เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 23
บทที่ 23 ภารกิจของพวกเขา
“ท่านมีปัญหาอะไรไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ ข้าเข้าใจว่าพวกท่านรู้สึกลังเลนิดหน่อยที่จะบอกภารกิจของพวกท่านให้กับเรา” องค์ชายที่สี่แนะนำด้วยความกังวล
ยุ่นหลิงหัวเราะเยาะเขาในใจ ปัญหา? ถ้ามันเป็นอย่างที่เขาบอกว่าพวกเขาอาจตายได้ถ้าพวกเขาทำภารกิจไม่สำเร็จมันคงไม่ใช่ แต่ปัญหาจริงๆคือถ้าเขาพูดภารกิจที่ได้รับออกไปจะมีความเป็นไปได้ที่ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ที่ไม่พอใจอาจเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกเขาหากพวกเขารู้ว่าภารกิจของพวกเขาคืออะไรทำให้พวกเขาลำบากเพิ่มโดยไม่จำเป็น
ถึงกระนั้นองค์ชายที่สี่ก็พูดถูก หากพวกเขาไม่บอกให้ทุกคนรู้ว่ามีอะไรอยู่ในม้วนกระดาษของพวกเขาคนเหล่านั้นก็จะไม่รู้สึกพอใจ เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่คนพวกนั้นจะรู้สึกยังไง แต่มันจะดีกว่าในกรณีที่เขาบอกไปว่าภารกิจนั้นคืออะไร เขาเป็นหนึ่งในสามอัจฉริยะสูงสุดของเมืองหลวงเพราะเขามีความภาคภูมิใจ เขาไม่ต้องการให้คนอื่นแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเขา “โกง” ในการแข่งขันแม้ว่าเขาจะไม่ได้โกงก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้วนี่ไม่ใช่การโกงเนื่องจากเป็นกฏใหม่ของการคัดเลือกมังกรทอง แต่บางคนในที่นี้ไม่พอใจที่ได้เห็นคนอื่นได้ดีกว่า
น่าผิดหวังจริงๆ เขาจะปล่อยให้ขุนนางเหล่านี้ตั้งคำถามกับความสามารถของเขาได้อย่างไร?
หากใครรู้ว่ายุ่นหลิงกำลังคิดอะไรอยู่พวกเขาคงพูดไม่ออก ใครก็ตามที่เข้าร่วมงานเลี้ยงนั้นเป็นอัจฉริยะ แต่พวกเขาก็ถูกระบุว่าเป็นขุนนางเท่านั้น ในบรรดาคนรุ่นใหม่ในจักรวรรดิมีเพียงยุ่นหลิงเท่านั้นที่กล้าคิดเช่นนั้น
“องค์ชายที่สี่รู้ข้าก็รู้ว่าข้าหยอกท่านเล่น ข้าแค่ถามเฉยๆน่ะ ข้าไม่มีปัญหาอะไรหรอก แล้วท่านล่ะองค์ชายที่สี่? ท่านมีปัญหาอะไรกับข้าหรือไม่?” ยุ่นหลิงกล่าวอย่างประชดประชันแม้ว่าจะมีเพียงองค์ชายที่สี่ กับยู่ฉานและมกุฎราชกุมารเท่านั้นที่รู้ว่าเป็นการเสียดสีจากคำพูดของเขาได้เท่านั้น
องค์ชายที่สี่เย้ยหยันเขา เขามองไปที่อีกสองคนและถามว่า “แล้วท่านพี่กับพี่ชายยู่ฉานล่ะ? พวกท่านจะแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับภารกิจของพวกท่านได้หรือไม่”
“ได้อยู่แล้ว” มกุฎราชกุมารกล่าว
ยู่ฉานขมวดคิ้ว เขามีปัญหากับเรื่องนี้จริงๆ แล้วมันคงไม่เป็นการดีที่จะให้คนเหล่านี้รู้ภารกิจของพวกเขาเพียงเพื่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวและพยายามขัดขวาง อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่ายุ่นหลิงและมกุฎราชกุมารได้ตกลงกันแล้วเขาก็จะทำแบบเดียวกัน
“ข้าไม่รังเกียจที่จะบอก” ยู่ฉานพูดพลางถอนหายใจ
องค์ชายที่สี่ยิ้มเล็กๆ
“ดีมาก ท่านพี่ทำไมไม่พูดก่อนล่ะ”?
