เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่818 ความสุข
บทที่818 ความสุข
“ต้องรออีกซักพักนะคะถึงจะเสร็จ พี่ไปเรียกอาหงเถอะค่ะ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ยอม แต่ก็ยังเดินไปทางคฤหาสน์อยู่ดี
ตอนที่ซุปปลาเสร็จแล้วนั้น จี้จิ่งเชินกับอาหงก็เดินกลับมาด้วยกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนตักมาสองถ้วยให้พวกเขา
อาหงรับมาด้วยใบหน้าที่รู้สึกดีใจ
“ขอบคุณครับ”
จี้จิ่งเชินอยู่ทางด้านข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงไม่วางใจ จึงตั้งใจเป่าให้เย็นลง แล้วถึงได้ยื่นซุปถ้วยนั้นส่งให้เขาไป
เป็นอย่างที่คิดไว้ ซุปถ้วยนั้นพอไปอยู่ตรงหน้าของจี้จิ่งเชินแล้ว ก็หายวับไปเสียแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างประหลาดใจ
เธออยากจะรู้ว่าจี้จิ่งเชินทานซุปปลาถ้วยนี้หมดได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
ไม่ได้มีคนจะแย่งเขาเสียหน่อย…..
ไม่ใช่สิ
มองไปทางอาหงที่ทานซุปถ้วยนั้นหมดแล้วเช่นกัน เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงหัวเราะออกมา
แท้ที่จริงแล้วก็กำลังแย่งกันอยู่นี่เอง
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จี้จิ่งเชินก็ยื่นส่งถ้วยเปล่าให้เวินเที๋ยนเที๋ยน
“…………”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบ แล้วตักซุปให้เขาอย่างเชื่อฟัง
“วางใจได้ค่ะ ฉันทำเอาไว้เยอะเลย เดี๋ยวยังมีข้าวต้มปลาที่พี่ชอบอีกนะ”
เธอตักซุปปลาที่ตักขึ้นมาแล้วนั้นวางลงบนโต๊ะไปพลาง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วจึงยกยิ้มขึ้น
เขาไม่ได้รีบไปหยิบเอาซุปปลามาทาน แต่สายตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นกำลังจ้องมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาจ้องแบบนี้ ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
เธอหันข้างด้วยความเคอะเขิน “ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะคะ?”
“ไม่ใช่ว่าคุณถามผมว่าทำไมถึงทานหมดเร็วขนาดนั้นหรอกหรือครับ?” รอยยิ้มปรากฏออกมาตรงมุมปากของจี้จิ่งเชิน พลางย้อนถามเธอ
ใช่ เธอถามเขาเองว่าทำไมถึงได้ทานหมดเร็วขนาดนั้น
แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกันกับที่จี้จิ่งเชินจ้องมองเธอกัน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างไม่รู้สาเหตุ
แล้วก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยขึ้น : “เพราะว่ารสชาติในซุปปลานี้พิเศษมากยังไงล่ะครับ”
น้ำเสียงทุ้มๆที่แสนจะเซ็กซี่นี้ราวกับเสียงเชลโลที่ดูงดงาม พรั่งพรูออกมาจากปากเขาอย่างอ่อนโยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดทบทวน คำว่า “พิเศษมาก” อีกครั้ง
หรือว่าไม่อร่อยอย่างนั้นหรือ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิด แล้วก็ยกซุปปลาถ้วยนั้นของตัวเองขึ้นมาดื่ม
มีรสหวานจริงๆด้วย ความสดของปลาผสมผสานเข้าไปในซุปปลา ทำให้ซุปปลามีรสหวานและห่อหุ้มด้วยความสด ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น อีกทั้งรสชาติก็ดีอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกพอใจกับซุปปลาหม้อนี้ที่ตัวเองทำ
หรือว่าจี้จิ่งเชินไม่ชอบ?
เขาชอบข้าวต้มปลา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชอบซุปปลานี่
“กำลังคิดอะไรอยู่ครับ?”
จี้จิ่งเชินที่เข้าใจเวินเที๋ยนเที๋ยนที่สุดนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะคิดว่าคำพูดของตัวเองนั้นจะถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนตีเป็นความหมายอื่น
ตอนที่พูดในสิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนสงสัยออกมานั้น จี้จิ่งเชินเองก็รู้สึกพูดไม่ออกไปอยู่บ้าง
“พิเศษ ก็เป็นเพราะว่าข้างในนั้นมีความตั้งใจของเที๋ยนเที๋ยนอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ตรงกันข้ามเลย ผมชอบมากต่างหาก”
เขาถอนหายใจออกมา พลางเอ่ยพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน : “ต่อไปไม่ต้องมาแอบเดาความคิดของผมคนเดียวแบบนี้แล้วนะครับ”
ถ้าหากเมื่อครู่นี้ตัวเองไม่เอ่ยถาม เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อาจจะทำในสิ่งที่มันไม่คุ้มค่าไปตลอด
ได้ยินแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงมองเขา
“ขอโทษค่ะ”
“คุณอยากรู้อะไร ก็มาถามผมได้ตรงๆเลย ผมจะบอกทุกอย่างแน่นอนครับ”
จี้จิ่งเชินมองดูการแสดงออกของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรไปทั่วอีกแล้ว
เขาทำได้เพียงแค่เน้นย้ำ “อย่าลืมสิครับ คุณคือคุณนายจี้นะ คือภรรยาของผมจี้จิ่งเชิน”
“เพราะฉะนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร ผมก็พร้อมที่จะแชร์กับคุณทั้งนั้น”
คำพูดที่ปลอบโยนของจี้จิ่งเชิน ทำให้อารมณ์ที่เป็นกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นสงบลงได้
เขาพูดถูก เธอคือคุณนายจี้
เป็นภรรยาของจี้จิ่งเชิน
เป็นคนนั้นที่มีระยะห่างอยู่ใกล้เขามากที่สุด
“ฉันรู้ค่ะ”
“ถ้าชอบก็ทานเยอะๆนะคะ แต่อย่าทานจนอิ่มเกินไปนะ ยังมีอย่างอื่นอีก”
“รับทราบครับ คุณนายจี้”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร พวกเขาก็ควรที่จะแชร์ต่อกัน พูดคุยกัน และเป็นผู้ฟังที่ดีที่สุดของกันและกัน
เพราะว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ต้องจับมือไปด้วยกันไปตลอดชีวิต
คิดเช่นนี้แล้ว มุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็โค้งเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มแสนหวาน
“เป็นภรรยาของผมทำให้คุณดีใจขนาดนี้เลยหรือครับ?”
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มแล้ว จี้จิ่งเชินก็อดที่จะเลิกคิ้วถามขึ้นไม่ได้
แต่กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนย้อนถามกลับไป : “พี่ไม่ดีใจหรือคะ?”
จะไม่ดีใจได้อย่างไร เพื่อวันนี้ ไม่รู้ว่าเขารอคอยมานานแค่ไหนแล้ว
เขาจึงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเงียบๆ ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย “คุณดูไม่ออกใช่ไหม?”
ได้ยินแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เงยขึ้นมองจี้จิ่งเชิน
เขาถือชามเอาไว้ แล้วนั่งลงตรงชายหาด
กิริยาท่าทางที่ดูสูงส่งในวันปกตินั้นไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เห็นเพียงแค่ความเต็มไปด้วยความสุขนี้อยู่บนร่างของเขา
ความสุข?
ความสุขนี้ เป็นสิ่งที่เธอเอามาให้จี้จิ่งเชินใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิด แล้วสายตาก็ค่อยๆละไปยังของจิปาถะที่วางอยู่เป็นกองตรงด้านข้าง
ด้านในมีวัตถุดิบอาหารที่พวกเขาทั้งสามคนจะต้องใช้ มีไม้เท้าที่ใช้สำหรับเดิน และยังมีน้ำจืด กระดานโต้คลื่น ชุดดำน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย
ใช่แล้ว ในบ้านหลังเล็กของพวกเขานั้น ยังมีของใช้ที่ใช้งานบ่อยๆอยู่อีกมาก
ทั้งหมดนี่ ล้วนแต่เป็นผลลัพธ์ที่จี้จิ่งเชินตั้งใจเตรียมเอาไว้
แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าเขารอคอยวันนี้ให้มาถึงมากแค่ไหน รอคอยที่จะใช้เวลาสั้นๆแห่งการฮันนีมูนนี้บนเกาะที่มีแต่พวกเขา
“จี้จิ่งเชิน ขอบคุณนะคะ”
จู่ๆเธอก็เอ่ยขอบคุณจี้จิ่งเชินขึ้นมา ทำให้จี้จิ่งเชินรู้สึกแปลกใจ
“ทำไมถึงขอบคุณผมล่ะครับ?”
จี้จิ่งเชินวางถ้วยลง สายตาที่ลึกซึ้งจ้องมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ขอบคุณพี่ ที่ตั้งหน้าตั้งตารองานแต่งงานของเราเหมือนกันกับฉัน”
เธอควรจะขอบคุณจี้จิ่งเชิน ที่ไม่ได้ปล่อยให้เธอแบกรับทุกอย่างเอาไว้
ในโลกนี้ เรื่องราวที่สวยงามที่สุด คงไม่ต่างกับคนที่คุณรักมากอย่างสุดซึ้งคนนั้น เขาก็รักคุณมากเช่นกัน
เธอรับรู้ได้ถึงความรักที่สุดซึ้งของจี้จิ่งเชิน
เป็นความทรงจำที่ลึกซึ้ง เกิดขึ้นทีละนิดๆ
จี้จิ่งเชินไม่ได้เอ่ยพูดอะไร เพียงแค่จ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่อย่างเงียบๆเท่านั้น
เขาชอบมองเธอแบบนี้ ชอบมองเธอที่คอยล้างมือทำอาหารให้เขา ชอบมองเวลาที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา คอยทำนู่นทำนี่ให้
ทำให้โลกของเขานั้นมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
อาหงถือซุปปลาอยู่ในมือ มองดูทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความปลื้มใจออกมา
มีอาหงกับจี้จิ่งเชินที่ทั้งสองคนสามารถทานได้เยอะแบบนี้ อาหารที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมเอาไว้หมดเกลี้ยงไปแล้ว
เก็บของเสร็จแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินก็ออกไปเดินเล่นด้วยกัน
เดินไปตามชายฝั่งที่ทอดยาว มองวิวที่สวยงามนี้แล้วทำให้ต้องอุทานขึ้น
เนื่องจากกังวลคนที่ส่งจดหมายก่อนหน้านี้จะกลับมา เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินจึงไม่ได้ออกห่างไปไกล
ทั้งสองคนเลือกนั่งลงตรงสถานที่ที่ค่อนข้างแห้ง
เป็นเพราะวันนี้เขาใส่กางเกงขายาว แล้วก็เป็นเพราะมีคนนอกอยู่ด้วย วันนี้จึงไม่ลงน้ำ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเสนอขึ้น : “เรามาสร้างปราสาททรายกันดีไหมคะ?”
“คุณทำเป็น?”
ได้ยินข้อเสนอแนะของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จี้จิ่งเชินจึงมองเธอด้วยความสงสัย
สบตาเขาแล้ว จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ส่ายหน้าอย่างเสียความมั่นใจ “ไม่เป็นค่ะ”
“แต่ใครว่าทำไม่เป็นแล้วจะสร้างไม่ได้กัน?”
เธอนั่งยองๆลง รวบแขนทั้งสองข้างขึ้นแล้วรวมทรายเป็นกองเนินเล็ก “นี่ไม่ใช่ปราสาททรายแล้วหรือคะ?”
จี้จิ่งเชินหัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเสียเลย