เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่823 อยู่ด้วยกันกับเขา
บทที่823 อยู่ด้วยกันกับเขา
จี้จิ่งเชินนั้นรู้สึกพอใจกับวิธีของหงลี่ลี่เป็นอย่างมาก
เขาก้มหน้าลงมองเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ : “เป็นอะไรไปครับ กลัวหลงทาง?”
“นิดนึงค่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลงอย่างอายๆ “ฉันไม่ได้จำทางตอนมาด้วย”
“ผมจำได้ก็พอแล้วล่ะครับ คุณก็แค่ตามผมแค่นั้นเอง”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นมาลูบผมของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วกระซิบลงข้างหูเธอเบาๆ “มีผมอยู่ด้วย ไม่ทำให้คุณต้องหลงทางหรอกครับ”
ประโยคนี้ราวกับเป็นการปลอบโยนเธอ แล้วก็เป็นเหมือนกับคำสัญญาด้วยเช่นกัน
มุมปากของเธอขยับขึ้นเล็กน้อย แล้วเป็นฝ่ายจับมือจี้จิ่งเชินขึ้น
จี้จิ่งเชินจับมือเธอกลับ แล้วพาเธอออกมาจากถ้ำ
“เที๋ยนเที๋ยน ผมรู้สึกว่าวิวที่นี่ไม่เลวเลยนะครับ เป็นเมืองเล็กๆตามแนวชายฝั่งทะเลอีก ไม่ควรจะล้าหลังแบบนี้เลย”
ระหว่างทางกลับ จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
พวกเขาเดินไปรอบๆ บ้านที่นี่สูงสุดก็แค่เพียงสองชั้นเท่านั้น
ผู้คนในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ก็สวมใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างเรียบง่าย
เห็นได้ว่าเศรษฐกิจของที่นี่ยังไม่เจริญ
ได้ยินเพียงแค่นี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้ว่าจี้จิ่งเชินมีความหมายอื่นแฝงอยู่
และยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเข้าใจจี้จิ่งเชิน เขาไม่เคยพูดจาเหลวไหลมาก่อน
เป็นอย่างที่คิดไว้ จี้จิ่งเชินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยพูดขึ้นกับเธอ : “ผมอยากจะมาบุกเบิกพัฒนาที่นี่ครับ”
“บุกเบิก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตาพลางเอ่ยถามเขา : “พี่คิดจะบุกเบิกอย่างไรคะ?”
“ยังเป็นความคิดสมมติอยู่น่ะครับ เรื่องนี้ไม่รีบ ให้ผมจัดการนะ”
จี้จิ่งเชินแสดงสีหน้าที่วางใจให้กับเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าเขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้นัก เพราะถึงอย่างไรครั้งนี้มาฮันนีมูนกัน เรื่องงานทั้งหมดควรจะวางเอาไว้ เธอก็เลยพยักหน้าลงอย่างคล้อยตาม
กลับมาถึงบ้านชาวประมงผู้สูงวัยแล้ว ชาวประมงสูงวัยนั้นรีบเอ่ยขอโทษพวกเขา : “ขอโทษจริงๆนะครับ พวกนั้นกระตือรือร้นกันเหลือเกิน”
“พวกเราเข้าใจค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่เป็นไรเลยค่ะ อีกอย่างลี่ลี่ก็พาพวกเราไปเที่ยวมาหลายที่แล้วด้วย”
พูดถึงหงลี่ลี่แล้ว ชายประมงสูงวัยหน้าแดงขึ้นมา “เด็กนั่นวิ่งกลับมาเองก่อน ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ!”
หงลี่ลี่แลบลิ้นออกมา แล้วกระพริบตาให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างมีชีวิตชีวา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ความหมายของเธอ “เราให้ลี่ลี่กลับมาก่อนเองค่ะ อย่าไปตำหนิเธอเลยนะคะ”
ในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้ถือสา ชาวประมงสูงวัยจึงไม่ได้พูดอะไรออกมามาก
เพียงแค่เหลือบมองไปทางหงลี่ลี่แวบหนึ่ง “ยังไม่รีบไปเตรียมอาหารให้ผู้มีบุญคุณสองคนทานอีก?”
