เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่914 ยิ้มหน่อย จี้จิ่งเชิน
บทที่914 ยิ้มหน่อย จี้จิ่งเชิน
พูดคุยไปได้ซักพัก หล่อนหลีก็เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนดูเหนื่อยๆ เธอกับเวินหงหยู้เลยขอตัวกลับไปก่อน แล้วบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่
ทันทีที่พวกเขาเดินออกไป จี้จิ่งเชินก็รีบให้เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนพัก
พึ่งรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ร่างกายของเธอจึงต้องการการพักผ่อนที่มากพอสมควร
“จี้จิ่งเชิน ฉันอยากเจอลูกของเราจัง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนน้ำตาคลอ เหมือนกับว่าถ้าเธอไม่ได้คำตอบจากปากของจี้จิ่งเชิน น้ำตาของเธอก็พร้อมจะไหลออกมาทันที
จี้จิ่งเชินกลัวว่าเธอจะพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ และกลัวว่าร่างกายที่ดูอ่อนแอของลูกจะยิ่งทำให้เธอไม่สบายใจ เขาลังเลอยู่ในใจครู่หนึ่ง
สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา “คุณตื่นเมื่อไหร่เดี๋ยวผมจะพาไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ดื้อจะไปต่อ เพราะคำพูดของหล่อนหลีเมื่อกี้ยังดังก้องอยู่ในหัวของเธอ
เธอจะต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก่อน จากนั้นถึงจะได้ไปดูแลลูก
“จริงนะ คุณสัญญากับฉันแล้ว……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆผล็อยหลับไป ส่วนปากก็พูดพึมพำไปด้วย
เมื่อเห็นเธอหลับไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกสงสารก็เอ่อล้นขึ้นมาในใจจี้จิ่งเชิน เขายื่นมือออกไปจัดผมตรงหน้าผากของเธอ จากนั้นก็จูบลงเบาๆ
ครั้งนี้เธอนอนหลับไปถึงสี่ห้าชั่วโมง จนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่าบนหน้ามีอะไรบางอย่าง เป็นความรู้สึกนุ่มๆ เธอเลยใช้หัวดันออกอย่างอดไม่ได้ ทันใดเองเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้น
พอลืมตา เธอก็เห็นเด็กทารกที่ถูกห่อด้วยผ้าสีขาวอยู่ตรงหน้า
ใบหน้าเล็กเรียวขาวอมชมพู น่ารักมาก ริมฝีปากเล็กกำลังขยับเม้มขึ้นลงแถมยังมีฟองอากาศออกมาด้วยในบางครั้ง มือเล็กๆทั้งสองข้างโบกไปมา
นี่ลูกใครเนี่ย?
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตื่นเต็มที่
“คุณตื่นแล้วหรอ?”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามอง ไม่ใช่แค่จี้จิ่งเชิน หลวนจื่อกับหมินอันเกอก็นั่งอยู่ข้างหน้าเตียงพร้อมกับมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม
“เที๋ยนเที๋ยน ในที่สุดแกก็ฟื้นแล้วหรอ?ตอนแรกฉันไม่อยากรบกวนแก พรุ่งนี้เลยว่าจะมาเยี่ยมอีกที”
หลวนจื่อพูดไปพลางพลางอุ้มหนูน้อยที่เดิมทีนอนอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาแล้วพูดเสริมขึ้น
“โดว์โดว์คิดถึงแกน่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองจี้จิ่งเชิน เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร จี้จิ่งเชินก็รู้ทันทีเขาพยุงเธอลุกขึ้นแล้วเอาหมอนมารองหลังให้เธอ
“พวกแกมากันตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไมไม่เรียกฉันล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอายนิดหน่อยที่ปล่อยให้พวกเขาเห็นท่าทางตอนเธอหลับลึก เธอมองค้อนไปที่จี้จิ่งเชินทันที
“แป๊บเดียวเอง ฉันเองแหละที่ไม่ยอมให้เขาเรียกแก”
หลวนจื่ออุ้มโดว์โดว์ยื่นไปตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน “เอาล่ะโดว์โดว์ ยิ้มหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหนูน้อยตรงหน้าที่พ่นฟองอากาศออกมาไม่หยุดอย่างมีความหวัง
“เขายังอายุไม่ถึงขวบเลย จะฟังที่พวกแกพูดออกได้ยังไง?”
