เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่811 ไม่คิดจะทิ้งคุณไปไหนอยู่แล้ว
บทที่811 ไม่คิดจะทิ้งคุณไปไหนอยู่แล้ว
“ขอบคุณพวกคุณมากนะ ถ้าหากไม่ได้พวกคุณ ผมอาจจะกลับไปไม่ได้แล้ว” อาหงเอ่ยขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ ออกมาข้างนอกก็ต้องช่วยดูแลกันอยู่แล้ว”
ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว จี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนพาอาหงไปยังห้องของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ห้องรับรองแขกไม่มีคนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่ยังไม่ได้ปูชุดเครื่องนั้น
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยากจะช่วย แต่กลับถูกอาหงพูดดักเอาไว้
“คุณหนู เรื่องพวกนี้ให้ผมทำเองดีกว่า”
ว่าแล้ว เขาก็ยังคงมองไปยังจี้จิ่งเชินแวบหนึ่ง
เพียงแค่ทานข้าวกับผู้หญิงน่ารักคนนี้แล้ว สามีของเธอก็หึงขนาดนี้ ถ้าหากให้เธอปูผ้าปูที่นอนให้ ตัวเองก็คงจะถูกไล่ออกไปแน่นอน
รักษาชีวิตเอาไว้สำคัญกว่า
อาหงรีบรับของมา แล้วรีบเดินขึ้นไปยังด้านบน
“เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันไปช่วย…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมจะเดินตามขึ้นไปด้วย แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินดึงตัวเอาไว้
“ในเมื่อเขาทำเป็น ก็ปล่อยเขาไปสิครับ”
“ไม่ได้ค่ะ อาหงล่องลอยอยู่ในทะเลมาตั้งนานขนาดนี้ อาบน้ำร้อนเสียหน่อยจะดีกว่า” ว่าแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันมาเอ่ยถามจี้จิ่งเชิน : “เสื้อผ้าของพี่เขาน่าจะใส่ได้ใช่ไหมคะ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว จึงเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดไปได้เพียงครึ่งเดียว เห็นสีหน้าท่าทางของจี้จิ่งเชินแล้ว จึงอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“ไม่เป็นไร ผมไปด้วยกันกับคุณนี่แหล่ะ อาหงอายุมากแล้ว ไม่สามารถปล่อยให้มีโรคเรื้อรังได้”
“ไปเถอะค่ะ”
ว่าแล้ว เธอก็ดึงจี้จิ่งเชินเดินเข้าไปในห้องนอน
แล้วไปพลิกหาเสื้อผ้าออกมาหนึ่งชุด อาหงได้ปูที่นอนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เอาเสื้อผ้าส่งให้เขา
“อาหง อาบน้ำร้อนให้ร่างกายอบอุ่นหน่อยนะคะ เอาเสื้อผ้าพวกนี้มาให้ค่ะ”
อาหงรับมา แต่กลับมีความลังเลอยู่บ้าง ได้รับการต้อนรับอย่างดีจนเขาไม่คาดคิด แล้วมองไปยังจี้จิ่งเชินด้วยความประหลาดใจ
เห็นสีหน้าของเขาไม่ดีเท่าไรนัก และความหึงหวงที่มีอยู่ทั่วร่างกายอย่างที่คิดไว้จริงๆ
“ต้องขอโทษจริงๆนะครับ รบกวนทั้งสองคนมากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนอย่างไร”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็นึกถึงวันนี้ตอนช่วงสาย เธอกับจี้จิ่งเชินทั้งสองคนไม่สามารถที่จะตกปลาขึ้นมาได้เลยซักที จึงเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ : “อาหงตกปลาเป็นไหมคะ?”
อาหงหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น : “ผมอยู่ทะเลมายี่สิบกว่าปี ตกปลานี่เป็นสิ่งที่ผมถนัดที่สุดแล้ว”
“ดีจังเลยค่ะ ช่วยสอนพวกเราตกปลาได้ไหม?”
“เรื่องนี้……..” อาหงรู้สึกลังเลอยู่บ้าง มองไปยังจี้จิ่งเชิน แววตานั้นมีประโยคหนึ่งเขียนเอาไว้ : เขาไม่เป็นหรือ?
