เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่781 ได้เห็นพี่ก็ไม่ง่วงแล้ว
บทที่781 ได้เห็นพี่ก็ไม่ง่วงแล้ว
หลวนจื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ตอบ ในใจก็ยิ่งรู้สึกโทษตัวเอง ก้มหน้าลงยืนอยู่ตรงที่เดิม
หมินอันเกอที่อยู่ทางด้านหลังยกมือขึ้นมาจับเธอเอาไว้ เป็นการให้กำลังใจโดยปราศจากการส่งเสียงใดๆ
เวลานี้เองเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เอ่ยพูดขึ้น
“เขาไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกคุณกลับไปพักกันก่อนดีกว่า หลวนจื่อเธอก็ตั้งท้องอยู่ ยิ่งจะมาอดหลับอดนอนแบบนี้ไม่ได้นะ”
เธอเงยหน้าขึ้นมามองหลวนจื่อแวบหนึ่ง พลางเอ่ยเตือน
แต่ในใจของหลวนจื่อนั้นกลับยิ่งตำหนิตัวเอง เนื่องจากว่าคำพูดประโยคนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นดูเป็นทางการมากเกินไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ได้ยกโทษให้เธอทั้งหมด
ถึงแม้ว่าในใจของหลวนจื่อจะรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้หากเกิดขึ้นกับตัวเองและหมินอันเกอ เธอเองก็อาจจะไม่สามารถยกโทษให้กับคนๆนั้นได้เช่นกัน
แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ในใจก็ยังคงเจ็บปวดเหมือนโดนมีดกรีดอยู่ดี
เธอคิดอยากจะอธิบาย แต่หมินอันเกอที่อยู่ทางด้านหลังกลับดึงเธอเอาไว้ พลางส่ายหน้า
ตอนนี้เรื่องราวเพิ่งจะปิดฉากลง จี้จิ่งเชินยังไม่ฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นกำลังสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก จะให้เธอยอมรับหลวนจื่อในทันทีเหมือนก่อนหน้านี้ก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
และยิ่งไปกว่านั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดถูก
ตอนนี้ร่างกายของหลวนจื่อไม่เหมาะกับการที่จะมาอดหลับอดนอน ตอนนี้กลับไปพักผ่อนก่อนถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เขาดึงตัวหลวนจื่อ แล้วเอ่ยขึ้น : “เรากลับกันก่อนเถอะครับ รอพรุ่งนี้ให้คุณใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยมาดูเขาอีกที”
หลวนจื่อดูลังเลอยู่บ้าง แต่มองไปยังหมินอันเกอแล้ว จึงพยักหน้าลงในที่สุด
“ถ้าอย่างนั้น…..พรุ่งนี้ฉันค่อยมาหาพวกเธออีกทีนะ”
ว่าแล้วก็มองไปยังจี้จิ่งเชินที่นอนอยู่บนโซฟาอีกครั้ง และออกไปด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์
รอหลังจากพวกเขาไปแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงถอนหายใจออกมา
เธอรู้ว่าหลวนจื่อต้องการให้เธอยกโทษให้ แต่เห็นจี้จิ่งเชินที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ในเวลานี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยคำพูดพวกนั้นไม่ออกจริงๆ
ถึงอย่างไรคนที่วางยาจี้จิ่งเชินก็คือหลวนจื่อ
เธอจับมือจี้จิ่งเชินเอาไว้แน่น แล้วพิงลงตรงข้างๆโซฟา ไม่ได้ห่างเขาไปไหนเลยทั้งคืน
พ่อบ้านอยากจะเกลี้ยกล่อมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปอยู่หลายครั้ง แต่เห็นใจของเธอจดจ่ออยู่กับจี้จิ่งเชินแบบนี้ สุดท้ายจึงต้องยอมปล่อยไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่เฝ้าจี้จิ่งเชินอย่างใกล้ชิด กังวลว่าจู่ๆจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา….
แล้วก็พิงโซฟาผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ช่วงเช้าตรู่ ตอนที่เสียงนกแขกเต้าจากทางด้านนอกหน้าต่างดังขึ้นในตอนแรกนั้น จี้จิ่งเชินที่นอนหลับลึกอยู่บนโซฟาทั้งคืนนั้นก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาแล้วในที่สุด
เขาขยับนิ้วมือ แล้วลืมตาขึ้นมา
การเคลื่อนไหวของเขาเบามาก เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เฝ้ารอมาตลอดคืนนั้นหลับลึกไปตั้งแต่แรกแล้ว เธอไม่ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา และมือทั้งสองข้างยังคงกอดแขนของเขาเอาไว้อยู่ตลอด
ความทรงจำเมื่อคืนนี้ย้อนกลับมาอีกครั้ง จี้จิ่งเชินที่เพิ่งอยากจะยกมือขึ้นมา หลังจากนั้นก็เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังหลับปุ๋ยกอดแขนของเขาอยู่
เมื่อเห็นเธอนั้น อารมณ์ที่ตึงเครียดก็ค่อยๆจางหายไป
ก้มลงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยังคงกำลังหลับอยู่นั้น มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้นมา
ผู้หญิงที่กำลังกอดแขนของเขาหลับอยู่ ดูแล้วช่างน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก
เพียงแค่เห็นว่าเธออยู่ข้างๆเขา ความไม่พอใจและความโมโหที่มีมากกว่านั้นล้วนแต่หายไปเพราะสาเหตุนี้
ในใจของจี้จิ่งเชินรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มือซ้ายยังคงไม่ขยับ ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดไว้เป็นหมอนอิงอยู่เช่นนั้น
มองดูแล้วก็ดึงผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่นั้นคลุมลงที่ร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
การกระทำทั้งหมดนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ตื่นขึ้นมา เธอนอนหลับลึกมาก รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้างเพียงเท่านั้น
มุมปากของจี้จิ่งเชินนั้นปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา เขามองดูอยู่พักหนึ่ง แล้วถึงได้ละสายตาออกไป
แล้วในหัวก็ปรากฏเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ขึ้น
เมื่อคืน สติของเขาถูกฤทธิ์ยาควบคุมจนเลอะเลือนไป เพียงแต่สามารถฝืนแยกแยะออกได้เพียงเท่านั้น ว่าผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยน
อาศัยสติสัมปชัญญะที่มีเส้นสุดท้ายแล้วขังตัวเธอเอาไว้ในห้องน้ำ
แต่ตอนนี้มานึกดูแล้วนั้น บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่พวกเขาตามหาตัวมานานอย่างหล่อนเจียนีนั่นเอง
คิดไม่ถึง ว่าเธอจะซ่อนอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลหล่อนแห่งนี้อยู่ตลอด และยังกล้าที่จะมาวางแผนกับเขาอีก……
จี้จิ่งเชินหรี่ตาลง ความโมโหที่วนเวียนอยู่ในอกนั้นแสดงออกมา สายตาปรากฏความอาฆาตแค้นและดุดันขึ้นมา
ขณะนี้เอง พ่อบ้านเดินเข้ามาจากทางด้านนอก
เห็นจี้จิ่งเชินที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงรีบเดินเข้ามาใกล้ด้วยความประหลาดใจ
และเพิ่งจะเอ่ยพูดขึ้นนั้น จี้จิ่งเชินก็รีบเอานิ้วขึ้นมาวางไว้ที่ริมฝีปากพลางส่ายหน้าให้เขาเล็กน้อย เป็นการส่งสัญญาณไม่ให้เขาเอ่ยพูดออกมา
ฉวีผิงเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหลับอยู่นั้น จึงพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเอ่ยถามเบาๆ : “คุณผู้ชาย ต้องการให้ผมให้พวกเขาส่งของมาให้ไหมครับ?”
จี้จิ่งเชินส่ายหน้า
สายตาของเขานั้นมองอยู่ที่ร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเอ่ยถามขึ้น : “เที๋ยนเที๋ยนหลับไปตอนไหน?”
