เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่938 กรรมตามสนอง
บทที่938 กรรมตามสนอง
ไม่ใช่ว่าเขาบอกว่าเขาอยู่ในวงการนี้หรอกหรือ? แล้วยังบอกอีกว่าไม่กลัวเทวดาฟ้าดินอะไรทั้งนั้น?
จี้จิ่งเชินใช้เท้าข้างเดียวเหยียบลงบนหน้าของชายคนนั้น เขาโน้มตัวลง หรี่ตาเล็กน้อย มุมปากปรากฏรอยยิ้มร้ายออกมา
“แกคิดว่าแกจะสามารถใช้มือเพียงมือเดียวบดบังท้องฟ้าได้อย่างนั้นหรือ? แต่ก็แค่ลูกกระจ๊อกคนนึง ลูกน้องที่มีก็ไม่รู้ตัวกลัวตาย แกคิดว่าแกเป็นจักรพรรดิของแผ่นดินผืนนี้รึไง?”
“แกเป็นแบบนี้ ก็ขู่คนทั่วไปได้เท่านั้น ในโลกนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่แกยังไม่รู้ รู้ไหมว่าทำไมแกถึงได้เกะกะระรานได้อยู่แบบนี้?”
ชายคนที่ใบหน้าแนบกับพื้นนั้น ถูกเหยียบจนปากบิดเบี้ยวน้ำลายไหลออกมา
จี้จิ่งเชินชักเท้ากลับมา แล้วเช็ดพื้นรองเท้ากับกางเกงของเขา
ชายร่างกำยำที่อยู่ข้างๆยื่นส่งกระดาษทิชชูมาให้หนึ่งแผ่น จี้จิ่งเชินรับมา แล้วเอาเช็ดที่รองเท้า แล้วเอากระดาษทิชชูแผ่นนั้นโยนทิ้งไปที่ร่างของชายคนนั้น
“นั่นก็เป็นเพราะ ในสายตาของพวกเขาแล้วแกก็เป็นเหมือนมด ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ที่อันตรายอะไรได้เลย แก ไม่สมควรที่จะได้รับความสนใจจากพวกเขาเลยด้วยซ้ำ”
เพียงแค่สายตาเดียวของจี้จิ่งเชิน บอร์ดี้การ์ดสองสามคนที่อยู่ข้างๆก็เข้ามาลากตัวผู้ชายคนนั้นลงไป
“ส่วนพวกเธอ……”
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นมาอย่างเยือกเย็น
หลิวเหม่ยหลันและหล่อนเจียนีขนหัวลุกไปหมด เป็นอัมพาตอยู่บนพื้น รอประกาศคำตัดสิน
“ฉันอดทนกับพวกเธอมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเธอกลับได้คืบจะเอาศอก”
สายตานิ่งๆของจี้จิ่งเชินนั้นจ้องไปที่หล่อนเจียนี :
“แล้วยังกล้ามาลักพาตัวหยู๋ชิงไปอีก? ใจกล้าดีนี่!”
ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่พื้น ตัวสั่น หน้าซีด
“คุณ คุณรู้แผนของพวกเราได้ยังไง?”
จี้จิ่งเชินยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
“คนพวกนั้น เธอรู้หรือเปล่าว่าไปหาได้มาจากไหน?”
แล้วทันใดนั้นเองหล่อนเจียนีก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอเบิกตาขึ้น เต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“ใช่ ฉันช่วยพวกเธอหาเอง เป็นยังไงบ้าง? ฉันช่วยพวกเธอเอาไว้ได้มากเลยใช่หรือเปล่า? ถ้าอย่างนั้นเธอต้องขอบคุณฉันหน่อยใช่ไหม?”
