เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่934 แม่ไม่ร้องไห้
บทที่934 แม่ไม่ร้องไห้
กดปุ่มแล้วนั้นทั้งสองคนก็พากันเดินออกไป
จี้หยู๋ชิงนั่งอยู่ตรงที่เดิม แล้วมองไปรอบๆ จนสุดท้ายสายตาก็มองไปยังปุ่มกดนั้น
เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าคนไม่ดีทั้งสองคนนั้นกดปุ่มตรงนี้แล้วประตูก็เปิดออก
จี้หยู๋ชิงฝืนยืนขึ้นมา แต่กลับโซเซจึงล้มลงไปนั่งเหมือนเดิม
เขายังเด็กเกินไป พยายามเขย่งจนสุดปลายเท้าก็ยังคงไม่ถึงอยู่ดี
ตอนที่เขาหันไปมองหาอะไรรอบๆตัวนั้น รถจี๊ปของทหารสองสามคันก็ขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว
รถของหัวหน้านั้นขับเข้าไปด้านใน จี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนมองด้วยความตื่นเต้น
ที่นี่รกร้างมาเป็นเวลานาน วัชพืชงอกขึ้นเต็มไปหมด เหล็กเป็นสนิมอยู่ในกลางพงหญ้า
มีโรงงานที่ดูโอนเอนตั้งสูงตระหง่านอยู่สองสามแห่ง ดูท่าทางเหมือนจะถล่มลงมาได้ทุกเวลาเลยอย่างไรอย่างนั้น
รถเพิ่งจะจอดลง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็กระโดดลงมาจากรถแล้ว แล้ววิ่งเข้าไปในห้องหนึ่งในนั้น จี้จิ่งเชินก็รีบตามหลังไปด้วยเช่นกัน
เขาไม่กล้าเสียงดัง เพราะกลัวจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียก่อน
สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนนัก รักษาความเงียบเอาไว้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หาห้องในโรงงานนั้นอยู่หลายห้องแล้ว จนสุดท้ายก็เห็นร่างเล็กๆของจี้หยู๋ชิงผ่านช่องว่างทางประตูเหล็ก รอยนิ้วมือบนหน้าทำให้หน้าบวมขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเจ็บปวดมาก ความดีใจนั้นทั้งหายไปและกลับมาเต็มไปหมด
“ชิงชิง แม่มาแล้วนะ ไม่ต้องกลัวนะลูก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแนบกับประตูเหล็กพลางเอ่ยพูดเบาๆ
จี้จิ่งเชินโบกมือให้กับนายทหารที่อยู่ทางด้านหลัง แล้วดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมา
ปึง
เสียงดังขึ้นมา นั่นเป็นเสียงที่นายทหารสองสามนายนั้นกำลังพังประตูนั่นเอง
อีกทางด้านหนึ่ง
หล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันกำลังนับเงินสดในถุงอยู่ ได้ยินเสียงดังนี้แล้ว ตกใจเสียจนก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
“นี่มันอะไรกัน?” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นดับบุหรี่ลง
“ไม่ ไม่รู้”
ในใจของหล่อนเจียนีนั้นรู้สึกไม่มั่นใจอยู่บ้าง
“เด็กอยู่ที่ไหน?” ชายคนนั้นยกคอเสื้อของหล่อนเจีนนีขึ้นมา แล้วตวาดออกมาอย่างโหดเหี้ยม
มืออันสั่นเทาของหล่อนเจียนีชี้ไปในห้องนั้น “ทางนั้น ที่บนประตูประผ้าสีแดงอยู่”
ว่าแล้วก็ส่งกุญแจดอกหนึ่งให้กับผู้ชายคนนั้น
ชายคนนั้นหยิบกุญแจมา แล้วก้มตัวลงเดินผ่านพงหญ้าไป ไม่ได้สนใจผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่บนพื้นอีก
เด็กสำคัญกว่า
คนมีเงินที่จะซื้อคนนั้นระบุว่าต้องการเพศชาย
ทำงานนี้แล้ว ก็สามารถจะพักได้อีกซักพักใหญ่
เขาเสี่ยงอันตรายเดินไปทางห้องนั้นอย่างเงียบๆ
หลินเหม่ยหลันผลักหล่อนเจียนี : “รีบไปสิ”
แล้วก็ไม่ได้สนใจเธอแล้วเช่นกัน รีบยืนขึ้นมาแล้วก็วิ่งไปอีกทางหนึ่ง ร่างที่กะเผลกอยู่นั้นทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกเท่าไรนัก
ในมือของหล่อนเจียนีนั้นว่างเปล่า ถุงนั้นถูกหลิวเหม่ยหลันถือไปเรียบร้อยแล้ว
เธอรีบลุกขึ้นมา ร่างอวบอ้วนวิ่งไปนั้นเนื้อกระเพื่อมขึ้นลง ราวกับภูเขาเนื้อที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่อย่างไรอย่างนั้น
แล้วก็ตามหลิวเหม่ยหลันทัน แย่งถุงนั้นมา แล้วกลับวิ่งแซงหน้าหลิวเหม่ยหลันไป
พวกค้ามนุษย์ที่เพิ่งจะให้เงินไปนั้นเดินเข้ามา เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังพังประตูกันอยู่
คิดว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงด่าว่าออกมาเสียงดัง
“พวกแกกำลังทำอะไรน่ะ? เด็กคนนั้นพวกฉันเป็นคนซื้อตัวมานะ ไสหัวออกไปซะ!”