หมินอันเกอที่อยู่ข้างๆหัวเราะขึ้น
“เธอจะไปเข้าใจอะไร?โดว์โดว์ของพวกเราน่ะชอบเวินเที๋ยนเที๋ยนจะตาย ใช่ไหมเอ่ย?”
หลวนจื่อเหลือบตามองหมินอันเกอ จากนั้นก็หันกลับมาโอ๋โดว์โดว์
โดว์โดว์ก็รู้งานดีมาก โดว์โดว์ยื่นมือน้อยๆของเขาไปจับเส้นผมของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบยื่นนิ้วออกไป หนูน้อยจับไว้แน่นทันที พร้อมกับยิ้มร่าออกมาอย่างคึกคัก
“ดูสิหัวเราะออกมาจริงๆด้วย” หลวนจื่อยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น
ปลายนิ้วของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกมืออันนุ่มนิ่มของหนูน้อยคว้าเอาไว้ เธอรู้สึกใจเต้นเพราะสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆนี้
เธอยังไม่เคยสัมผัสลูกของเธอกับจี้จิ่งเชินเลย ตั้งแต่คลอดออกมาลูกก็อยู่แต่ในตู้อบ เธออยากอุ้มเขามาก เธออยากรู้ว่าตอนสัมผัสเขามันจะรู้สึกแบบเดียวกับตอนนี้รึเปล่า
มืออีกข้างของโดว์โดว์กำลังโบกไปมา เหมือนต้องการให้เวินเที๋นเที๋ยนอุ้ม
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอี้ยวขยับตัวไป เธออยากจะรับหนูน้อยน่ารักคนนี้มาไว้ในอ้อมแขน ทว่าทันทีที่ยื่นมือออกไปก็ได้ยินเสียงกระแอมมาจากข้างๆ
จี้จิ่งเชินนั่นเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยแววตาน่าสงสาร พร้อมกับส่งสายตาขอร้องเขา
“มันจะโดนแผลที่ท้องของคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ยอม เธอจ้องต่อไป
“ก็ได้ งั้นอุ้มแค่แป๊บเดียวนะ”
ไม่มีปัญหา จี้จิ่งเชินไม่มีทางปฏิเสธคำขอของเธอ ยิ่งในช่วงนี้ลูกของพวกเขาอยู่ในตู้อบด้วย เพราะงั้นปล่อยให้โดว์โดว์มาเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่าของความเป็นแม่ของเธอแล้วกัน
หลวนจื่อกับหมินอันเกอที่อยู่ข้างๆมองการเคลื่อนไหวของทั้งสองคน จี้จิ่งเชินเหมือนกลายเป็นผู้บริหารผู้นุ่มนิ่มไปแล้ว ไม่ใช่แค่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำอย่างเดียว นี่ขนาดเธอจะนั่งหน่อยยังไม่ยอมเลย คลั่งรักเกินไปแล้วนะ
“หลวนจื่อ ฉันขออุ้มหน่อยได้ไหม?”
