เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่825 เรื่องอะไรกัน?
บทที่825 เรื่องอะไรกัน?
“คุณหนูคะ ฉันมีเรื่องหนึ่งจะถามคุณค่ะ พวกเราขึ้นไปคุยกันด้านบนนะคะ”
แม่ครัวขยิบตาให้กับเธอ
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าแม่ครัวอยากจะถามอะไร เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงพยักหน้าลง
“จี้จิ่งเชิน ฉันขึ้นไปข้างบนกับแม่ครัวก่อนนะคะ”
เธอหันมาบอกกับจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจเท่าไรนัก และเพิ่งอยากจะรั้งเธอเอาไว้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกแม่ครัวดึงตัวไปแล้ว
พ่อบ้านอยากจะตามไป แต่กลับถูกแม่ครัวขวางเอาไว้
“ผู้หญิงจะคุยกัน จะตามขึ้นมาทำไม?”
คำพูดของเธอนั้นก็ทำให้จี้จิ่งเชินที่กำลังจะก้าวขาตามขึ้นมาชะงักไปได้สำเร็จ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สังเกตเห็นความไม่พอใจของจี้จิ่งเชินเลย เธอยังหันกลับมาโบกมือให้กับเขาอีกด้วยเสียอย่างนั้น
ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาแล้วจะไปทั่วแบบนี้ เขาควรจะอยู่กับเธอบนเกาะที่ไม่มีคนนั่นต่ออีกหลายวันหน่อย!
รับรู้ได้ถึงความไม่คาดคิดนี้ของจี้จิ่งเชินแล้ว พ่อบ้านจึงยืนอยู่ข้างๆอย่างคอยระวัง
ในใจก็นึกบ่นแม่ครัว
ลังเลอยู่พักหนึ่ง พ่อบ้านจึงก้มหน้าลงแล้วเอ่ยถาม : “คุณผู้ชายครับ คุณน่าจะเพลียจากการเดินทาง ผมจะไปเตรียมเสื้อผ้าให้คุณและคุณหนูเปลี่ยนอาบน้ำนะครับ”
“เดี๋ยวก่อน”
จี้จิ่งเชินห้ามเขาไว้
พ่อบ้านกำลังรู้สึกกังวล ได้ยินจี้จิ่งเชินเอ่ยถามต่อ : “ฉันกับเที๋ยนเที๋ยนไม่อยู่ช่วงไม่กี่วันนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
พ่อบ้านครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วส่ายหน้า “ในบ้านไม่มีเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นครับ ส่วนทางบริษัทผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
“พวกหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันล่ะ มีการเคลื่อนไหวอะไรกันเป็นพิเศษไหม?”
พ่อบ้านยังคงส่ายหน้า “ช่วงนี้พวกเธอไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยครับ เงียบมาก”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลงเล็กน้อย เพียงแค่พวกเธอไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรก็ดีแล้ว
“สังเกตทิศทางการเคลื่อนไหวของพวกเธอเอาไว้อย่างใกล้ชิด มีเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆอะไร รีบบอกฉันทันที”
จี้จิ่งเชินออกคำสั่งแล้วกลับไปที่ห้อง
เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ และเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมา กลับเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังยืนใจลอยอยู่ตรงหัวเตียง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะคุยกับแม่ครัวเสร็จ
เธอเล่าเรื่องที่เห็นและได้ยินมาทั้งหมดของตัวเองกับจี้จิ่งเชินบนเกาะให้แม่ครัวฟัง
ทำให้แม่ครัวต้องอุทานด้วยความตื่นตะลึงติดๆกันแล้วถามอะไรเธอเยอะมาก
จนกระทั่งพ่อบ้านมาตามให้แม่ครัวไปเตรียมอาหาร ถึงได้เป็นการช่วยเธอเอาไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่ห้อง เดิมทีคิดว่าจะอาบน้ำ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นรูปแต่งงานรูปใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังห้อง
แทบจะคลุมทั่วทั้งผนังห้อง
รูปแต่งงานรูปนี้ เป็นรูปที่เธอพอใจมากที่สุด
เธอสวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ จี้จิ่งเชินสวมชุดสูท แล้วกอดเธอไว้จากทางด้านหลัง
ความรู้สึกที่ได้พึ่งพิงซึ่งกันและกันแบบนั้น และยังมีสายตาที่เขาจ้องมองแววตาของเธออยู่ด้วยนั้น
ดีมากเสียจนไม่มีคำพูดใดมาเปรียบได้เลยจริงๆ
เพียงแต่ตอนนี้รูปแต่งงานนั้นถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นอีกเป็นหลายเท่า เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินที่ถูกแขวนอยู่บนผนังนั้น สูงเท่ากันกับตัวจริงของพวกเขา
มองดูรูปนี้แล้ว ก็เหมือนกับเห็นตัวเองถูกจี้จิ่งเชินล็อคตัวเอาไว้อยู่ในอ้อมกอดอย่างไรอย่างนั้น
ขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังหน้าแดง กลับได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นจริงๆเข้าเสียแล้ว
“คุณจ้องมองรูปแต่งงานอยู่ตลอด กำลังจะบอกผมเป็นนัยๆว่าให้ผมกอดคุณแบบนี้ใช่ไหมครับ?”
