เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่943 รับลูกศิษย์
ท่านเปิงกับท่านจางมองตากัน
ท่านจางเอ่ย “ไม่สู้ให้อาจารย์ของเธอแนะนำงานในวังให้ สำหรับเขาแล้วเป็นแค่เรื่องง่ายๆ ตามความสามารถของเธอแล้ว ต้องไม่มีปัญหาแน่”
ท่านเปิงพยักหน้า “ใช่แล้ว ในวังได้รับวัตถุโบราณเยอะมาก มาได้ตลอดเวลา”
“ฉันคิดแล้ว ฉันอยากลองทำด้วยตัวเองก่อน เริ่มตั้งแต่ต้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมีความคิดของตัวเองในใจแล้ว
แม้ว่าที่วังจะสามารถเพิ่มประสบการณ์ได้ แต่ก็ยังผูกมัดอยู่เล็กน้อย เธอชินกับอิสระแล้ว ยังอยากทำงานตามใจตัวเองต้องการ
พูดอีกอย่าง พึ่งคนอื่นไม่สู้พึ่งตัวเอง
“ฉันอยากเรียนเทคนิคบูรณะโลหะ”
เธอพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
ท่านเปิงพยักหน้า
“อืม ด้านเครื่องเคลือบเธอเชี่ยวชาญมากแล้ว แต่บูรณะโลหะ……”
ท่านเปิงลังเลเล็กน้อย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบูรณะเครื่องเคลือบ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูรณะโลหะ เขารู้เพียงความรู้เล็กน้อย แต่ไม่ชัดเจน ยังไม่ถึงขั้นที่จะสอนคนอื่นได้
“อ๊ะ ฉันนึกออกคนหนึ่ง”
ท่านจางตาเป็นประกายขึ้นมาทันที นึกถึงคนหนึ่งที่เขาบังเอิญเจอตอนเก็บรวบรวมวัตถุโบราณที่มีทักษะสูงในการบูรณะโลหะ
“ฉู่เจี้ยนอัน。”
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินชื่อนี้ ก็รู้สึกว่าคุ้นหูเป็นอย่างมาก แต่กลับนึกไม่ออกว่าเขาคือใคร
จนกระทั่งท่านเปิงบอกว่าฉู่เจี้ยนอันทำงานอยู่ในพระราชวังหลวงกู้กง เธอถึงนึกออกว่า เธอกับคนคนนี้มีแหล่งที่มาเดียวกัน
เมื่อก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนบูรณะเครื่องเคลือบชิ้นหนึ่ง ในนั้นมีส่วนหนึ่งที่เป็นโลหะ ตอนนั้นเคบหาวัสดุมาบ้างแล้ว สอบถามอาจารย์หลายท่าน หนึ่งในนั้นมีอาจารย์ฉู่เจี้ยนอันคนนี้
ตอนนั้นคำแนะนำของเขาช่วยงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เป็นอย่างมาก
“ท่านจางคุณรู้จักเขา?”
ท่านจางยังไม่ทันได้พูดอะไร ท่านเปิงก็แย่งพูดขึ้นมา
“เหอะ ใครไม่รู้จักเขาบ้าง ทั้งวังแทบจะเป็นสวนดอกไม้หลังบ้านเขาเองแล้ว เธอไม่รู้หรอกว่าเขามีความกระตือรือร้นที่จะเก็บสะสมวัตถุโบราณแค่ไหน แม้กระทั่งเสียหายแล้วก็ไม่เว้น ตัวเองก็บูรณะไม่เป็น ได้แต่หาผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคลือบ โลหะ แม้กระทั่งกระดาษภาพวาด แผ่นป้ายไม้ ไม่ว่าด้านไหนๆ เขาก็ล้วนรู้จักอยู่หลายคน”
วังแทบจะเป็นบ้านของตัวเองแล้ว นั่นไม่ได้แปลว่าไม่ธรรมดาหรอกหรือ
ท่านจางแค่นหัวเราะในลำคออย่างถ่อมตัว ยกมือคำนับ
“ยอมแล้วๆ ดีจริงๆ”
ท่านเปิงเอ่ยต่อ “แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ การแข่งขันระดับประเทศที่จะมาถึงนั้น ถ้าหากเธออยากไป ทางที่ดีเริ่มลงมือทำในวังจะดีที่สุด”
ท่านจางพยักหน้า รับประกันให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน ถือสิทธิ์ผูกขาดการเป็นตัวกลางติดต่อร่วมงานกันให้
เมื่อให้ท่านจางติดต่อกับฉู่เจี้ยนอันเรียบร้อยแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะไปเยี่ยมเยียน
ท่านจางเอาใจใส่เรื่องนี้มากจริงๆ ไม่กี่วันก็นัดฉู่เจี้ยนอันได้สำเร็จ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้รับที่อยู่โดยละเอียดของฉู่เจี้ยนอันแล้วไปหา ช่างไม่บังเอิญที่ฉู่เจี้ยนอันไม่อยู่
“คุณคือ?”