จี้จิ่งเชินหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยแววตาที่เฉียบคม
คนนั้นตกใจจนหน้าซีดขึ้นมาทันที ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาอีก
“จับมันด้วย!” จี้จิ่งเชินออกคำสั่ง
กล้าแตะต้องลูกชายของเขาอย่างนั้นหรือ?
ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?
“ครับ!”
บอร์ดี้การ์ดเข้าไปจับตัวคนนั้นมาอย่างรวดเร็ว
ชายคนนั้นยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
คนกลุ่มนั้นพังประตูกันอยู่พักใหญ่ แต่ประตูเหล็กนี้กลับตั้งอย่างมั่นคงไม่ล้มลงเลย
“ทำอย่างไรดีครับ? แข็งแรงมาก เปิดไม่ได้เลยครับ”
และตอนที่กำลังจะเริ่มพุ่งชนกันต่อนั้น…..
“เดี๋ยวก่อน ประตูเปิดแล้ว…….”
มีคนเอ่ยพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปอย่างละเอียด และเป็นอย่างนั้นจริงๆประตูค่อยๆเปิดออก
จี้หยู๋ชิงตัวเล็กๆยืนอยู่ด้านบนของลังแตกๆสองสามใบ มือนั้นยังคงอยู่ในท่าชูขึ้นสูงเอาไว้เช่นนั้น
ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนกดปุ่มเปิดประตู!
หลังจากที่ฝืนทำเช่นนี้แล้วนั้น เสี่ยวหยู๋ชิงก็ฝืนต่อไปไม่ไหวแล้วจึงล้มหงายลงไปที่พื้น
เขาที่มีใบหน้าที่เลอะเทอะ วินาทีต่อมานั้นก็ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนอุ้มมาอยู่ในอ้อมกอด
จี้จิ่งเชินรีบดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนออก
“ดูก่อนครับว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลั้นน้ำตาเอาไว้ ดวงตากระพริบลง แล้วมองพิจารณาทั้งร่างกายของจี้หยู๋ชิงอย่างละเอียดหนึ่งรอบ
ยังดีที่มีเพียงแค่ใบหน้าที่มีรอยฝ่ามือเพียงเท่านั้น
มีเพียงแค่คนที่เลวร้ายมากขนาดไหนกันถึงจะลงมืออย่างรุนแรงกับเด็กขนาดนี้ได้
ฝ่ามือนี้ตีลงบนร่างของจี้หยู๋ชิงแต่เจ็บที่หัวใจของจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยน
“แม่!”
ได้ยินอีกแล้ว!
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “เก่งมากนะครับ หยู๋ชิงหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ขอโทษนะครับ แม่ดูแลหนูไม่ดีเอง”
น้ำตาไหลค่อยๆไหลพรากลงมาจากขอบตา
เสี่ยวหยู๋ชิงยกมือขึ้นมาอย่างเฉลียวฉลาด นิ้วเล็กๆอ่อนนุ่มนั้นเช็ดน้ำตาตรงหางตาให้เธอ
“แม่ไม่ร้องไห้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดจี้หยู๋ชิงเอาไว้แน่น เธอหยุดร้องไห้แล้วยิ้มออกมา
จี้จิ่งเชินเห็นสองแม่ลูกแล้ว ก็ลูบผมสั้นของลูกชายตัวเองด้วยความชื่นใจ
นายทหารล็อคตัวชายวัยกลางคนเอาไว้แล้วพามาตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
“คุณจี้ครับ จับได้เพียงแค่คนนี้ครับ”
จี้จิ่งเชินมองพิจารณาไล่ตั้งแต่บนลงล่าง พลางเอ่ยถาม :
“แล้วผู้หญิงอีกสองคนนั้นล่ะ?”