จี้จิ่งเชินไอออกมา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนอธิบาย : “ก่อนหน้านี้พวกเราเคยลองแล้วแต่ตกปลาในทะเลสาบกับในทะเลมันไม่เหมือนกัน…..”
“ไม่เหมือนกันจริงๆ” เมื่อเอ่ยพูดถึงงานของตัวเองแล้ว อารมณ์ของอาหง นั้นก็สดใสขึ้นมาทันที “เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เช้า ผมจะสอนเทคนิคให้พวกคุณสองคนเอง”
“ไม่รบกวนใช่ไหมคะ?”
“ไม่อยู่แล้วครับ ผมเป็นอาหงมายี่สิบกว่าปี ไม่ได้ตกปลาวันเดียว ทั้งร่างกายของผมนี่รู้สึกไม่สบายเลยล่ะ” เขาหัวเราะขึ้นมาอย่างเบิกบาน
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นค่อยๆดีขึ้น คนๆนี้เข้าใจที่จะใช้สายตาแสดงออกให้คนอื่นรู้ ให้เขาอยู่สองสามวันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้
“คืนนี้อาหงพักผ่อนก่อนนะคะ สุขภาพร่างกายสำคัญที่สุดแล้ว”
เอาของให้เขาหมดแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ออกมจากห้องนั้น แล้วก็ถอนหายใจออกมา
“เป็นอะไรไปครับ?” จี้จิ่งเชินเดินเข้ามา พลางเอ่ยถามขึ้นเบาๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วเอนตัวพิงเข้าไปในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน แล้วรู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง
“คุณกำลังกังวลอะไรอยู่ครับ? ผม? หรือว่าเรา?” จี้จิ่งเชินเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร แก้มของเธอนั้นจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้น
“ฉันไม่ได้คิดอะไรนี่คะ…..”
เธอหลบสายตา ไม่ยอมพูดออกมา
คิ้วและดวงตาของเขานั้นปรากฏรอยยิ้มขึ้น ราวกับเดาได้แล้ว “พูดแบบนี้แล้ว คิดถึงผมอยู่ใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนใบหูร้อนผ่าว แล้วคิดที่จะรีบลุกขึ้น
แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินกอดเอาไว้ในอ้อมกอด และนั่งลงอยู่ตรงขาของเขา
“ผมถามคุณอีกครั้งนะ คิดถึงผมอยู่ใช่ไหมครับ?”
ริมฝีปากของจี้จิ่งเชินแนบเข้ามาชิดตรงใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่มีทีท่าอะไรเลย น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและเซ็กซี่นั้นพุ่งตรงผ่านเข้าใบหูของเธอ
รู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา…..
ใบหน้าร้อนผ่าว
“เปล่าซะหน่อย…..” เธอตอบกลับไป
หากถามต่อไป เกรงว่าเธอจะต้องไหม้เกรียมขึ้นมาเสียแล้ว
ผู้ชายคนนี้เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าสำรวมหรือเปล่ากัน?
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหน้าแดง ไม่ต้องให้เธอพูด ก็รู้ว่าตัวเองเดาถูกแล้ว
แต่เขากลับเดาไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงได้นึกถึงเขา
เรือและอาหง? เกี่ยวข้องกับเขาอย่างนั้นหรือ?