พ่อบ้านกดเสียงต่ำแล้วตอบคำถาม : “เมื่อวาน หลังจากที่คุณหนูดูคุณหมอให้ยาคุณแล้ว ก็อยู่เฝ้าคุณตลอดเลยครับ คงจะเฝ้าคุณมาทั้งคืน”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว ก็มองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูเหมือนกับว่าจะนอนหลับไม่สบายเท่าไหร่นัก เขาจึงชี้ไปที่โซฟาที่อยู่อีกทางด้านหนึ่ง
พ่อบ้านรีบหยิบหมอนที่วางอยู่ตรงนั้นมาอีกหนึ่งใบ
จี้จิ่งเชินรับมา มือหนึ่งประคองศีรษะของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ค่อยๆยกขึ้น รีบเอามือที่ถูกกอดเอาไว้อยู่นั้นชักกลับมา แล้วเอาหมอนนั้นวางกลับเข้าไปแทน
การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วนี้ ไม่ได้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตัวเลยว่าแขนที่เป็นหมอนอิงอยู่นั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็นหมอนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วจึงกระชับมือทั้งสองข้างนอนหลับต่อ
แก้มของเธอที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นแดงขึ้นมาเล็กน้อย เธอยังคงหลับสนิทอยู่
มุมปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นมาอย่างระวัง จากนั้นจึงก้มตัวลง โอบเอวของเธอไว้แล้วอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพาเธอเดินขึ้นไปยังด้านบนอย่างนุ่มนวล
พ่อบ้านมองเบื้องหลังของทั้งสองคนอยู่ทางด้านหลัง แล้วยิ้มออกมาด้วยความปลื้มใจ จากนั้นจึงรีบสั่งให้แม่ครัวเริ่มเตรียมอาหารเช้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงหลับสนิท การเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังของจี้จิ่งเชิน ราวกับว่าในมือนั้นกำลังประคองคริสตัลที่เปราะบางสามารถแตกง่ายอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เขาเดินขึ้นไปยังด้านบนอย่างแผ่วเบา เข้าไปในห้องนอน แล้ววางตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนลงบนเตียง
และเมื่อกำลังจะเตรียมห่มผ้าห่มให้เธอนั้น จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขยับตัว หลังจากนั้นก็ลืมตาขึ้นมา
ความรู้สึกของเธอนั้นราวกับกำลังอยู่ในห้วงความฝัน สายตายังพร่ามัวไม่ชัดเจน
จี้จิ่งเชินที่เห็นว่าเธอลืมตาขึ้นมานั้น สายตามองไปยังเลี่ยงไม่ได้ แล้วก้มลงเข้ามาใกล้เธอ
“ตื่นแล้วหรือครับ? ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อย?”
ได้ยินเสียงของเขาแล้ว สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นถึงได้โฟกัสไปที่ใบหน้าของจี้จิ่งเชิน ดวงตาค่อยๆเปล่งแสงประกายออกมา
ยกมือขึ้นมากอดคอยของจี้จิ่งเชินเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น
พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “พี่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? พี่ไม่ได้เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?”
เธอนึกไปถึงท่าทางของจี้จิ่งเชินเมื่อคืนนี้แล้วก็รู้สึกกังวลขึ้นมาอีก สำรวจร่างกายของเขาไม่หยุด
จี้จิ่งเชินรู้ว่าเธอเป็นกังวลมาทั้งคืน จึงไม่ได้ขยับ แล้วยอมให้เธอสำรวจอย่างตามใจ
“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วล่ะครับ ทำไมคุณนอนอยู่ตรงโซฟาแบบนั้นตลอดทั้งคืนล่ะ? ผมเคยบอกคุณแล้วหรือเปล่าว่าจะนอนก็ต้องนอนบนเตียง อย่าทำให้ตัวเองลำบากสิครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วก็กอดเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ พลางเอ่ยออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว : “แต่พี่เองก็อยู่ที่โซฟา ถ้าฉันไปแล้วพี่จะทำยังไง?”
เธอก็รู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง กอดจี้จิ่งเชินเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
จี้จิ่งเชินลูบหลังเธอเบาๆ
“ตอนนี้ยังง่วงอยู่ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า อย่างอารมณ์ดี
“เห็นพี่ก็ไม่ง่วงแล้วล่ะค่ะ”