เรื่องของผู้ชายคนนั้นแดงออกมาแล้ว ครอบครัวของเด็กดูแล้วก็ไม่ใช่เป็นพวกที่จะหาเรื่องได้เลย เขารีบเงยหน้าขึ้นไปอีกทางหนึ่ง
“ทางนั้น”
“พาไป”
จี้จิ่งเชินเรียกคนมา แล้วก้าวเท้าจะเดินตามไป
“จิ่งเชิน ฉันเองก็จะไปด้วยกับพี่นะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะเห็นผู้หญิงที่ใจร้ายทั้งสองคนนี้ได้รับโทษตามกฎหมายกับตาของตัวเอง
จี้จิ่งเชินย่อตัวลง มือใหญ่วางลงบนไหล่ของจี้หยู๋ชิงเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น :
“คุณอยู่ดูแลจี้หยู๋ชิงเถอะครับ”
เขารู้ว่าพูดถึงจี้หยู๋ชิงแล้ว เธอจะต้องนึกถึงลูกก่อนอย่างแน่นอน จะไม่ไปเสี่ยงอันตรายอีก
“สองคนนั้น ให้ผมจัดการนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้อุ้มจี้หยู๋ชิงขึ้นรถกลับไปก่อน
จี้จิ่งเชินมองตามทั้งสองคนออกไปแล้ว ถึงได้หันมาบอกกับบอร์ดี้การ์ดคนที่อยู่ข้างๆว่า :
“ตามไป จับตามองพวกนั้นเอาไว้”
บอร์ดี้การ์ดพยักหน้ารับคำสั่งแล้วเดินไป
ตามหารอบๆอยู่พักหนึ่ง จี้จิ่งเชินถึงได้ถอดถอนกำลังทหารไป
ตั้งแต่ที่พบว่าจี้หยู๋ชิงหายไปจนถึงตอนนี้ ผ่านไปเป็นเวลาสิบเอ็ดชั่วโมงแล้ว ในช่วงเวลานี้ เขาก็พยายามตามหาอย่างเต็มที่
และยังไม่เสียดายที่จะรับปากความต้องการหนึ่งของตระกูลเวินเอาไว้ด้วยถึงได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังทหารมาแบบนี้
แต่ประสิทธิภาพของกองกำลังทหารนี้ดีมากจริงๆ คำขอนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมากหากเทียบกับการตามหาตัวจี้หยู๋ชิงกลับมา
“เที๋ยนเที๋ยน หยู๋ชิงเป็นยังไงบ้างครับ?”
ตอนที่จี้จิ่งเชินกลับมาถึงคฤหาสน์แล้วก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังอยู่ในห้องกับจี้หยู๋ชิงกล่อมให้เขาหลับอยู่
“ทานอะไรแล้วใช่ไหมครับ?”
จี้จิ่งเชินลูบศีรษะของจี้หยู๋ชิง
“ทานแล้วค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกหน้าสมุดภาพในมืออีกครั้ง
“แล้วในที่สุดลูกอ๊อดก็หาแม่ของตัวเองเจอ แม่พาพวกเขาไปว่ายน้ำในบ่ออย่างมีความสุข แล้ววันนึงลูกอ๊อดก็กลายมาเป็นเหมือนกับแม่กบตัวนั้นที่ทั้งสูงทั้งแข็งแรง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มลงจูบบนหน้าผากของจี้หยู๋ชิงพลางปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน :
“ชิงชิงอยากจะทั้งสูงทั้งแข็งแรงเหมือนคุณพ่อไหมครับ?”
จี้หยู๋ชิงพยักหน้าลง
“ถ้าอย่างนั้นชิงชิงก็จะต้องทานข้าวให้เยอะๆทุกวัน แล้วก็เชื่อฟังคำพูดของคุณแม่กับคุณพ่อด้วยนะครับ”
จี้จิ่งเชินยืนพิงขอบประตู มองดูภรรยากับลูกชายตัวเอง
สามปีก่อนเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าตัวเองจะมีวันนี้ เขาจะสามารถมีภรรยาที่อ่อนโยน และลูกที่ฉลาดแบบนี้
สามารถมองเห็นภรรยาที่กำลังเล่านิทานให้กับลูกฟังภายใต้แสงไฟที่อ่อนโยน หลังจากนั้นก็จูบส่งเข้านอน