พอได้รับการอนุญาตจากผู้บริหารยศใหญ่ของเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เอ่ยถามหลวนจื่อ
หลวนจื่อก็พลอยดีใจไปด้วย ดูเหมือนว่าโดว์โดว์จะชอบแม่ทูนหัวคนนี้จริงๆ เธอจะน้อยใจแล้วนะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับหนูน้อยมาอย่างระมัดระวัง หัวของโดว์โดว์ซบลงตรงแขนซ้าย จากนั้นเธอก็ใช้มือขวาประคองไว้ที่ก้น
“โอ๋โอ๋”
โดว์โดว์มองเวินเที๋ยนเที๋ยนตาแป๋ว จากนั้นก็หัวเราะเสียงใสขึ้น สองขาก็ดิ้นไปมาอยู่ในผ้าที่ห่อไว้อย่างแรง
จี้จิ่งเชินรีบยื่นมือไปประคองที่หลังของโดว์โดว์ไว้ เพื่อที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้ปล่อยมืออีกข้าง
เที๋ยนเที๋ยนจับแก้มอันนุ่มนิ่มของโดว์โดว์เบาๆ แล้วพูดขึ้นโดยไม่เงยหน้า
“น่ารักจัง แถมยังเป็นเด็กที่แข็งแรงมากๆด้วย”
“ใช่ แถมช่วงนี้เขายังเอาแต่ร้องไม่หยุดเลย”
หลวนจื่อยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข
พูดจบหมินอันเกอก็ยิ้มตาม แค่มองจากด้านข้างก็รู้สึกพอใจมากแล้ว
“อื้ม งั้นเธอก็ให้นมเขาเพิ่มสิ แล้วก็อย่าลืมว่าทุกครั้งที่ให้นมเสร็จจะต้องลูบหลังเขาให้เรอออกมาด้วย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดกำชับ ช่วงที่เธอตั้งครรภ์ เธอได้อ่านหนังสือดูแลเด็กมานิดหน่อย และเธอก็ได้เตรียมพร้อมทุกอย่างมาอย่างเต็มที่
“รู้แล้วน่า ฉันไปเรียนมาโดยเฉพาะแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความอิจฉา
จากนั้นก็พูดขึ้น “จี้จิ่งเชิน ฉันอยากเลี้ยงลูกของเราด้วยตัวเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“ได้สิ”
จี้จิ่งเชินพูดตอบด้วยความเชื่อใจและความรักที่มีต่อภรรยาของเขา
ขอแค่คุณต้องการ ผมก็จะสนับสนุนคุณเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอกลัวและกังวลว่าจี้จิ่งเชินจะให้คนอื่นมาดูแลลูก ตระกูลที่ร่ำรวยก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?เธอเลี้ยงเองกับคนอื่นเลี้ยงมันไม่เหมือนกันหรอก
“เที๋ยนเที๋ยนเธออย่าเครียดไปเลย ตอนนี้ต้องพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรงก่อน ถึงจะดูแลลูกได้”
“อื้ม ฉันรู้”
เที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าหลวนจื่อหวังดีกับเธอ
มีเพื่อนที่จริงใจแบบนี้ นับว่าเป็นโชคดีของเธอจริงๆ
โดว์โดว์ที่อยู่ในอ้อมแขนของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ แล้วก็หยุดกึกลงเมื่อเห็นหน้าจี้จิ่งเชิน
ใบหน้าที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งของจี้จิ่งเชินจะสลายหายไปก็ต่อเมื่ออยู่ตรงหน้าคนรักของเขาเท่านั้น ทว่าในตอนนี้เขากับโดว์โดว์กำลังจ้องหน้ากันอยู่ คิ้วของเขาขมวดแน่น ปากก็เม้มแน่นด้วย
จ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง โดว์โดว์ก็เริ่มเบ้ปาก น้ำตารื้นขึ้นมา
แค่ดูก็รู้แล้วว่ากำลังจะร้องไห้
“ดูสิคุณทำเขาตกใจแล้ว!รีบยิ้มเร็วเข้า” เวินเที๋ยนเที๋ยนสั่ง
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว แล้วค่อยๆฉีกยิ้มออก มุมปากยกขึ้น เผยให้เห็นฟันสีขาวเรียงเป็นแถว
ในความคิดของเขานี่นับว่าเป็นรอยยิ้มที่ดีมากๆแล้ว
“อุแว้——”
โดว์โดว์แหกปากร้องไห้ออกมาทันที