เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่952 หยู๋ชิงก้างขวางคอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูข่าวการแข่งขันในคอมพิวเตอร์ ในใจนั้นก็รู้สึกงงๆอยู่เช่นเดียวกัน
จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเธอนั้นก็มองมา
ภายในเวลาครึ่งเดือน ออกแบบผลงานและสร้างขึ้นมาเองโดยไม่จำกัดวัสดุและแนวความคิดการออกแบบ
สร้างสรรค์ตามขอบเขตของการซ่อมแซมของตัวเอง แล้วค่อยซ่อมแซมรอยแตก สุดท้ายก็เอาผลงานเข้าร่วมการแข่งขัน
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวข้อนี้ ต่อให้เป็นเขาที่เป็นคนนอกดูแล้วนั้นก็รู้สึกว่าเกินความจำเป็นมากเหลือเกิน
ทำไมถึงให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันเลือกผลงานที่ตัวเองเป็นคนทำ แล้วทำให้แตก และหลังจากที่มีรอยแตกแล้วตัวเองก็เป็นคนซ่อมกลับมาเอง?
ขั้นตอนทั้งหมดนั้นจำเป็นที่จะต้องให้นักบูรพาวัตถุโบราณทำให้เสร็จด้วยตัวเอง รูปแบบนี้เป็นครั้งแรกที่เคยได้ยิน
นักบูรพาวัตถุโบราณบางคนก็ทำเครื่องใช้ไม่เป็นเลย แบบนี้จะทำให้สำเร็จได้อย่างไรกัน?
เพียงแค่เงื่อนไขข้อแรก ก็สามารถตัดคนจำนวนมากออกไปได้แล้ว
จี้จิ่งเชินก้มลงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังครุ่นคิดอยู่
“มั่นใจไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้า แววตาเปล่งแสงแห่งความมั่นใจออกมา
“มั่นใจสิคะ!”
ดวงตาที่เป็นประกายทำให้จี้จิ่งเชินยิ้มออกมาเล็กน้อย มุมปากยกขึ้น
ท่ามกลางรอยยิ้มบางๆ จะดูอย่างไรก็มีแต่รู้สึกพอใจและความประสบผลสำเร็จ จึงเอ่ยพูดตาม : “แต่เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณก็ไม่ต้องไปทำงานที่พระราชวังอีกแล้วใช่ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของเขาแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“อีกหนึ่งเดือนต่อไป เพียงแค่กำหนดเวลากลับไปรายงานความคืบหน้าที่พระราชวังก็พอแล้วค่ะ”
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันพูดคุยหรือลอกผลงานกัน ช่วงเวลานี้ทุกคนจะต้องอยู่ทำงานที่บ้านของตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ” น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินนั้นมีความดีใจออกมาอย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างสงสัย
“ไม่ใช่ว่าพี่จะมีแผนการอะไรอีกใช่ไหมคะ?”