เสียงทุ้มต่ำเซ็กซี่ของจี้จิ่งเชินดังขึ้นข้างหูเธอ
หน้าอกที่อบอุ่นของชายหนุ่ม แนบอยู่ทางด้านหลังของเธอ
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย!”
ใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงไปหมด
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เป็นแบบนี้กัน ทั้งๆที่เธอกำลังรู้สึกตกตะลึงกับรูปแต่งงานขนาดใหญ่นี้อยู่ ถึงได้มายืนมองอยู่ตรงนี้ต่างหาก
ทำไมถึงได้ถูกเขามาพูดเหมือนกับว่ากำลังรอให้เขามากอดเธอแบบนี้ได้กัน……
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยากจะให้ตัวเองหลุดออกจากอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน แต่กลับถูกเขากระชับกอดแน่นขึ้นไปกว่าเดิมอีก
เธอจึงตีลงบนมือของเขาเบาๆ “รีบปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับ”
จี้จิ่งเชินเอาศีรษะซุกลงตรงช่วงท้ายทอยของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วสูดดมเข้าไปลึกๆ
“หอมจริงๆเลยนะครับ”
เขาพูดพลางถอนลมหายใจออกมา
น้ำเสียงนั้นทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งหน้าแดงมากยิ่งขึ้น
“เร็วค่ะ ปล่อยฉันก่อน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลว่าเป็นแบบนี้ต่อไป จี้จิ่งเชินจะพูดอะไรที่ยิ่งทำให้เธอต้องหน้าแดงและหัวใจเต้นแรงออกมาอีก
จี้จิ่งเชินเห็นเธอดูร้อนรน จึงคล้อยตามแล้วปล่อยตัวเธอ มุมปากยกขึ้น “จำเป็นต้องให้ผมเข้าไปอาบเป็นเพื่อนคุณด้วยไหมครับ?”
เธอหันมา เห็นจี้จิ่งเชินกำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำอยู่
ยังจะอาบด้วยกันอีกอย่างนั้นหรือ?
“พี่อาบแล้วไม่ใช่หรือคะ?”
เธอเปิดโปงคำโกหกนี้ของเขาออกมาอย่างมั่นใจ
พูดว่าจะอาบน้ำด้วยอะไรกัน ก็แค่อยากจะหยอกล้อเธอเท่านั่นล่ะมั้ง?
แต่รู้เสียที่ไหนกันว่าจี้จิ่งเชินยิ้มออกมาอย่างมีความหมายลึกซึ้งแบบนั้น
“ถ้าหากเที๋ยนเที๋ยนยอมล่ะก็ อาบอีกครั้งก็ไม่เป็นไรนะครับ”
สบสายตาที่ดำสนิทเหมือนน้ำหมึกคู่นั้นของเขาแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะ ฉันอาบเอง!”
