เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่962 ผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ไม่ผิดแน่ การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์แบบนี้คงไม่มีใครอีกคนเป็นคนที่สองที่คิดได้อยู่แล้ว!
อีกทั้ง ถึงแม้ว่าจะมีคนคิดออก ในด้านเทคนิคการซ่อมแซมบูรณะนั้นก็สู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เวลานี้จี้จิ่งเชินและจี้หยู๋ชิงที่นั่งอยู่ในหอประชุมนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง
พวกเขาเคยเห็นการออกแบบของเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่การออกแบบของเซียวหยี่อันที่เอามานี้ เหมือนกันมากจริงๆ!
วันนั้นเธออยู่ที่ห้องทำงานของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำอะไรกันแน่?
ตอนนี้เมื่อเห็นก็รู้แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่า เซียวหยี่อันที่เห็นว่าตัวเองสูงส่งมาตลอด รู้สึกว่าตัวเองจะต้องชนะอย่างแน่นอนนั้น จะมาขโมยความคิดผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนแบบนี้
“อ๊ะ อ้า!”
จี้หยู๋ชิงเห็นเช่นนี้แล้ว ก็จะแย้งขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
แต่คำพูดแบบเด็กๆของเขานั้น คนอื่นก็ฟังกันไม่เข้าใจอยู่แล้ว แต่จี้จิ่งเชินกลับเข้าใจว่าเขาต้องการจะพูดอะไร จึงขมวดคิ้วขึ้น
“พ่อรู้ว่าลูกต้องการจะพูดอะไร ไม่ต้องกังวลนะ เราต้องเชื่อเที๋ยนเที๋ยน”
คำพูดของจี้จิ่งเชินทำให้จี้หยู๋ชิงกลับขมวดคิ้วขึ้น
ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากอีก แล้วรอต่อไปอย่างว่าง่าย
หลังจากที่ท่านอาจารย์สองสามท่านประเมินผลงานของเซียวหยี่อันแล้วนั้น ก็ดึงขึ้นมาให้อยู่ในระดับที่สูง เห็นได้ชัดว่าชื่นชมต่อสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
เซียวหยี่อันสังเกตเห็นถึงสายตาของทุกคน ก็พยักหน้าลงอย่างพอใจ การแสดงออกบนใบหน้านั้นยิ่งดูเย่อหยิ่งขึ้น แล้วมองไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างดูภาคภูมิใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขมวดคิ้วขึ้น อาการที่แสดงออกมานั้นดูจะไม่ผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
คนจำนวนไม่น้อยที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในอาการของเธอแล้ว ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที
หรือว่าครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะแพ้จริงๆแล้ว?
รอหลังจากที่เซียวหยี่อันแนะนำผลงานเสร็จแล้วนั้น พิธีกรก็เดินเข้ามา
“คุณเวินคะ สีหน้าท่าทางที่เริ่มเปลี่ยนไปอย่างกังวลของคุณนี้ เป็นเพราะว่าพอเห็นผลงานของคุณเซียวแล้วก็รู้สึกกดดันหรือเปล่าคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้งไป พลางส่ายหน้า รอยยิ้มนั้นมีความสงสัยที่ดูซับซ้อนขึ้น
“เดี๋ยวทุกคนเห็นผลงานของฉันก็จะเข้าใจชัดเจนแล้วล่ะค่ะ”
พิธีกรคิดไม่ถึงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะตอบมาแบบนี้ ยังคิดว่าเธอเพียงแค่ต้องการจะอุบเอาไว้ก่อน เพื่อเป็นการโฆษณาตัวเอง
แล้วจึงรีบเอ่ยขึ้น : “ถ้าอย่างนั้น ให้ทุกท่านได้มาพบกับการออกแบบของคุณเวินกันเถอะนะคะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้น แล้วเปิดกล่องของตัวเองออก
ของที่วางอยู่ด้านในกล่องนั้น เมื่อปรากฏออกมาตรงหน้าของทุกคนแล้ว ก็ทำให้หัวใจของทุกคนแทบจะหล่นลงไปอยู่ตรงตาตุ่ม เสียงอุทานดังขึ้น เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ทุกคนในงานนั้นมองกันอย่างงุนงง แล้วกระซิบกระซาบกันขึ้นมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมผลงานทั้งสองคนเหมือนกันเลย?”