“เปล่าครับ”
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้น แต่กลับยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ แล้วยื่นมือมาโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ แล้วก้มตัวลงเล็กน้อย เอาคางเกยไว้ตรงหัวไหล่ของเธอ
ร่างกายของทั้งสองคนนั้นแนบชิดกันโดยไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเอ่ยพูดขึ้นแล้ว น้ำเสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นข้างๆหู ทำให้หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ช้าลงไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว
จี้จิ่งเชินยิ้มพลางเอ่ย : “ตั้งแต่หลังจากที่คุณทำงาน เวลาที่คุณจะอยู่ที่บ้านก็ยิ่งน้อยลง แต่ถึงแม้จะกลับบ้าน ก็แทบจะเอาเวลาที่มีทั้งหมดไปมอบให้กับพวกของวัตถุโบราณเหล่านั้น คนอื่นๆก็ถูกคุณมองข้ามไปหมดแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปอีกทางด้านหนึ่งที่จี้หยู๋ชิงกำลังหลับอยู่อย่างว่าง่ายด้วยความสงสัย
พลางเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ : “ไม่ใช่นี่คะ ทุกๆช่วงเวลาฉันก็จะมาเล่นกับหยู๋ชิงนะ”
ได้ยินแล้ว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็มืดมนลงทันที
คิดไม่ถึงเลยว่าเวลานี้ จะยังมีอีกคนหนึ่งที่แย่งความรักของตัวเองไป อีกฝ่ายหนึ่งก็รับปากว่าจะไม่ตีและไม่ดุว่าอีกด้วย
นั่นเป็นเพราะเมื่อเขาเพียงแค่ดึงหน้าตึงนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะมาหาเป็นคนแรก
คนๆนี้ เขาไม่สามารถแตะต้องได้เลย
และยิ่งไปกว่านั้นคือ เด็กคนนั้นได้รับการปกป้องจากเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็จะได้ใจและทำอะไรตามอำเภอใจมากอีกด้วย
ฉลาดไม่เหมือนกับเด็กที่อายุยังไม่ครบหนึ่งขวบเสียเลยด้วยซ้ำ
ช่วงนี้ จี้จิ่งเชินยิ่งรู้สึกว่า ลูกฉลาดมากเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนัก
จี้จิ่งเชินถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พลางเอ่ยขึ้น : “ผมไม่ได้หมายถึงจี้หยู๋ชิง แต่เป็นผมต่างหากล่ะ”
น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำนั้นเป็นเหมือนกับแม่เหล็ก แต่จะฟังอย่างไรนั้นก็รู้สึกว่ามีความน้อยใจอยู่ด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามา มองจี้จิ่งเชินที่ยังคงเอาศีรษะวางอยู่ตรงหัวไหล่ ใบหน้ามีคำว่าน้อยใจตัวใหญ่ๆเขียนเอาไว้
ถ้าหากกรรมการบริษัทและคนอื่นๆเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา จะต้องไม่คาดคิดอย่างแน่นอน
เวลาปกติจี้จิ่งเชินที่เด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น ไม่คิดว่าจะมีช่วงเวลาที่น้อยใจแบบนี้ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!
แต่ผู้ชายคนนี้เมื่อมาเจอกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็เดินลงมาจากแท่นที่สูงจากที่ทุกคนสร้างเอาไว้ กลายมาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งเพียงเท่านั้น
แล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ใจอ่อน
“แต่ฉันจำได้ว่า ฉันกับพี่ก็ได้เจอกันทุกคืนนี่คะ”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการแค่เจอหน้ากันเท่านั้นนี่ครับ”
ว่าแล้วมือของเขาก็ลูบไล้เบาๆตรงเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ก้มตัวลงแล้วอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา จากนั้นก็พาเดินออกไปทางด้านนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วรีบเอ่ยขึ้น : “เดี๋ยวก่อนค่ะ ตอนนี้ยังกลางวันอยู่เลยนะ”
เห็นจี้จิ่งเชินยังคงไม่หยุดเดิน
“นานๆจะมีเวลาที”
อีกทั้งที่สำคัญก็คือ จี้หยู๋ชิงเองก็กำลังหลับอยู่ด้วย ก้างขวางคอตัวใหญ่ที่สุดไม่อยู่ ก็รบกวนพวกเขาไม่ได้ จึงจะต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้
คิดถึงตรงจุดนี้แล้ว ในใจของจี้จิ่งเชินก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
นี่มันอะไรกันที่ตัวเองกับภรรยาจะอยู่ด้วยกันก็ยังจะต้องมาหลบๆซ่อนๆ ต้องมาแอบให้พ้นจากสายตาของจี้หยู๋ชิง?
เขาอาจจะเป็นคุณพ่อที่เป็นทุกข์ที่สุดในโลกนี้แล้ว
แต่ไม่ใช่ง่ายๆที่จะหาโอกาสมาได้แบบนี้แล้ว เขาจะยอมปล่อยไปง่ายๆได้อย่างไรกัน?
เขาอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไปด้านนอก และขณะที่กำลังจะออกไปนั้น
“อ๊ะ อ้า!”
ทันใดนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
ขาของจี้จิ่งเชินชะงักลง ราวกับได้ยินเสียงของความหวังที่แตกละเอียดไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น
หันกลับไปมอง และเป็นอย่างที่คิดจี้หยู๋ชิงไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังลืมตามองพวกเขาอยู่
ยื่นมือทั้งสองข้างออกมา แล้วร้องอ้อแอ้ๆ กำลังจะหาเวินเที๋ยนเที๋ยน เหมือนกับกำลังจะถามว่า : จะทิ้งหนูไปไหนกัน?
ได้ยินเสียงนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ใจอ่อนขึ้นมาทันที เธอดิ้นหลุดออกมาจากจี้จิ่งเชิน แล้วเดินไปทางด้านนั้น
จี้จิ่งเชินรีบดึงเธอเอาไว้
ไม่ปล่อยมือ
จี้หยู๋ชิงที่อยู่ตรงข้ามนั้นก็ยังคงร้องเรียกเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หยุด แม้กระทั่งยังเอาไม้ตายของเขาเองออกมาใช้ด้วย!
“แม่! แม่!”
เขาเรียกเธอสองครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกดีใจ แล้วเอ่ยขึ้น : “ฉันไปปลอบเขาก่อนนะคะ ลูกตื่นมาแล้วจะต้องร้องไห้แน่ๆ”
เขาร้องไห้?
จี้จิ่งเชินแสดงความสงสัยออกมา
สติปัญญาของเด็กคนนี้เกินการพัฒนาทั่วไปของร่างกายไปแล้ว ไม่ต้องสนใจมากเลยด้วยซ้ำ ตอนที่ตื่นขึ้นมาทุกครั้งไม่ใช่ว่าก็ดูเชื่อฟังดีไม่ใช่หรือ?
เด็กคนนี้มองความคิดของเขาออก ตั้งใจที่จะมาทำลายเรื่องดีๆเหล่านี้
อย่าคิดว่าเขามองไม่ออกเชียว!
จี้จิ่งเชินคิดแล้ว พลางเอ่ยขึ้น : “ผมคิดว่าลูกคงจะอยากนอนต่ออีกซักพัก ผมไปปลอบเขาเองก็ได้ครับ”
“จริงหรือคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกสงสัย
“ใช่ครับ” จี้จิ่งเชินมั่นใจมาก : “คุณออกไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ”
ว่าแล้ว เขาก็เดินไปทางด้านนั้น
และเป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปแล้ว จี้หยู๋ชิงที่แกล้งทำเป็นร้องไห้แงๆเมื่อครู่นี้ก็หยุดลงทันใด
ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน ไม่เห็นน้ำใสๆในตาเลยแม้แต่นิดเดียว เขามองจี้จิ่งเชินตรงหน้าอย่างนิ่งๆ
เห็นท่าทางของเขา จี้จิ่งเชินก็ก้มตัวลง แล้วจ้องมองดวงตาของจี้หยู๋ชิง
“เราชอบทำตัวเป็นศัตรูกับพ่อขนาดนี้เลย?”
“อ๊ะอ้า!”
จี้หยู๋ชิงส่งเสียงตอบรับ
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นอย่างพอใจ : “ครั้งนี้จะไม่ให้เรามาทำพังหรอกนะ ตอนนี้! ทันที! เดี๋ยวนี้! รีบนอนเลย หลับตาซะ!”
เขาสั่ง แต่จี้หยู๋ชิงกลับไม่ได้ฟังเลย แต่กลับโบกมือสั้นๆนั้นไปมา หรือแม้กระทั่งยังวางแผนที่จะยืนขึ้นมาด้วย
“ไม่ดูตัวเองเลย”
จี้จิ่งเชินยื่นนิ้วออกมาแล้วเคาะลงที่หน้าผากของจี้หยู๋ชิงเบาๆ
“นอนเดี๋ยวนี้เลย มีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อยดีกว่า เดี๋ยวตอนกลางคืนพ่อจะอ่านสารานุกรมที่เราชอบที่สุดให้ เป็นไง?”
จี้จิ่งเชินบังคับไม่ได้ จึงทำได้เพียงต้องใช้ไม้ตายของตัวเอง