เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 24
บทที่ 24 ข้อสรุป
“ผู้ฝึกตนปีศาจ? คนพวกนั้นป่าเถื่อนและไร้ศีลธรรมใดๆ พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ คนพวกนี้เป็นอันตรายอย่างมาก”
“อันที่จริงพวกเขารับมือได้ยากกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปมาก”
ไม่มีใครแย้งเกี่ยวกับโอกาสที่อัจฉริยะทั้งสามได้รับอีกต่อไป แม้ว่านี่จะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับพวกเขาอย่างมีต้องสงสัย แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะพูด การได้นำหน้าคนอื่นในการแข่งขันถึงสองด่านนั้นอาจจะดี แต่ก็ไม่ได้ให้พวกต้องเขาเสี่ยงชีวิตมากแบบนั้น ภารกิจแบบนั้นมันเกินความสามารถของพวกเขาไป พวกเขาต้องสังหารผู้ฝึกตนขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวแต่ต้องฆ่าถึงสามคน พวกเขาไม่ต้องการที่จะทำอะไรแบบนั้น
ถึงอย่างนั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีบางคนที่ต้องการสร้างปัญหาให้กับพวกเขา มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้อิจฉา แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความกล้าและความมั่นใจที่จะสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่แต่ก็ไม่อยากเห็นใครสักคนประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ หากมีสิ่งใดทำให้อัจฉริยะระดับสูงทั้งสามทำภารกิจไม่สำเร็จ นั่นจะทำให้พวกเขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก
องค์ชายที่สี่มองไปที่อัจฉริยะสูงสุดทั้งสามและกล่าวว่า “พวกท่านไม่จำเป็นต้องทำภารกิจก็ได้ เมื่อพวกท่านรู้แล้วว่างานของพวกท่านคืออะไร ไม่ว่าพวกท่านจะยอมรับหรือปฏิเสธก็ตามทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับตัวของพวกท่านเอง แน่นอนถ้าพวกท่านปฏิเสธพวกท่านก็ต้องเข้าร่วมในการแข่งขันตามปกติเหมือนคนอื่นๆ ”
“ไม่ต้องพูดอีกแล้วองค์ชายที่สี่” ยุ่นหลิงชะงักด้วยรอยยิ้ม สายตาของเขาจับจ้ององค์ชายที่สี่ด้วยความเย่อหยิ่งขณะที่เขาพูดต่อ “ข้าจะทำภารกิจนี้”
คนอื่นอาจจะคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับยุ่นหลิง แต่สำหรับเขามันแค่ใช้ความสามารถเพียงเล็กน้อยฃของเขา นั่นคือความมั่นใจในความสามารถของเขา
“อืม แม้ว่ามันจะอันตรายเล็กน้อย แต่ข้าก็จะทำภารกิจให้สำเร็จอย่างสุดความสามารถ” ยู่ฉานกล่าวเสริม
“ข้าจะทำทุกอย่างด้วยเหตุผลในการเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ดี ตอนนี้ข้าหันหลังกลับไปไม่ได้และข้าไม่ต้องการให้ตระกูลของข้าเสียหน้า ใช่ไหมน้อยชายคนเล็ก” มกุฎราชกุมารตรัสยิ้มเล็กน้อยที่องค์ชายที่สี่
องค์ชายที่สี่จ้องมองพวกเขาสองสามวินาทีก่อนที่จะถอนหายใจ สามคนนี้เท่านั้นที่จะมีความมั่นใจมากขนาดนี้ ถ้าเป็นคนปกติจะรู้สึกหวาดกลัวสักพักเมื่อต้องเผชิญกับภารกิจนี้ แต่สำหรับพวกเขาพวกเขามองว่ามันเป็นความท้าทาย อันที่จริงพวกเขาดูตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำที่มีโอกาสเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง
“ทั้งสามคนนี้ …” เขาพึมพำผ่านลมหายใจขณะที่กำหมัดแน่น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาในใจ ใครกันที่ไม่อยากจะเป็นคนที่กล้าหาญเท่าพวกเขา? ใครกันที่ไม่อยากเป็นที่น่าเกรงขามเหมือนพวกเขา?