พูดจบแล้ว เธอก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
ราวกับกลัวว่าจี้จิ่งเชินจะตามมาอย่างไรอย่างนั้น
จี้จิ่งเชินจ้องมองเบื้องหลังของเธอ จนกระทั่งประตูห้องน้ำปิดกั้นสายตาของเขาเอาไว้
มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้น จนสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินก็กลับมายังห้องหอของพวกเขาอีกครั้ง
มองไปยังรูปแต่งงานขนาดใหญ่รูปนั้นแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนมักจะรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูกเพราะเหมือนกำลังถูกจ้องมองอยู่
“เปลี่ยนเป็นรูปแต่งงานรูปเล็กได้หรือเปล่าคะ ใหญ่ขนาดนี้…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเสนอแนะแต่กลับถูกจี้จิ่งเชินขัด
“รูปแต่งงานก็ต้องใหญ่หน่อยสิครับถึงจะเห็นได้ชัด”
จี้จิ่งเชินบอกเหตุผลของตัวเองกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เอาให้เห็นได้ชัดขนาดนั้นไปทำไมล่ะคะ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นรูปแต่งงานขนาดใหญ่แบบนี้
โอเวอร์มากกว่าป้ายโฆษณาภาพยนตร์เสียอีก
มุมปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเล็กน้อย “แบบนี้พอเราเข้ามา ก็จะสามารถมองเห็นรูปแต่งงานของพวกเราได้ไงครับ”
“ผมก็จะอารมณ์ดีแบบนี้ตลอด”
“มันจะเตือนผมได้ตลอดเวลาว่าเที๋ยนเที๋ยนเป็นภรรยาของผมแล้ว ใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว”
แววตาที่ลึกซึ้งของเขามองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน ความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงขึ้นมาทันที
แท้ที่จริงแล้วเขาจัดวางรูปแต่งงานรูปใหญ่ขนาดนี้ก็เพราะเมื่อเขาเห็นแล้วเขาก็จะมีความสุขนั่นเอง
พอใจได้ง่ายขนาดนี้เลยหรือ
เธอก็ขัดเขาไม่ลงแล้ว
“นะครับ เอาไว้แบบนี้แหล่ะ จริงๆแล้วก็ดูดีออก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างจำยอม
แต่เธอยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง “ต่อไปถ้าหากมีแขกมาบ้านของพวกเรา เห็นรูปแต่งงานนี้ แล้วจะคิดว่าพวกเราหลงตัวเองกันเกินไปหรือเปล่าคะ?”
ถ้าหากไม่หลงตัวเอง บ้านใครจะเอารูปตัวเองขนาดใหญ่แบบนี้มาแขวนไว้ในห้องนอนกัน?
จี้จิ่งเชินมองท่าทางที่ดูกังวลของเธออย่างขำๆ พลางเอ่ยขึ้น : “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องให้พวกเขามาสิครับ”
“ไม่ให้พวกเขามา?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ
เห็นเพียงเขาพยักหน้าลงอย่างจริงจัง “แน่นอนครับ นี่เป็นห้องหอของพวกเรานะ นอกจากพวกเราแล้วใครก็จะเข้ามาไม่ได้ทั้งนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รู้ตัว : “แล้วพ่อบ้านล่ะคะ?”
“คุณรู้สึกว่าเขาจะขัดไหมครับ?”
จี้จิ่งเชินย้อนถามทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดไม่ออก
ถ้าหากพ่อบ้านกับแม่ครัวรู้เข้า ถึงแม้จะไม่ได้คัดค้าน แต่จะต้องแอบหัวเราะอยู่ในใจอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าจะมองเธออย่างไร…..
“อย่าคิดมากขนาดนั้นสิครับ ผมนี่แทบอยากจะบอกเรื่องการแต่งงานของเราให้ทั้งโลกรู้เสียด้วยซ้ำ เพียงแค่วางอยู่ในห้องนอน นี่ก็เป็นการจำยอมมากที่สุดแล้วนะครับ” จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นอย่างน้อยใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงต้องยอม แล้วตอนที่ล้มตัวลงนอน กลับรู้สึกว่ามีตรงไหนที่ผิดปกติ
แต่ด้วยความง่วงนี้ ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันอยู่ในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชินได้อย่างรวดเร็ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ก็ลงไปทานอาหารกับจี้จิ่งเชินด้านล่าง
ทานไปได้ไม่กี่คำ จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกอยากอาเจียนขึ้นมา
เธอหมุนตัวมา แล้วอาเจียนออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้
“เกิดอะไรขึ้น?”