คนงานในลานบ้านหลายคน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาว ขมวดคิ้วสอบถาม
ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนทั่วไปจะเข้ามาได้
“ฉันมาหาฉู่เจี้ยนอันอาจารย์ฉู่ เขาอยู่ไหม?”
“อาจารย์ของฉันออกไปธุระ คุณมีธุระอะไรกับเขา?”
คนที่มาหาอาจารย์ของเธอนั้นเยอะมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถได้สมดั่งใจหวัง
“ฉันมาหาอาจารย์ฉู่เพื่อเรียนรู้เทคนิคบูรณะโลหะ ฉันชื่อเวินเที๋ยนเที๋ยน”
หญิงสาวคนนั้นเข้าใจได้ในทันที ใช้มือชี้เวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วพูดเสียงดังขึ้น
“ฉันจำคุณได้ ลูกสาวบุญธรรมของประธานกรรมการของบริษัทตระกูลหล่อนใช่ไหม? ใช่แล้ว ตอนนี้ยังเป็นภรรยาของประธานบริษัทเอ็มไอกรุ้ปอีกด้วย จุๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วมองผู้หญิงคนนั้นพูดเองเออเอง
“คุณนายไม่ใช้ชีวิตมีความสุขกับสิทธิพิเศษของตัวเอง จะมาลำบากกับพวกเราถึงที่นี่ทำไมกัน? งานบูรพาวัตถุโบราณไม่ใช่ว่าจะเรียนได้ง่ายๆ ขนาดนั้น”
ผู้หญิงคนนั้นไม่ฟังไม่อ้อมค้อม ประโยคถากถางออกมาจากปากคอเราะรายเรื่อยๆ
ที่แทบอยากที่จะเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“นี่เป็นงานอดิเรก ฉันชอบบูรพาวัตถุโบราณ ก่อนหน้านี้ฉันเคยเรียนบูรณะเครื่องเคลือบกับท่านเปิงมาบ้าง ตอนนี้อยากเรียนบูรณะโลหะกับอาจารย์ฉู่ ฉันคิดว่าไม่ลำบาก เพราะฉันชอบงานนี้”
“เหอะๆ งานอดิเรก?”
หญิงสาวคนนั้นหัวเราะเยาะ แล้วรีบเอ่ยเสริมขึ้น
“มีแค่คนมีเงินอย่างพวกคุณ ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องกินเรื่องใช้ ถึงได้เอางานกลายเป็นงานอดิเรกได้”
จริงๆ แล้วเมื่อคิดอย่างละเอียด ประโยคนี้ก็ยังพอมีเหตุผลอยู่บ้างเล็กน้อย
ตอนที่ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพ เธอแทบจะไม่มีเวลาอะไร และยิ่งไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานเพื่องานอดิเรกเพียงอย่างเดียว
เพียงแค่หญิงสาวมีอคติกับเวินเที๋ยนเที๋ยน คำพูดที่พูดออกมายิ่งเปลี่ยนไป
ความรู้สึกยั่วยุนั้นมากไปหน่อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าคงจะเป็นลูกศิษย์ของฉู่เจี้ยนอัน จึงไม่อยากทะเลาะอะไรกับเธอ ฉู่เจี้ยนอันน่าจะมีธุระจริงๆ
“ในเมื่ออาจารย์ฉู่ไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะมาเยี่ยมใหม่”
พูดจบเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หมุนตัวจากไป
เธอกลัวว่าถ้าฟังผู้หญิงคนนั้นพูดต่อไปอีกอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้
ต่อให้เป็นคนอารมณ์ดีแค่ไหน ถูกปฏิบัติด้วยแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ระเบิดได้เหมือนกัน
ต่อให้เป็นมนุษย์ดินปั้นก็ยังรู้จักโมโหเป็น
ยิ่งไปกว่านั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนยังได้รับความทะนงต่อจากหล่อนหลีมา แม้ว่าเวลาปกติจะไม่แสดงออก แต่ในช่วงเวลาสำคัญก็สามารถเห็นได้ถึงความเข้มแข็งและทรหดนั้นเหมือนกับหล่อนหลีราวกับแกะ
“ชิ”
หญิงสาวแค่นหัวเราะเหยียด หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“หยี่อัน เมื่อกี้ใครมาเหรอ?”
หลายคนออกมาจากห้องเป็นแถวยาว ได้ยินเสียงคนคุยกันเมื่อสักครู่ จึงเอ่ยถามทันที
“ก็คุณนายตระกูลจี้ที่เคยออกโทรทัศน์แข่งบูรณะเครื่องเคลือบกับคนอื่นก่อนหน้านี้น่ะสิ มาหาอาจารย์ของฉัน”
สีหน้าของหญิงสาวผ่อนคลายลงเล็กน้อย
หลายคนข้างหน้าผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในวัง ไม่ว่าจะด้านไหนๆ ก็มี ล้วนมีฐานะเดียวกันกับอาจารย์ของเธอ
“เวินเที๋ยนเที๋ยนคนนั้น?”
“ฉันเคยได้ยินว่าคุณหนูคนนี้ ตอนอายุยังน้อยก็เรียนบูรณะเครื่องเคลือบจากท่านเปิงที่ฝีมือยอดเยี่ยมคนนั้น ก็ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ”
“เธอ? ไม่แปลกเลยที่ฉู่เจี้ยนอันตาแก่หัวแข็งคนนั้นถึงได้ทำลายกฎแล้วรับลูกศิษย์สองคนในเวลาเดียวกัน”
“นี่ไม่ใช่ว่ารับหยี่อันแล้วเหรอ? ทำไม……”
คนพูดหันมามองหญิงสาวที่ยังยืนอยู่หน้าทุกคนแล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่ได้ยุติบทสนทนา แม้ว่าจะลดเสียงลงไปเยอะแล้ว แต่หญิงสาวก็ยังได้ยินทั้งหมด
“ตาแก่คนนั้นก็พอใจคุณหนูที่ชื่อ ‘เวินเที๋ยนเที๋ยน’ คนนี้มาก เลยตกลงรับเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นลูกศิษย์”
ฉู่เจี้ยนอันมีนิสัยแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่ง ก่อนหน้านี้ไม่รับลูกศิษย์ ยืนหยัดอยู่หลายปี อยู่ๆ ปีนี้ก็เปลี่ยนความคิด รับคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
หญิงสาวคนนี้ชื่อเซียวหยี่อัน เป็นลูกศิษย์ที่ฉู่เจี้ยนอันรับเข้ามาใหม่ล่าสุด เข้ามายังไม่ถึงสองเดือน
ฝีมือด้านการบูรณะโลหะนี้ ค่อนข้างที่จะซับซ้อนเป็นอย่างมาก ต้องการเรียนจนจบการฝึกฝนจากอาจารย์ อย่างน้อยก็สองปี อย่างมากก็สามปี หากมือเท้าซุ่มซ่าม เรียนทั้งชีวิตแต่ทักษะย่ำเท้าอยู่กับที่ก็มี
นี่ตัวเองพึ่งจะเข้ามา ฉู่เจี้ยนอันก็ตกลงจะรับเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นศิษย์อีก เซียวหยี่อันยากที่จะเลี่ยงความรู้สึกไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในใจ