เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่951 ตาต่อตาฟันต่อฟัน
เห็นว่าเซียวหยี่อันยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับผิด และยังคงยืนยันว่าจะแข่ง อาจารย์ฉู่จึงถอนหายใจออกมา และทำได้เพียงแค่ยินยอม
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็แข่งเหมือนปกติแล้วกัน ถึงตอนนั้นทุกคนก็สามารถเข้าร่วมได้ แล้วก็สามารถใช้การแข่งขันครั้งนี้มาพิจารณาไตร่ตรองระดับของตัวเองด้วย เพื่อเป็นการวางแผนในอนาคตต่อไป”
ทุกคนต่างก็พยักหน้าลง
แต่นับตั้งแต่ที่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนซ่อมแก้วใบนั้นแล้ว ในใจของพวกเขาก็รู้ถึงผลการแข่งขันครั้งนี้แล้ว จึงไม่ได้ดึงดันอะไรอีก
เพียงแต่จากที่เซียวหยี่อันดูแล้วนั้น ที่ครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถทำได้ก็เป็นความบังเอิญเพียงเท่านั้น
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเธอ เธอเองก็จะต้องสามารถทำหน้าที่นี้ได้สำเร็จอย่างแน่นอนเหมือนกัน!
นอกจากนี้ ทำไมเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้โชคดีขนาดนี้ ประจวบเหมาะกับจับได้แก้วหนึ่งใบที่ซับซ้อนที่สุดในสถานการณ์นี้?
ก่อนหน้านี้จะต้องมีการนัดแนะกับ อาจารย์ฉู่เอาไว้แล้วอย่างแน่นอน!
หลังจากที่อาจารย์ฉู่พูดเสร็จแล้วนั้น ก็หมุนตัวกลับออกไป
สั่งให้ทุกคนเตรียมตัวเองให้พร้อม หลังจากนั้นสองวันก็จะเริ่มการแข่งขันแล้ว
ตัวคนเพิ่งจะเดินไปนั้น คนอื่นๆก็พากันมาล้อมรอบเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น
“เธอเก่งเกินไปแล้วจริงๆ เธอรู้ได้ยังไงว่าในแก้วนั้นมีรอยแตกอยู่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาบางๆ หลังจากที่ได้รับการยอมรับจากอาจารย์ฉู่แล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
แบบนี้จะไม่ได้ซ่อมวัตถุโบราณ ทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
เธออธิบาย : “ฉันเคยศึกษาแก้วนั้นมาน่ะ แนวโน้มทิศทางของรอยแตกเล็กๆน้อยๆนั่นไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรนัก ก็เหมือนกับเดิมพันหิน รอยแตกข้างบนก็ไม่ได้ขยายออกไปข้างนอก แต่กลับอยู่ด้านใน เพราะฉะนั้นฉันก็เลยเดาว่าด้านในจะต้องยังมีรอยแตกที่อื่นอีกแน่นอน และหลังจากที่ใช้แสงสว่างหานั้น ก็เจอจริงๆ ”
ทุกคนได้ยินแล้ว ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความตกตะลึง : “ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็เก่งมากเกินไปแล้วเหมือนกัน ถ้าหากเป็นฉันล่ะก็ ฉันก็คงไม่เจอรอยแตกพวกนี้เลยด้วยซ้ำ!”
“ยังดีนะที่ตอนนั้นฉันไม่ได้เลือกได้อันนี้!”
“ถูก ถูก ฉันเห็นการซ่อมแซมแล้วนี่นับว่าเป็นระดับปรมาจารย์เลยนะ แล้วมันก็เกินกำลังมาก แต่จากระดับมาตรฐานของเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ครั้งนี้จะต้องสามารถเอาชนะแล้วเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติได้อย่างแน่นอน”
ทุกคนล้วนแต่พยักหน้า ตอนแรกเริ่มนั้นทุกคนก็รู้สึกสงสัยกับความสามารถของเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ตอนนี้กลับรู้สึกนับถือเป็นอย่างมาก มิน่าล่ะระดับปรมาจารย์ในการบูรณะ ซ่อมแซมหลายๆคนที่ทำงานอยู่ในพระราชวังเมื่อพูดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ล้วนแต่พากันชื่นชมไม่ขาดปาก
นี่คงจะเป็นสาเหตุนั้นใช่ไหม?
“นี่มันเรื่องใหญ่อะไรที่ไหนกัน?”
และเวลานี้เองกลับมีเสียงฮึดฮัดแสดงความไม่พอใจออกมา
ทุกคนมองไป เห็นเซียวหยี่อันยืนอยู่ทางด้านนอกกำลังมองพวกเขาด้วยความไม่พอใจ
“คนอื่นพูดอะไรพวกเธอก็เชื่อ หลอกง่ายจริงๆนะ”
“เธอหมายความว่าอะไร?” มีคนย้อนถามกลับไปอย่างไม่พอใจ
เซียวหยี่อันหัวเราะเยาะขึ้นมา
“ทุกคนก็รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกับท่านอาจารย์สองสามท่านที่พระราชวังนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าต้องมีคนบอกเรื่องปัญหาของแก้วนั่นกับเธอก่อน เธอถึงได้ตั้งใจที่จะเลือกแก้วไปนั้น นี่มันเป็นเรื่องใหญ่อะไรกัน? ก็เพียงแค่ซ่อมรอยแตกขึ้นมา ใครๆก็ทำได้ทั้งนั้นแหล่ะ พวกเธอไปเห็นทักษะที่ยอดเยี่ยมของเธอจากไหนกัน?”
เธอพูดออกมาอย่างไม่พอใจ เสียงสูงขึ้นอย่างดูถูก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเซียวหยี่อันซ่อมแซมแก้วก่อนหน้านี้ แล้วขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เหมือนกับที่อาจารย์ฉู่พูดเอาไว้ แก้วในมือของเธอนั้นถึงแม้ว่าดูภายนอกแล้วจะมีการบูรณะ ซ่อมแซมได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก แต่ด้านในส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มีการซ่อมแซมเลย
หรือบางทีเธอคิดอยากจะซ่อมให้เสร็จภายในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อเร่งเวลา จึงทำเพียงแค่งานซ่อมแซมพื้นผิวภายนอกเท่านั้น นี่คือข้อห้ามของนักบูรพาวัตถุโบราณ
มิน่าล่ะเมื่อกี้อาจารย์ฉู่ถึงได้โมโหขนาดนี้…….
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเอ่ยขึ้นมา : “ฉันไม่ได้เคยคุยกับใครมาก่อนทั้งนั้น แล้วก็ไม่ได้รู้สถานการณ์ของแก้วเลยด้วยเหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้น อย่างที่ทุกคนเห็น ฉันเป็นคนที่เลือกคนสุดท้ายด้วยไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ๆ!”
มีคนพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ : “ทุกคนก็เห็นกันทั้งนั้น เธออย่ามาใส่ร้ายคนอื่นดีกว่า”
“เซียวหยี่อัน ฉันว่าเธอแพ้เวินเที๋ยนเที๋ยน ก็เลยไม่ยอม ตั้งใจที่จะใส่ความกันใช่ไหม? เรื่องแบบนี้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำไม่ใช่รึไง?”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว เซียวหยี่อันมีสีหน้าที่แย่มาก
“ฉันไปทำเรื่องแบบนี้ตอนไหน? เธออย่ามาใส่ร้ายกันดีกว่า!”
เธอด่าว่าออกมาอย่างไม่พอใจ
สองสามคนกลับหัวเราะเยาะออกมา “เคยทำหรือเปล่า ในใจเธอเองก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ทำไมเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ถูกขังอยู่ในสตูดิโอ เธอไม่รู้เรื่อง? ฉันจำได้ว่าเหมือนกับว่าเธอเป็นคนที่ออกไปเป็นคนสุดท้ายนะ? ประตูเธอไม่ได้เป็นคนปิดแล้วจะเป็นใครได้อีก?”
เห็นว่าเรื่องที่ตัวเองทำเมื่อก่อนหน้านี้ถูกคนขุดขึ้นมาแบบนี้แล้ว สีหน้าของเซียวหยี่อันนั้นยิ่งดูแย่ลงไปอีก ซีดขึ้นมาทันที
เป็นเวลานานถึงจะพูดออกมา : “เธอไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ก็อย่ามาใส่ร้ายฉัน!”
คนนั้ๆนยังอยากจะโต้เถียงกับเธออีก แต่กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนดึงเอาไว้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในใจของเธอนั้นก็รู้สึกสงสัยอยู่เช่นกัน
“วันนั้นที่ฉันถูกขังอยู่ในสตูดิโอ เธอเป็นคนทำจริงๆใช่ไหม?”
เซียวหยี่อันมีสีหน้าท่าทางที่ลนลาน แล้วรีบเอ่ยขึ้น : “พูดจาเหลวไหล!”
เธอชี้ไปยังสองสามคนที่อยู่ตรงหน้า : “เวินเที๋ยนเที๋ยน เธอเพิ่งจะมาไม่กี่วัน ก็ซื้อตัวพวกนี้ไปอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอแล้ว ดูแล้วฉันคงจะดูถูกเธอเกินไปแล้วจริงๆ เธอคงมาด้วยความทะเยอทะยานมากเลยสินะ!”
“แต่เธอเลิกล้มความตั้งใจเถอะ! การแข่งขันครั้งนี้ฉันจะต้องชนะแน่ๆ! ถึงตอนนั้นคนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันได้จะมีเพียงแค่ฉันเท่านั้น!”
ว่าแล้ว ก็หันหลังเดินวางมาดออกไปด้านนอกเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเบื้องหลังของเธอ แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา
เดิมทีคิดว่าผ่านเรื่องครั้งที่แล้วไป บางทีเซียวหยี่อันจะลดความทะเยอทะยานได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอกลับจะได้คืบจะเอาศอกแบบนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากหาเรื่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นมาหาเรื่องเธอแล้วเธอจะต้องมากล้ำกลืนฝืนทนได้ตลอด
ถ้าหากเซียวหยี่อันยังคงไม่ยอมประพฤติตัวดีๆล่ะก็ เธอก็จะไม่ยอมไว้หน้าอีกต่อไปแล้ว
คนที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดเหล่านั้นของเซียวหยี่อันเมื่อครู่แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
“เธอมีอะไรโดดเด่นกัน ก็ไม่ใช่แค่ว่าเริ่มเรียนก่อนพวกเราไม่กี่ปีแค่นั้นเองไม่ใช่หรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยตัดบทพวกเขาเหล่านั้น : “เอาล่ะ พวกเธอกลับกันไปก่อนเถอะ อีกสองวันก็จะจัดการแข่งขันขึ้นแล้ว ต้องเตรียมตัวกันให้ดีนะ”
การสอบก็ค่อนข้างสำคัญอยู่จริงๆ
สองสามคนเหล่านั้นพยักหน้า แล้วถึงได้แยกย้ายกันไปในที่สุด
นอกจากระดับปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกยอมรับแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักบูรพาวัตถุโบราณที่เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือว่าลูกศิษย์นักบูรพาวัตถุโบราณที่กำลังศึกษาอยู่นั้นล้วนแต่ก็สามารถเข้าร่วมได้ทั้งสิ้น
การแข่งขันครั้งนี้ จะคัดเลือกตัวแทนประเทศไปแข่งขันแลกเปลี่ยนการบูรพาวัตถุโบราณกับนานาชาติ
การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือต่างประเทศก็ล้วนแต่เป็นกรณีแรกทั้งนั้น
อาชีพนักบูรพาวัตถุโบราณในสายตาของทุกคนนั้นดูมีความลึกลับมาโดยตลอด แม้กระทั่งคนส่วนมากก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ามีงานแบบนี้อยู่ด้วย
เอาวัตถุโบราณที่ชำรุด มาซ่อมแซมให้เหมือนเดิมอีกครั้ง รักษาคุณค่าและความหมายเอาไว้ ทำให้ตอนนี้ในสายตาของทุกคน อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ดูศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังทำให้คนเคารพเลื่อมใสอีกด้วย
แต่ในทางตรงกันข้าม คนที่ประกอบอาชีพนี้มีน้อยมาก คนส่วนมากจะรู้สึกเบื่อในช่วงระหว่างขั้นตอนการซ่อมแซมจึงทำให้ต้องยอมถอนตัวไป
และจุดประสงค์อีกอย่างหนึ่งของการแข่งขันในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการโฆษณาให้คนเข้าใจในอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น
ทุกคนได้ยินข่าวนี้แล้วก็ล้วนแต่รู้สึกอยากจะลองทำดูบ้าง
แต่หลังจากที่ข่าวการแข่งขันออกมาแล้วนั้น ทุกคนที่เห็นหัวข้อแล้วกลับทำอะไรไม่ถูกเลย
ในใจนั้นเกิดคำถามขึ้นด้วยความสงสัย : นี่มันคืออะไร?
ทำไมถึงมีหัวข้อแบบนี้?