แม้ว่าองค์ชายที่สี่เพิ่งสร้างศัตรูกับยุ่นหลิง แต่ลึกๆแล้วในใจของเขาก็ชื่นชมเขา บิดาของเขาซึ่งเป็นจักรพรรดิมักจะบอกกับเขาเสมอว่าพรสวรรค์ของยุ่นหลิงนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด หากแม้แต่ผู้ปกครองของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ยังรู้สึกกลัวในความสามารถของเขา
ถ้าเป็นไปได้ได้เขาจะไม่ทำให้ยุ่นหลิงขุ่นเคืองเลยอย่างไรก็ตามเขาถูกทำให้ให้ไม่มีทางเลือก เขาต้องการผูกมิตรกับยุ่นหลิงหรืออย่างน้อยก็รักษาความสัมพันธ์ที่เป็นกลางกับเขาในขณะที่เขาแอบวางแผนลับหลัง น่าเสียดายที่ยุ่นหลิงมองเห็นจุดประสงค์ของเขาในทันทีและทำให้เขาอยู่ในด้านที่คิดไม่ดีต่อยุ่นหลิง ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เสียใจ เขาไม่สามารถให้ยุ่นหลิงอยู่เคียงข้างเขาได้ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป ในไม่ช้าหรือเร็วพวกเขาก็จะกลายเป็นศัตรูในที่สุด
แม้ว่าตอนนี้เขาและยุ่นหลิงจะเป็นศัตรูกัน แต่เขาก็ไม่ได้กลัวหรือหวาดหวั่น ถึงตัวเขาอาจจะเป็นองค์ชายที่ต่ำต้อยและอ่อนแอ แต่เขาก็มีไม้เด็ดของตัวเอง เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความทะเยอทะยานของเขา เพื่อความฝันของเขา
ด้านยุ่นหลิงขมวดคิ้ว ขณะที่เขาแอบสังเกตุท่าทีองค์ชายที่สี่
‘คนๆนี้…’
องค์ชายที่สี่ยิ้มให้พวกเขาขณะที่เขากล่าวว่า “ตามที่คาดไว้ของอัจฉริยะสูงสุดสามคนของเมืองหลวง องค์ชายน้อยคนนี้เกรงกลัวพวกท่านจริงๆ ได้เลยเนื่องจากพวกท่านได้เลือกที่จะรับภารกิจแล้วพวกท่านต้องดำเนินการภายในสามสัปดาห์ ถ้านานกว่านั้นจะถือว่าล้มเหลวไม่ว่าพวกท่านจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม พวกท่านตกลงนะ”?
“ข้าไม่มีปัญหากับเรื่องนี้” ยู่ฉานกล่าว
“อืม” มกุฎราชกุมารพยักหน้า
ยุ่นหลิงยังคงเงียบ แต่เขาก็พยักหน้าตาม
หลังจากได้ยินคำตอบของพวกเขาองค์ชายที่สี่ก็มองไปที่ฝูงชน
“ทุกท่านขอให้ทุกท่านโชคดีกับการคัดเลือกมังกรทอง ที่กำลังจะมาถึง! ทำให้ดีที่สุดและทำให้จักรพรรดิภาคภูมิใจ! แสดงให้ผู้คนได้เห็นว่าอัจฉริยะของจักรวรดินี้นั้นทรงพลังเพียงใด!”
ผู้คนเริ่มส่งเสียงโห่ร้องหลังจากตื่นตะลึงกับคำพูดขององค์ชายที่สี่ อะดรีนาลีนของคนเหล่านั้นก็พุ่งพล่านในหัวของพวกเขาเพราะตอนนี้พวกเขาตื่นเต้นเกินกว่าที่การแข่งขันที่ใกล้จะเกิดขึ้น
ขณะที่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นมกุฎราชกุมารได้เข้าใกล้ ยุ่นหลิงและยู่ฉาน
“ข้ามีข้อเสนอสำหรับเจ้าสองคนเจ้าช่วยฟังข้าได้ไหม” มกุฎราชกุมารเริ่มพูด
“ข้อเสนอ?” ยู่ฉานเลิกคิ้วใส่เขา
“มันคืออะไรหรือ ท่านมกุฎราชกุมาร” ยุ่นหลิงถามด้วยรอยยิ้มจางๆ
มกุฎราชกุมารมองพวกเขาอย่างมุ่งมั่นสักครู่ก่อนกล่าวว่า “มาทำภารกิจของพวกเราด้วยกันเถอะ”
“โอ้?” ยู่ฉานสนใจหลังจากได้ยินเรื่องนั้น
“ทำไมเราควรร่วมมือกันล่ะ?” ยุ่นหลิงรู้สึกทึ่งกับแนวคิดของมกุฎราชกุมาร แต่เขาไม่ได้แสดงให้เห็น แต่เขาถามเพราะว่าต้องการฟังคำอธิบายของเขา
“มันง่ายมาก ถ้าเราช่วยกันทำภารกิจก็จะง่ายขึ้นมาก เราอาจถูกห้ามไม่ให้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากตระกูลของเรา แต่ก็ไม่ได้บอกว่าพวกเราไม่สามารถช่วยกันได้ ข้ารู้ว่าพวกเราทุกคนสามารถทำภารกิจของเราได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็นหากเราสามารถทำร่วมกันได้และในเวลาเดียวกันก็ต้องมั่นใจในความปลอดภัยด้วย” มกุฎราชกุมารอธิบาย
“ข้าคิดว่าเป็นเรื่องดีในข้อเสนอของท่าน มกุฎราชกุมาร” ยู่ฉานคิดว่าความคิดของเขาเป็นเรื่องที่ดี
“แน่นอน เป้าหมายของเราคือผู้ฝึกตนขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ พวกนั้นมีสามคนในขณะที่มีเราแค่คนเดียว ถ้าพวกเขาร่วมมือกันเราก็คงไม่ได้รับบาดเจ็บ” จากนั้นยุ่นหลิงก็ครุ่นคิดสักครู่และเสริมว่า “ถ้ายังไม่รวมคนทีคิดจะขัดขวางเราอีกล่ะ”
ยุ่นหลิงไม่จำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดว่าเขาหมายถึงใคร พวกเขารู้แล้วว่าเขาพูดถึงใคร ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เข้าร่วมทั้งหมด หากทั้งสามคนถูกสังหารในการเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ คนเหล่านั้นจะเป็นคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุด พวกเขาเป็นสามผู้แข่งขันที่แข็งแกร่งที่สุดในการชิงที่หนึ่ง หากพวกเขาตายคนพวกนั้นจะสูญเสียศัตรูที่น่ากลัวสามคนในการแข่งขันไป
“แล้วเจ้าจะเอายังไงล่ะ” มกุฎราชกุมารถาม
“ข้าขอปฏิเสธ” ยุ่นหลิงปฏิเสธข้อเสนอของเขา
มกุฎราชกุมารผงะกับคำตอบของเขา เขาคิดว่ายุ่นหลิงจะเห็นด้วยอย่างแน่นอนหลังจากได้ฟังคำอธิบายของเขา แต่คำตอบของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา
“ทำไมกัน? เจ้าไม่เห็นด้วยหรือว่าการทำภารกิจร่วมกันดีกว่าการทำภารกิจคนเดียวมากนัก” มกุฎราชกุมารถามด้วยความงงงวยเล็กน้อย
ยุ่นหลิงค่อยๆพยักหน้าให้เขา
“ก็อย่างที่ท่านพูดงานของภารกิจจะง่ายขึ้นอย่างมากหากเราร่วมมือกัน แต่อย่าลืมนะมกุฎราชกุมาร พวกเราเป็นคู่แข่งกัน”
สายตาของมกุฎราชกุมารจ้องเขม็งเมื่อได้ยินคำพูดของยุ่นหลิง
“ถ้าพวกเราตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเราจะได้รู้ความสามารถของอีกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเราไปทำภารกิจ ข้าค่อนข้างไม่ชอบมันนัก ข้าต้องการรักษาความสามารถของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จนถึงวันคัดเลือกมังกรทอง นั่นคือเหตุผลที่ข้าปฏิเสธ” ยุ่นหลิงกล่าวขณะที่เขามองไปที่มกุฎราชกุมารด้วยสายตาที่ไม่เกรงกลัว
มกุฎราชกุมารจ้องมองเขาในความเงียบงันครุ่นคิดบางอย่าง ไม่กี่อึดใจเขาก็ยิ้มออกมา
“ดูเหมือนว่าข้าจะหวาดกลัวเกินไป ถูกของเจ้าหากเจ้ายอมรับข้อเสนอของข้า พวกเราอาจจะทำภารกิจร่วมกันได้ในตอนนี้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องเป็นคู่แข่งกัน จงลืมไปซะว่าข้าเคยพูดถึงสิ่งนี้”
ยู่ฉาน มองพวกเขาสองคนด้วยรอยยิ้มที่ไร้กังวลบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาพูดเสริมใน “ข้าคิดว่าความคิดของมกุฎราชกุมารนั้นดีจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันข้าเองก็อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับยุ่นหลิงในตอนนี้ ข้าไม่รู้ว่าจะเลือกอยู่ฝ่ายไหนดี”
“ไม่จำเป็นต้องเลือก” ยุ่นหลิงพูดยิ้มๆ “พวกเราเป็นคู่แข่งกันดังนั้นในการแข่งขันครั้งหน้าพวกเราจะต้องกลับมาเจอกันหน้าอีกครั้ง”
ยู่ฉานยิ้มในขณะที่รอยยิ้มของมกุฎราชกุมารก็ยิ่งกว้างขึ้น
“เราจะตัดสินว่าใครเก่งที่สุดในบรรดาพวกเราในการคัดเลือกมังกรทอง”