ที่เขาตลอด ไม่กล้าจะละสายตาออกไป กลัวว่าเขาจะรับรู้ถึงความผิดปกติ
แต่รอซักพักนึงแล้วนั้นจี้จิ่งเชินกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เห็นเขากินข้าวต้มเข้าไปครึ่งถ้วยในรวดเดียวแล้ว เธอถึงได้วางใจในที่สุด
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ข้างๆเห็นหลวนจื่อไม่ขยับเลยนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความกังวล : “หลวนจื่อ เป็นอะไรไป? ไม่ถูกปากหรือเปล่า?”
หลวนจื่อดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ใช่หรอก นี่ฉันก็กิน……..”
พูดอยู่นั้นเธอก็หยิบตะเกียบขึ้นมากิน แต่เนื่องจากว่าเธอใจลอยอยู่ กินไปได้ซักพักก็หยุดลง
เดิมทีเธออยากจะอยู่รอดูสถานการณ์ หลังจากที่แน่ใจแล้วถึงค่อยออกไป
แต่เวลานี้จู่ๆหมินอันเกอก็โทรมาหาเธอ หลังจากที่รู้ว่าเธออยู่ที่ตระกูลหล่อนแล้ว ก็เสนอตัวว่าจะมารับเธอ
หลวนจื่อไม่อยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเจอหน้าหมินอันเกอ หลังจากปฏิเสธกับหมินอันเกอไปแล้ว จึงลุกขึ้นแล้วล่ำลา
ในเมื่อจี้จิ่งเชินกินยาไปแล้ว ที่บ้านนี้ยังมีเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ด้วย คงจะไม่เกิดปัญหาขึ้นหรอก
เธอคิดไปพลางลุกออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งเธอออกมาแล้วก็หันกลับไปยังห้องรับแขกอีกครั้ง
และพอเข้ามานั้น ก็เห็นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่ตรงโซฟา คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย ราวกับกำลังเหม่อลอยอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“เป็นอะไรไปคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป
การเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินดูเชื่องช้า เขาหันกลับมามองเธอแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ เพียงแค่รู้สึกร้อนๆ”
ว่าแล้วเขาก็ดึงคอเสื้อลงไปด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็รู้สึกงงๆขึ้นทันที
ตอนนี้ฤดูหนาวเพิ่งจะผ่านไป ช่วงกลางคืนอุณหภูมิก็ค่อนข้างจะหนาวเย็นเสียด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงว่าอากาศจะร้อนเลย
“ไม่ใช่ว่าพี่ไม่สบายนะ?”
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก” จี้จิ่งเชินกล่าว
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่วางใจ มองพิจารณาจี้จิ่งเชินอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่ง เห็นสีหน้าที่แดงๆของเขา จึงอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
“ไม่ใช่ว่าจะไม่สบายจริงๆหรอกนะคะ?”
เธอเอามือวางลงบนหน้าผากของจี้จิ่งเชิน รู้สึกว่าผิวของเขาร้อนระอุ ในใจก็ยิ่งรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น
ลำคอของจี้จิ่งเชินกลับส่งเสียงถอดถอนใจอย่างหมดอาลัยตายอยากออกมา
มือเย็นๆของเวินเที๋ยนเที๋ยนวางอยู่บนหน้าผากร้อนระอุ อุณหภูมิร่างกายที่สูงนั้นเป็นเพราะเหตุนี้จึงค่อยๆลดลงมาบ้าง แต่วินาทีต่อมานั้น ความร้อนระอุก็ยิ่งพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
จี้จิ่งเชินรับรู้ถึงความผิดปกติที่คลุมเครือ แต่ภายใต้ผลกระทบจากความร้อนรุ่มนี้ ทำให้เขาไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย แล้วลุกขึ้นยืนในทันที
จู่ๆเขาก็โอบเอวแล้วอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจกับการเคลื่อนไหวนี้ของเขา และรู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็สูงขึ้นด้วย
ถึงแม้จะมีเสื้อผ้ากั้นอยู่ ก็สามารถรับรู้ได้ถึงมือที่ร้อนรุ่มของจี้จิ่งเชินอย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกร้อนใจ
“เกิดอะไรขึ้นคะ? จี้จิ่งเชิน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ”
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า มีความดึงดูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้ จึงเบิกตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ แล้วรีบมองไปที่เขา
รู้สึกเพียงว่าดวงตาสีดำสนิทของจี้จิ่งเชินนั้น เหมือนคลื่นที่กำลังซัดสาดมาอย่างรุนแรง แม้กระทั่งดวงตานั้นก็แดงขึ้นมาเล็กน้อยอีกด้วย
จ้องมองท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยน ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจับจ้องเหยื่ออยู่อย่างไรอย่างนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองท่าทางของเขา แล้วก็เข้าใจขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ฝ่ามือของจี้จิ่งเชินมีอุณหภูมิสูง ต่อให้มีเสื้อผ้าหนาๆมากั้นไว้ ก็สามารถรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุส่งผ่านมาจากร่างของเขา
“เที๋ยนเที๋ยน”
เสียงที่แหบพร่าของจี้จิ่งเชินเอ่ยเรียกชื่อเธอ ลมหายใจๆเริ่มหนักขึ้น “ผมอยากได้คุณ”
คำพูดที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องตกตะลึงอีกครั้ง
ถึงแม้หลังจากที่จี้จิ่งเชินย้ายเข้ามาแล้ว เรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นมาไม่น้อย แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เขาเสียการควบคุมแบบนี้
ท่าทางแบบนี้ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกไปถึงเรื่องราวเมื่อก่อน ท่าทางที่จี้จิ่งเชินถูกวางยา คล้ายคลึงกันกับตอนนี้เลย
เป็นไปได้หรือเปล่ากัน!
วันนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอด จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนมาวางยาจี้จิ่งเชิน?
และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ในตระกูลหล่อน วางยาแบบนี้จะมีผลดีอะไรกับเธอกัน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ฝ่ามือสัมผัสไปที่หน้าผากของจี้จิ่งเชิน รู้สึกถึงความร้อนระอุมากขึ้น
เห็นจี้จิ่งเชินที่ดวงตาแดงก่ำ ค่อยๆขาดสติ ยิ่งมั่นใจในความคิดที่อยู่ในใจของตัวเองมากขึ้น
เธอผลักจี้จิ่งเชินออกไปอย่างร้อนใจ
“ใจเย็นๆหน่อยสิคะ อย่าทำแบบนี้”
แต่จี้จิ่งเชินกลับฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา
ถ้าหากเวลานี้คนที่อยู่ข้างๆเขาไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยน บางทีเขาอาจจะสามารถยังพอมีสติขึ้นมาได้บ้าง
แต่ตอนนี้คนที่ตัวเองรักมาอยู่ข้างๆ อีกทั้งได้รับผลกระทบจากยานั่นอีก สายธนูที่รัดแน่นอยู่ในใจและความระแวดระวังนั้นได้หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทำตามใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไปตามฤทธิ์ของยานั่น
เห็นว่าจี้จิ่งเชินหายใจหอบแรงขึ้นเรื่อยๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งร้อนใจขึ้นมา
ถ้าหากเป็นปกติก็คงจะปล่อยแต่นี่ทำไมจะต้องมาเป็นวันนี้ด้วย?
ตอนนี้เธอไม่สามารถจะทำเรื่องแบบนั้นได้เลย……
มือทั้งสองข้างของเธอวางลงบนไหล่ของจี้จิ่งเชิน
“จี้จิ่งเชิน พี่ใจเย็นๆก่อนนะคะ ฉันจะไปเรียกหมอให้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างลำบากใจ แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นไปกว่าเดิม ไม่ยอมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถมีโอกาสที่จะหลุดพ้นไปได้
มือทั้งสองข้างของเขาเพิ่มความร้อนระอุมากขึ้น นัยน์ตาราวกับมีพายุกำลังก่อรวมตัวกันขึ้นมา มองมายังเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังตื่นตะลึงอยู่
ทำไมเป็นแบบนี้?
ทั้งๆที่วันนี้ทั้งวัน ตัวเองก็อยู่ด้วยกันกับจี้จิ่งเชิน ไปถูกวางยาเมื่อไหร่กัน?
เธอยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ และยังไม่ทันดิ้นรนขัดขืนเลยนั้นก็ถูกจี้จิ่งเชินอุ้มขึ้นไปด้านบนแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะถูกวางตัวลงบนเตียง เขาคร่อมร่างอยู่ทางด้านบนของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจเสียจนต้องรีบผลักเขาออก
“เดี๋ยวก่อน จี้จิ่งเชิน วันนี้ไม่ได้นะคะ” เธอเอ่ยพูดขึ้นอย่างลำบากใจ แล้วผลักตรงหน้าอกของเขาเอาไว้
นับว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก
ทำไมจะต้องเป็นวันนี้?
เดิมทีประจำเดือนในทุกๆเดือนควรจะมาหลังจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์ แต่ครั้งนี้จู่ๆก็มาก่อนเสียอย่างนั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ วิธีเดียวก็คือต้องให้คุณหมอมาแก้ไขกับปัญหานี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเกลี้ยกล่อมเขาไม่หยุด อยากจะให้เขาสงบลง หลังจากนั้นก็จะได้โทรเรียกให้คนมา
แต่เวลานี้จี้จิ่งเชินกลับไม่ฟังอะไรแล้ว ดึงตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้อย่างต่อเนื่องแล้วก้มลงจูบเธอ
จูบอันร้อนแรงตั้งแต่คิ้วไล่ลงจนถึงปลายจมูก แล้วค่อยๆเกาะกุมไปตรงมุมปาก สุดท้ายแล้วก็จูบลงที่ริมฝีปากของเธอ แล้วค้นหารสชาติของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างลึกซึ้ง
มือทั้งสองข้างที่ดิ้นรนอยู่นั้นถูกเขายึดข้อมือเอาไว้ตรงด้านบนศีรษะ
หน้าอกของเวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งตรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว แขนอีกข้างหนึ่งของจี้จิ่งเชินโอบอยู่ตรงเอวของเธอ ร่างของทั้งสองคนนั้นแนบชิดกันมาก ไม่มีช่องว่างหลงเหลืออยู่เลย
จี้จิ่งเชินยังคงกระหน่ำจูบอย่างต่อเนื่อง เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาจูบเสียจนเคลิบเคลิ้มไปบ้างแล้ว
รอจนกระทั่งจี้จิ่งเชินผละออกไปเล็กน้อยนั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงได้ดึงสติของตัวเองกลับมาได้ในที่สุด จึงรีบเอ่ยขึ้น
“จี้จิ่งเชิน แบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไปช่วยพี่ตามคุณหมอมาดีกว่า ดีไหมคะ?”
เสียงของเธอสูงขึ้นมา แต่จูบของจี้จิ่งเชินนั้นก็ยังคงไม่หยุดลงเพราะเหตุเช่นนี้ แต่กลับค่อยๆเลื่อนลงไป
ไล้ตามมุมปาก แก้ม และจูบเธออยู่ตลอดเช่นนั้น