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ เที๋ยนเที๋ยนไม่ได้มารู้เรื่องด้วย การขู่ของพวกเธอ ถูกฉันขวางเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”
สีหน้าของหล่อนเจียนีบ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ และความอับอายเป็นอย่างมาก
เวลานี้ ผู้ชายที่อยู่ตรงโซฟาในห้องนั้นได้ถอดกระโปรงออกเรียบร้อยแล้ว ภายใต้กระโปรงนั้นเป็นชุดกีฬานั่นเอง
เขาที่มีรูปร่างผอมถูกจัดการแต่งตัวให้เป็นเหยื่อล่อ แล้วก็โชคดีเช่นกันที่ผู้หญิงโง่สองคนนี้นัดสถานที่เป็นที่นี่ ในKTVที่มีแสงสลัวๆเสียงดังๆ เหมาะสมกับการใช้กลอุบายแอบยัดไส้แบบนี้ที่สุด
เขายืนอยู่ข้างๆ แล้วมองผู้หญิงสองคนที่อยู่ที่พื้นอย่างเย็นชา
หล่อนเจียนีนึกได้ถึงที่พึงเพียงหนึ่งเดียวของเธอตอนนี้
“ไม่ไม่ไม่ คุณจะมาแตะต้องฉันไม่ได้ ถ้าหากคุณแตะต้องฉัน คุณปู่ฉันจะไม่ยอมปล่อยคุณไปแน่หรอกนะ”
“หล่อนเหลือย? เขาสัญญาตั้งนานแล้วว่าจะไม่สนใจกับความเป็นความตายของพวกเธอ ถ้าหากเป็นฉัน ฉันก็จะทำแบบนี้ ตัดขาดความสัมพันธ์ไปเลยยิ่งดี”
“ไม่ คุณปู่ไม่ทำแบบนั้นหรอก”
หล่อนเจียนีไม่อยากจะเชื่อ เธอยังจำได้ว่าตอนเด็กๆหล่อนเหลือยรักเธอมากขนาดไหน
และก่อนหน้านี้ไม่นาน หล่อนเหลือยเป็นคนออกหน้ามาช่วยเธอเองอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนคงจะไม่สามารถที่จะทำเป็นไม่สนใจความรู้สึกของหล่อนหลีได้อยู่แล้ว
ไม่มีทาง
ไม่มีพ่อแล้ว คุณปู่ก็จะมาทิ้งพวกเธอแบบนี้อีกไม่ได้
จี้จิ่งเชินเห็นว่าเธอยังไม่ยอม จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโบกหน้าจอนั้นต่อหน้าหล่อนเจียนี
“นี่เป็นข้อความที่ ‘คุณปู่’ของเธอส่งมาให้ฉัน จะให้ฉันอ่านให้ฟังไหม? ‘ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันหล่อนเหลือย ตัดขาดความสัมพันธ์กับหล่อนเจียนี ความเป็นความตายของเธอไม่เกี่ยวข้องกับฉัน ฉันเองก็จะไม่สนใจอีก’ เป็นอย่างไรบ้าง? ยอมเชื่อแล้วหรือยัง”
มือทั้งสองข้างของหล่อนเจียนีชูขึ้นมา อยากจะไปจับโทรศัพท์มือถือเพื่อดูให้ชัดเจน แต่จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น เธอจึงได้แต่โผเข้าหาความว่างเปล่าแทน
หลิวเหม่ยหลันร้องห่มร้องไห้ออกมา
“ขอโทษ ขอโทษ ยกโทษให้พวกเราอีกครั้งนะ”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ฆ่าพวกเธอหรอก สกปรกมือฉันเปล่าๆ ฉันก็แค่หนามยอกต้องเอาหนามบ่งเท่านั้นเอง”
จี้จิ่งเชินหัวเราะแล้วมองผู้หญิงสองคนนั้นที่อยู่บนพื้นอย่างไม่ได้รู้สึกเห็นใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ถ้าหากเขาใจอ่อน ตอนนี้คนที่ร้องไห้ก็คงจะเป็นเที๋ยนเที๋ยนของเขา
“ค่อยๆรับรู้ก็แล้วกัน”
พูดจบแล้ว จี้จิ่งเชินก็หันหลังเดินออกไปทางด้านนอก
ประตูห้องนั้นถูกปิดลงอีกครั้ง ชายร่างกำยำเหมือนเหล็กเฝ้าอยู่ตรงด้านนอกประตู
ภายในห้อง หล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันเบียดเข้าหากัน มองดูคนที่เป็นเอดส์ห้าคนนั้นค่อยๆล้อมรอบเข้ามา แล้วพลางตะโกนด่าว่าออกไปด้วย
การคุกคาม ข่มขู่ คำหยาบคาย ออกมาจากปากของคนที่เคยเป็นหญิงสาวผู้สูงส่ง แต่กลับยังคงไม่สามารถขัดขวางการเข้าใกล้ของคนเหล่านั้นได้
ตอนที่แขนที่มีน้ำหนองไหลออกมาสัมผัสโดนขาของเธอนั้น ในที่สุดหล่อนเจียนีก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“อย่าดิ้นรนไปเลยนังพวกบ้า”
“ตัวแกเองก็ไม่ใช่ว่าเหมือนกันหรอกหรือ?”
ผู้ขายคนหนึ่งกำลังผลักไส
“กลัวอะไรล่ะ? นังผู้หญิงบ้าสองคนนี้กรรมตามสนองแล้วไง”
“ฉันก่อนนะ”
“ถ้าอย่างนั้นคนนี้ของฉันแล้วกัน”
เสียงด่าทอ เสียงกรีดร้อง เสียงตะโกนร้องไห้ดังก้องภายในห้องKTVนี้ แต่ไม่มีคนกล้าเข้าไปถาม ต่างก็พากันเดินหนีไปจากห้องนั้นหมด
จี้จิ่งเชินกลับมาที่คฤหาสน์ แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนถึงได้กลับมาข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นอนหลับสนิทแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เหยียบเข้าไปในห้องนั้นเลย แต่ก็ไม่อยากจะกลับไปด้วยกลิ่นแบบนี้
ล้มตัวลงนอนลงเบาๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนหาที่มาของความร้อนนี้มาแนบเอาไว้อัตโนมัติเหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆตัวหนึ่ง
“ทำไมเพิ่งกลับมาล่ะคะ? ที่บริษัทมีเรื่องเยอะเลยใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลง น้ำเสียงที่ดูเกียจคร้านนี้มีเสน่ห์อย่างไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้เลย
“อืม รายการที่ร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศครั้งที่แล้วมีปัญหาน่ะครับ ไม่ต้องกังวลนะ แก้ปัญหาไปเรียบร้อยแล้วล่ะ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้พูดโกหก วันนี้จัดการงานที่บริษัทจริงๆ เพียงแต่หลังจากเขาเลิกงานแล้วก็ไปที่อื่นมาเพียงเท่านั้น
เขาไม่อยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ เรื่องพวกนี้ให้เขาเป็นคนทำก็พอแล้ว
“”อืม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโอบคอของเขาเอาไว้ จัดการกับท่านอน แล้วหาตำแหน่งที่สบาย แล้วก็ตกเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันอีกครั้ง
โดว์โดว์อายุหนึ่งขวบแล้ว โตขึ้นมาน่ารักเป็นอย่างยิ่ง มีนิสัยตรงกันข้ามกับจี้หยู๋ชิงโดยสิ้นเชิง
ถ้าหากโดว์โดว์เป็นหมาพันธุ์ปั๊กที่ร่าเริง ถ้าอย่างนั้นจี้หยู๋ชิงก็เป็นแมวเปอร์เซียที่สงบนิ่งและฉลาด นิสัยทั้งสองคนนั้นส่งเสริมกันและกันเป็นอย่างมาก
ตอนที่อยู่ในท้อง หล่วนจื่อกับเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เคยพูดกันเอาไว้ว่าถ้าหากเป็นผู้ชายคนกับผู้หญิงคน ก็จะให้พวกเขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันตั้งแต่เด็ก
ตอนนี้ดูแล้วโดว์โดว์จะเต็มใจมาก แต่จี้หยู๋ชิงนั้นดูจะยังไม่แน่นอน
“น้องชิงชิง อ่ะให้” โดว์โดว์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็กๆแล้วเอาตุ๊กตาที่อยู่ในมือยื่นส่งให้กับจี้หยู๋ชิง
นั่นเป็นตุ๊กตาที่เธอชอบมากที่สุดเลยนะ
โดยปกติแล้วคนอื่นจะแตะยังแตะไม่ได้เลย ครั้งนี้ไม่คิดว่าเธอจะเป็นฝ่ายให้เอง ดูแล้วเธอคงจะชอบเสี่ยวหยู๋ชิงมากจริงๆ
จี้หยู๋ชิงผลักมือเธอออก แล้วเล่นอิฐของเด็กเล่นที่อยู่ในมือต่อ
และไม่นาน อิฐของเล่นนั้นก็ได้เป็นรูปเป็นร่างกลายเป็นตึกเล็กๆสามชั้นขึ้นมา
จี้หยู๋ชิงมองดูตึกเล็กๆตรงหน้า แล้วเอียงศีรษะคิดว่าจะต้องแก้อีกซักหน่อย
โดว์โดว์ถูกทำให้เหงาหงอยไปแล้ว เธอเบะปาก แล้วก็เดินเข้าไปหยิบอิฐของเล่นขึ้นมาหนึ่งตัว แล้วเริ่มสร้างขึ้นมาข้างๆตึกเล็กๆอันนั้น
“น้องดูสิ”
โดว์โดว์เอา”ผลงานชิ้นเอก”ของตัวเองให้จี้หยู๋ชิงอย่างพอใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาอย่างรอคอยการชื่นชม
อิฐของเช่นของเธอนั้นวางซ้อนกันทีละตัว จัดวางไม่ได้เรียบร้อยเท่าไรนัก แค่ดูก็รู้แล้วว่าเน้นความสูงไม่ได้เน้นความมั่นคง
สูงเท่ากับที่จี้หยู๋ชิงสร้างเอาไว้จริงๆ
แต่ดูงกๆเงิ่นๆ ยังไม่ถึงห้าวินาที ที่เห็นก็เกือบจะล้มอยู่แล้ว
ถ้าหากล้มลง จะต้องโดนร่างของจี้หยู๋ชิงอย่างแน่นอ