“ได้สิ” มกุฎราชกุมารพยักหน้าและทำการคลายม้วนกระดาษ
ในขณะที่มกุฎราชกุมารทำเช่นนั้นองค์ชายที่สี่กล่าวกับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ว่า “ทุกท่านโปรดให้ความสนใจเป็นพิเศษในครั้งนี้ ภารกิจที่จักรพรรดิมอบให้นั้นไม่ใช่ภารกิจง่ายๆ มีโอกาสมากที่พวกเขาจะตายเพื่อพยายามทำภารกิจให้สำเร็จ อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอะไรที่ยุติธรรมที่สุดไม่เช่นนั้นก็จะไม่เป็นธรรมที่จะนำไปก่อนคนอื่นสองด่านในการแข่งขัน “
หลังจากที่องค์ชายที่สี่พูดจบมกุฎราชกุมารก็เริ่มพูด “สิ่งที่น้องชายของข้าพูดนั้นถูกต้อง งานนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากมีใครทำผิดพลาดโดยประมาท และนี่คือภารกิจของข้าจงตั้งใจฟัง” เขามองไปที่ม้วนกระดาษของเขาและพูดว่า
“นำศีรษะของคนที่อยู๋ในขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่มาให้ได้สามคน”
ส่วนบุคคลเหล่านี้เป็นใครมกุฎราชกุมารไม่ได้กล่าว เขาไม่ต้องการเปิดเผยว่าพวกเขาเป็นใครและเสี่ยงที่จะให้เป้าหมายของเขารู้ว่าเขาจะฆ่าพวกเขา เขาไม่ได้โง่ แม้ว่าเขาจะตกลงที่จะบอกให้พวกเขารู้ว่างานของเขาคืออะไร แต่เขาจะไม่เปิดเผยทุกอย่าง
เขารู้ดีว่ามีคู่แข่งบางคนที่นี่ส่วนมากที่จะดีใจที่เห็นพวกเขาล้มเหลวและพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อขัดขวางพวกเขา
ก่อนที่จะมีใครจะพูดอะไรองค์ชายที่สี่กล่าวเสริมว่า “โอ้ข้าลืมพูดไป แต่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ใช้อำนาจและอิทธิพลของตระกูลเพื่อช่วยให้ภารกิจสำเร็จ มันจะไม่มีความหมายถ้าแต่ละภารกิจพวกท่านพึ่งพาตัวเองไม่ได้ ยกโทษให้ข้าด้วยที่ไม่พูดให้เร็วกว่านี้”
ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ถอนหายใจเข้าอย่างโล่งอก มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาอยู่ที่ขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลางเท่านั้น ขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่อาจเป็นเพียงขอบเขตเดียวที่อยู่เหนือพวกเขา แต่ความแตกต่างระหว่างสองขอบเขตนั้นค่อนข้างสูง หากต้องการพูดถึงพลังของมันแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลางสิบคนที่รวมตัวกันก็ยังแพ้ผู้เชี่ยวชาญจากขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่เพียงคนเดียว สำหรับงานของมกุฎราชกุมารในการสังหารใครบางคนในขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่นั้นเป็นคำสั่งที่อันตรายมากอยู่แล้วสิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาต้องฆ่าให้ได้ถึงสามคน
“พี่ชายยู่ฉาน” องค์ชายที่สี่เรียกเขา
เมื่อถอนหายใจแล้ว ยู่ฉานเปิดม้วนกระดาษของเขาและอ่านข้อความออกมาดังๆ
“กำจัดอาชญากรที่อยู่ขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ที่กำลังตามล่าอยู่มาสามคน”
อันนี้เป็นภารกิจที่ไม่ตองคิดอะไรมากเลย การสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ สามคนเป็นสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้อย่างแน่นอน พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลางเท่านั้นพวกเขาไม่ต้องการยุ่งอะไรกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ ที่เป็นศัตรูเว้นแต่พวกเขาจะเบื่อกับการที่จะต้องมีชีวิตอยู่ ในตอนนี้ผู้เข้าร่วมเกือบทุกคนเชื่อมั่นในภารกิจของสมเด็จจักรพรรดิแล้ว
“พี่ชาย ยุ่นหลิง”
หลังจากถึงคราวของ ยู่ฉานองค์ชายที่สี่ก็หันมาหายุ่นหลิง
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ภารกิจของยุ่นหลิงก็น่าจะเป็นการฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่อีกสามสี่คน เช่นเดียวกันกับยู่ฉานและมกุฎราชกุมาร
ยุ่นหลิงคลี่ม้วนกระดาษของเขา เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในมันว่างเปล่าไม่มีอะไรเขียนไว้ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาตัวอักษรและคำต่างๆก็เริ่มปรากฎขึ้นในม้วนหนังสือ
ยุ่นหลิงขมวดคิ้วเมื่อเขาอ่านเนื้อหาในม้วนกระดาษของเขา เขาละสายตาจากม้วนกระดาษและมองไปที่ทุกคน เมื่อเขาเห็นพวกเขาเฝ้ามองเขาด้วยความคาดหวังยุ่นหลิงก็ถอนหายใจและพูดว่า
“ฆ่าผู้ฝึกตนปีศาจสามคนที่เพิ่งปรากฏตัวที่พรมแดนของจักรวรรดิ พวกเขาทั้งสามเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่”