“ใช่ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการออกแบบ หรือว่าเทคนิคและมุมในการผสานกันนั้น เหมือนกันมาก สามารถพูดได้เลยนะว่าเป็นผลงานชิ้นเดียวกันเลยก็ว่าได้ คงจะไม่ได้มีการขโมยความคิดกันใช่ไหม?”
“จะเป็นไปได้ยังไงที่จะบังเอิญขนาดนี้ คิดด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”
ทุกคนมองหน้ากัน ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความสงสัยและงุนงง สายตาที่มองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนและเซียวหยี่อันนั้นเปลี่ยนไปเป็นพิจารณากันอย่างระมัดระวัง
ผลงานทั้งสองชิ้นวางอยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนกันมากเสียจริงๆ!
นอกจากสีที่ออกแบบมาไม่เหมือนกัน……..
ใช่ ผลงานของเซียวหยี่อันที่มีชื่อเรียกว่าหงส์ขาว ขาวสะอาดไร้ที่ติ
ส่วนผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นกลับเป็นสีดำ
ผลงานทั้งสองคนวางอยู่ด้วยกันแล้วชัดเจนมาก
ไม่เพียงแค่ผู้ชม แม้แต่ท่านอาจารย์ที่อยู่บนเวทีนั้นก็เต็มไปด้วยความงุนงงด้วยเช่นกัน
สถานการณ์แบบนี้นี่เป็นครั้งแรกที่พบ
ไม่ต้องสงสัยเลย หนึ่งคนในนี้จะต้องมีคนที่ขโมยความคิดอย่างแน่นอน!
แต่เกิดอะไรขึ้นกันแน่นั้น กลับทำให้ยิ่งงงขึ้นไปอีก
เมื่อเซียวหยี่อันเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาผลงานออกมานั้น แววตาก็ปรากฏความประหลาดใจออกมา
ก่อนหน้านี้ที่เธอเห็นผลงานที่ทำไปเพียงครึ่งเดียวของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่คฤหาสน์นั้น ก็เป็นสีขาว
หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว ก็รีบทำออกมาให้เหมือนกัน ประกอบกับเทคนิคด้านการซ่อมแซมบูรณะของตัวเองอีก
เพียงแค่ใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวก็สามารถทำได้เหนือกว่าผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว!
แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วผลงานที่ปรากฏออกมา จะเป็นสีดำ
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
หรือว่าเป็นการลงสีด้านนอกอีกชั้นหนึ่งอย่างนั้นหรือ?
คิดถึงความเป็นไปได้นี้แล้ว เธออดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ทาสีด้านนอกของผลงานอย่างนั้นหรือ?
นี่เป็นการกระทำที่น่าขายหน้ามากที่สุดแล้ว
การแข่งขันครั้งนี้ เธอจะต้องชนะอย่างไม่ต้องสงสัย!
พิธีกรเห็นภาพตรงหน้าแล้ว ก็ได้แต่กรอกตาเช่นกัน
ไม่ใช่บอกว่าการแข่งขันครั้งนี้การรักษาความลับเป็นไปอย่างดีมากไม่ใช่หรือ? จะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ขโมยความคิดกันได้อย่างเด็ดขาด
แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ดาวดวงใหม่ของวงการวัตถุโบราณที่ได้รับการรอคอยคาดหวัง มีพื้นฐานมวลชนที่กว้างใหญ่
คนหนึ่งที่ได้รับความคาดหวังจากนักบูรพาวัตถุโบราณมาตั้งแต่เด็ก
สองคนนี้เกิดเหตุการณ์ขโมยความคิดกันแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
ไม่ว่าจะเป็นคนไหนนั้น ก็ล้วนแต่ทำให้รู้สึกไม่อยากจะเชื่อทั้งนั้น
เวลานี้เห็นภาพตรงหน้าเช่นนี้แล้ว ในใจของทุกคนก็ล้วนแต่มีความคิดที่เหมือนกัน
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ไม่เพียงแค่ผู้ชม แม้แต่ท่านอาจารย์ที่มานั่งเป็นกรรมการสองสามท่านนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเช่นกัน
พวกเขาเข้าใจวัตถุโบราณ เมื่อเห็นก็รู้แล้วว่าทั้งสองผลงานนี้จะต้องมีหนึ่งในนั้นที่เป็นการคัดลอกมา
แต่จะเป็นใครกัน?
แต่กลับไม่กล้าตัดสินใจไปตามอำเภอใจ
พิธีกรอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วถึงได้เข้าใจในที่สุดกับคำพูดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดมาเมื่อครู่นี้
เธอยิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เราเห็นแล้วนะคะว่าทั้งสองผลงานนี้เหมือนกันมาก เพียงแต่ไม่รู้ว่า คณะกรรมการของเรารู้สึกว่าผลงานชิ้นไหนดีกว่ากันคะ?”
ท่านอาจารย์เหล่านั้นมองหน้ากัน เป็นครั้งแรกที่ปรากฏความลังเลนี้ออกมา
ปรึกษากันอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยพูดขึ้น : “สถานการณ์ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ ทางเราจึงต้องขอดูให้ละเอียดอีกซักหน่อยแล้วค่อยตัดสินใจ”
ว่าแล้ว สองสามคนนั้นก็เดินเข้ามา
มือที่สวมถุงมือมาตรวจเช็คผลงานที่เหมือนกันตรงหน้าอย่างละเอียด
หลังจากที่ดูแล้วนั้น ต่างก็พยักหน้าลง ได้ผลออกมาแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกับเซียวหยี่อันมองดูด้วยความตื่นเต้น รอจนหลังจากที่ท่านอาจารย์เหล่านั้นเดินกลับมายังตำแหน่งของตัวเองแล้ว ถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมาในที่สุด
“พวกเราดูผลงานทั้งสองชิ้นนี้แล้ว แล้วก็ตัดสินออกมาแล้ว แต่ก่อนที่จะประกาศผลสุดท้ายออกมา เราหวังว่าผู้สร้างสรรค์ผลงานทั้งสองคนได้เห็นก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้งไป คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ฉู่จะเสนอความต้องการเช่นนี้ออกมา
อาจารย์ฉู่เพิ่งจะพูดจบนั้น เซียวหยี่อันก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปทางนั้น
เธอเดินไปตรงหน้าผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วหยิบขึ้นมาดู
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงขยับเดินเข้ามา แล้วมองดูผลงานของเซียวหยี่อันอย่างละเอียด
ตั้งแต่ตอนที่เริ่มนั้น เธอก็รู้สึกสงสัยมาก
ตอนนี้เดินเข้ามามองอย่างละเอียดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขมวดคิ้วขึ้น
ผลงานนี้……
มีข้อบกพร่อง
ส่วนเซียวหยี่อันอีกทางด้านหนึ่งนั้น ในใจก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน
หลังจากที่เข้าไปดูใกล้ๆแล้วนั้น เธอถึงได้พบว่า เทคนิคการซ่อมแซมบูรณะของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่ตัวเองคิดไว้เลย
อีกทั้ง เธอจำได้ว่าตอนที่ตัวเองเห็นก่อนหน้านี้นั้น ผลงานชิ้นนี้ยังเป็นสีขาวอยู่เลย
เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ไม่ได้เห็นนั้น เปลี่ยนเป็นสีดำได้อย่างไรกัน?
อีกทั้งดูแล้ว ไม่ใช่เป็นการย้อมสีเสียด้วยซ้ำ
เป็นไปได้อย่างไร?
รอให้ทั้งสองคนกลับมายังตำแหน่งของตัวเองแล้ว ท่านอาจารย์เหล่านั้นถึงได้เอ่ยขึ้นมา
“พวกคุณมีความคิดอย่างไรกับผลงานของอีกฝ่าย?”
เขาเพิ่งจะเอ่ยพูดเสร็จ เซียวหยี่อันก็เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ : “แน่นอนว่าสู้ของฉันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ! ผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยน แย่มาก”