หงลี่ลี่เดินไปยังห้องครัวอย่างว่าง่าย
ชาวประมงสูงวัยพาเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินไปยังห้องที่เตรียมเอาไว้ให้พวกเขา
ห้องไม่ใหญ่นัก แต่มีความเป็นระเบียบเป็นอย่างมาก เห็นได้ว่าชาวประมงสูงวัยใช้ใจด้วยเช่นกัน
“ห้องจะดูไม่สมบูรณ์อยู่บ้างนะครับ ขอให้ทั้งสองคนอย่าได้ถือสา”
ชาวประมงสูงวัยกล่าวขอโทษขึ้น
“ไม่ถือหรอกค่ะ นี่ก็ดีมากแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ ผมไปช่วยลี่ลี่ทำอาหารก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะมาเชิญทั้งสองคนไปทานนะครับ”
“ค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลงเล็กน้อย สายตามองตามชาวประมงสูงวัยออกไป
แล้วก็ได้ยินจี้จิ่งเชินเอ่ยพูดออกมาอย่างดูถูกจากทางด้านหลังเธอ : “ห้องนี้ต่างจากที่ผมเตรียมไว้ให้คุณมากเลยนะครับ”
“ฉันรู้สึกว่าก็โอเคนะคะ ฉันคิดว่านี่คงจะเป็นห้องที่ดีที่สุดที่ทางเขาจะหาให้เราได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมาข้างๆจี้จิ่งเชิน แล้วกอดเขาเอาไว้อย่างเบามือ
เธอรู้ว่าจี้จิ่งเชินไม่ได้อยากมานัก เขาชอบที่จะอยู่ฮันนีมูนกับเธอบนเกาะที่ไม่มีคนมากกว่า
แต่เพื่อความต้องการของเธอ จี้จิ่งเชินจึงไม่ได้ห้ามให้เธอมาที่นี่ และแม้กระทั่งตัวเองก็ตามมาด้วยเช่นกัน
แต่แค่ตรงจุดนี้ ก็มีค่าพอที่จะทำให้เธอรู้สึกซึ้งใจแล้ว
“แล้วอีกอย่างขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกันกับพี่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน
ถูกเขาโอบเอวเอาไว้ เพื่อเพิ่มความลึกซึ้งกับอ้อมกอดนี้
จี้จิ่งเชินบรรจงจูบลงบนหน้าผากของเวินเที๋ยนเที๋ยน ด้วยแววตาแห่งความรักอันแสนลึกซึ้ง
แล้วพวกเขาก็พักอยู่ที่นี่
หลังจากนั้นสองสามวัน เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินก็นั่งเฮลิคอปเตอร์กลับมายังเกาะที่ไม่มีคนอีกครั้ง
กลับมาถึงห้อง เวินเที๋ยนเที๋ยนจัดแจงแยกประเภทสิ่งของที่คนในเมืองนั้นให้พวกเขาเสร็จแล้ว
มีปลาแห้งหมัก คาเวียร์ที่พวกเขาทำเอง และยังมีของตกแต่งที่เป็นก้างปลาอีกจำนวนไม่น้อย
“ไม่ต้องเก็บแล้วล่ะครับ ของพวกนี้คุณต้องการอีกเท่าไหร่ ผมก็สามารถซื้อให้คุณได้”
จี้จิ่งเชินช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาของวางลงไปพลาง แล้วก็เอ่ยพูดขึ้นกับเธอไปด้วย
พูดแบบนี้ก็ถูก
“แต่ของพวกนี้เป็นน้ำใจของพวกเขานะคะ เราก็ควรจะให้ความเคารพพวกเขาด้วยเหมือนกัน”
“ก็ได้ครับ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลงอย่างจำยอม
เก็บของพวกนี้เสร็จแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกเหนื่อยเสียจนไม่อยากจะขยับไปไหนแล้ว
เธอรีบอาบน้ำ แล้วก็หลับลงในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน
วันรุ่งขึ้นตอนที่ตื่นขึ้นมานั้น กลับหาตัวจี้จิ่งเชินไม่เจอแล้ว!
เธอรีบลุกขึ้น แล้วตะโกนร้องเรียก แต่ก็ไม่มีคนตอบรับเธอกลับเช่นกัน
หรือว่าเมื่อคืนนี้จี้จิ่งเชินจะโกรธเธอ?
ไม่หรอก จี้จิ่งเชินไม่ใช่คนขี้เหนียวแบบนั้นเสียหน่อย!