จี้จิ่งเชินมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน ด้วยแววตาแห่งความสงสัย
เขากลับอยากรู้ถึงเหตุผลที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนขัดเขาไม่ได้ เพียงแต่พยักหน้าลงอย่างอายๆ
เธอเหลือบมองไปรอบๆด้วยใบหน้าแดงๆ หรือก็คือไม่สบตาจี้จิ่งเชินนั่นเอง
และความเลี่ยงไม่ได้นี้ จี้จิ่งเชินจึงต้องยกมือขึ้นแล้วจับหน้าเธอหันกลับมา
“ผมนึกไม่ออกจริงๆว่าผมกับเรือประมงลำนั้นจะเกี่ยวข้องอะไรกันได้ คุณนายจี้ คุณพอจะอธิบายไขความสงสัยนี้ให้ผมได้ไหม?”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืน
เวินเที๋ยนเที๋ยนราวกับได้รับความมอมเมา ภายใต้สายตาที่ให้กำลังใจของเขา จึงพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย
“ฉันกำลังคิดว่า เขาเห็นคุณค่าเรือประมงของตัวเองขนาดนั้น ทั้งๆที่เพียงแค่ทิ้งเรือประมงไป เขาก็สามารถเรียกเฮลิคอปเตอร์กลับบ้านได้แล้ว”
“แต่ว่าเพื่อเรือประมงที่ผุพังลำนั้น เขาเลือกที่จะปฏิเสธ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตา แล้วมองดูสีหน้าท่าทางของจี้จิ่งเชินที่กำลังจินตนาการตามอยู่
เธอเอ่ยพูดต่อ : “ฉันคิดว่า เขาไม่คิดที่จะทิ้งเรือประมงลำนั้นไปไหน นั่นก็เป็นเพราะปลาที่อยู่บนเรือนั่น ครอบครัวของเขาจะต้องเป็นห่วงเขาอย่างแน่นอน ก็เหมือนกับความรู้สึกที่ฉันมีต่อพี่ ยากที่จะตัดขาดได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากนี่เป็นสิ่งที่เธอคิดไว้ทั้งหมด
เพียงแค่พูดความคิดของตัวเองออกมาเพียงเท่านั้น สำหรับเธอแล้วไม่ได้จำเป็นที่จะต้องลำบากใจอยู่แล้ว
เผชิญหน้ากับสายตาที่ลึกซึ้งของจี้จิ่งเชินแล้ว ใบหน้าของเธอนั้นก็เริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง
“ทำไมพี่จ้องฉันแบบนี้ล่ะคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนละสายตาออกพลางเอ่ยถาม : “ฉันพูดผิดตรงไหนหรือเปล่า?”
“เปล่า คุณไม่ได้พูดผิดหรอกครับ”
แขนยาวๆของจี้จิ่งเชินยื่นออกมาแล้วโอบตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
แม้กระทั่งเธอรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวตรงช่วงหน้าอกแล้วแนบเข้ามา
“แต่คุณพูดตกไปหน่อยนึงต่างหาก”
จี้จิ่งเชินลูบผมยาวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ ราวกับวางของเล่นที่เขาชอบมากไม่ลงอย่างไรอย่างนั้น
ได้ยินแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แววตามีความสงสัย
“ฉันพูดอะไรตกไปหรือคะ?”
เธอก็คิดแบบนี้นี่ เธอเอาความคิดทั้งหมดของเธอแชร์กับจี้จิ่งเชิน
ไม่น่าจะพูดอะไรตกไปได้เลยสิถึงจะถูก
ถ้าอย่างนั้นทำไมจี้จิ่งเชินถึงได้บอกว่าเธอพูดตกไปหนึ่งประโยคกัน?
จี้จิ่งเชินมองดูท่าทางที่หวาดระแวงนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขายกมุมปากขึ้น แล้วพึมพำอยู่ตรงข้างหูเธอ
“คุณลืมพูดไป ว่าผมเองก็ไม่คิดจะทิ้งคุณไปไหนอยู่แล้วเหมือนกัน ยากมากที่จะยอมตัดใจปล่อยคุณไปได้”
เขาเป็นส่วนที่ไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะไม่มีทางทำให้เขาแยกออกจากเธอได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอพิงเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างอายๆ
ใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกแทบจะลุกไหม้ขึ้นมาแล้ว
เพื่อกำจัดความลำบากนี้ให้หมดไป เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “ถ้าอย่างนั้นพี่คิดว่าจะช่วยเขาไหมคะ?”
“ช่วยใครครับ?”
“อาหงไงคะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนผละออกมาจากอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน เธอมองสีหน้าท่าทางของเขาอย่างพิจารณา
แต่กลับได้ยินจี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นกับเธอขึ้นมาว่า : “ไม่ใช่ว่าผมก็ส่งคนไปช่วยเขาส่งจดหมายแล้วไม่ใช่หรือครับ?”