แล้วอีกอย่างถึงแม้เขาจะโกรธ ก็ไม่มีทางที่จะทิ้งเธอไว้คนเดียวที่นี่แบบนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้น แล้วเตรียมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งติดไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า
“อาหารเช้าอยู่ในหม้อนะครับ”
ลายมือนี้เป็นของจี้จิ่งเชิน
หรือบางทีจี้จิ่งเชินมีเรื่องอะไรที่จะต้องไปทำ จึงไม่ทันได้บอกเธอ ดังนั้นจึงทิ้งโน้ตแผ่นนี้เอาไว้ให้
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดอยู่นั้น ก็เปิดตู้เสื้อผ้าออก
ในตู้เสื้อผ้ามีเพียงชุดราตรีสีขาวอยู่เพียงชุดเดียว บนชุดราตรีนั้นมีกระดาษโน้ตแปะเอาไว้
“ชุดที่เลือกเอาไว้ให้คุณครับ”
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังชุดราตรีสีขาวชุดนั้น
ต้องบอกว่าชุดราตรีชุดนี้ฝีมือประณีตมากจริงๆ สไตล์ก็นับว่าไม่เลวอีกด้วย
ตอนที่เธอสวมใส่ชุดราตรีชุดนี้แล้ว ก็ถึงกับตกตะลึงกับตัวเองที่อยู่ในกระจก
ชุดราตรีชุดนี้ราวกับว่าวัดตัวเธอสั่งตัดขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ทุกๆรายละเอียดแสดงให้เห็นรูปร่างของเธอแบบพอดิบพอดี
แต่ใส่ชุดนี้แล้วเธอก็จะไปที่ชายหาดไม่ได้แล้ว
เธอไม่อยากให้ชุดราตรีที่ดูดีแบบนี้ต้องมาเปียกน้ำทะเล
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปยังห้องครัว แล้วทำตามที่จี้จิ่งเชินบอกเอาไว้ เปิดฝากหม้อออก
อาหารเช้าที่อยู่ด้านในนั้นดูดีเป็นอย่างมาก เป็นอาหารออร์เดิฟจานหนึ่ง
เค้กและขนมปังถูกวางเรียงกันเป็นรูปหัวใจ
ทางด้านข้างนั้นมีนมอยู่หนึ่งแก้ว
เธอเอาของพวกนี้ถือออกมา แต่กลับเห็นด้านล่างยังมีกระดาษโน้ตติดอยู่อีกแผ่นหนึ่ง
“ข้างในกระเป๋าปีนเขามีของที่ผมเตรียมเอาไว้ให้คุณอยู่ ผมวางไว้บนตู้รองเท้าแล้ว อย่าลืมพกเอาไว้ด้วยนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองกระดาษโน้ตด้วยความสงสัย
จี้จิ่งเชินคิดจะทำอะไรกันแน่?
เธอเก็บกระดาษโน้ตเอาไว้ และเป็นอย่างที่คิดเธอหากระเป๋าสำหรับปีนเขาที่บนตู้รองเท้าตามที่จี้จิ่งเชินบอกเจอแล้ว
เมื่อเปิดออกดูแล้ว ด้านในมีพลั่วด้ามหนึ่ง และกระดาษโน้ตแผ่นใหม่อีกหนึ่งแผ่น
“เดินออกมาจากห้อง แล้วเดินตรงมา ตรงมาเรื่อยๆจนถึงใต้ต้นไทรที่มีเชือกสีแดงพันเอาไว้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องมองกระดาษโน้ต ในใจแอบคาดเดาบางอย่างเอาไว้
ดูเหมือนกับว่าจี้จิ่งเชินกำลังจะให้เธอตามหาตัวเขา
มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย แววตานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
ไปตามที่จี้จิ่งเชินชี้นำเอาไว้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปตามทางเล็กๆ จนกระทั่งถึงใต้ต้นไทรที่สูงเสียดฟ้าต้นหนึ่ง
บนต้นไทรนั้นผูกเชือกสีแดงเอาไว้ พอเห็นก็รู้เลยว่าเป็นต้นที่จี้จิ่งเชินบอกเอาไว้ต้นนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปมองดู แล้วพบกระดาษโน้ตหนึ่งแผ่นที่ถูกเชือกแดงผูกเอาไว้บนต้นไม้