เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 28
บทที่ 28 ผลไม้อายุยืน
หยุนหลิงหรี่ตาลงที่เขา ชายชราหลังค่อมคนนี้อาจดูเหมือนอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเสนาบดีของจักรวรรดิ มันเป็นตำแหน่งสูงสุดที่มีในจักรวรรดิจิ๋น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร อำนาจของเขาต่ำกว่าจักรพรรดิเท่านั้น เขาสามารถทำได้เกือบทุกอย่างในจักรวรรดิโดยไม่มีใครสามารถต่อต้านเขาได้นอกจากจักรพรรดิ
ในอดีตบางครั้งยุ่นซานก็พา ยุ่นหลิงไปที่วังเมื่อเขามีธุระบางอย่างที่นั่น ตอนนั้นยุ่นหลิงได้รู้จักกับบุคคลที่สำคัญที่สุดสองสามคนในจักรวรรดิเช่นพ่อของยู่ฉานผู้บัญชาการหน่วยของจักรวรรดิและเจิ้งหยี่ที่เป็นเสนาบดี แม้ว่ายุ่นหลิงและเจิ้งหยี่จะเคยเห็นหน้ากันสองสามครั้งก่อนหน้านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพูดคุยกันอย่างจริงจัง
“อันที่จริง ใช่ ข้ามีเรื่องที่จะคุยกับเจ้า” เจิ้งหยี่พยักหน้า “ข้าจะพูดตรงประเด็นเลยแล้วกันชายชราคนนี้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงต้องการขอบางอย่างจากเจ้า หากเจ้าได้เห็นผลไม้อายุยืนในการเดินทางของเจ้าโปรดขายให้ข้าด้วย ข้าจะจ่ายเงินให้เจ้ามากกว่าราคาที่เจ้าจะขายได้ในตลาด “
หยุนหลิงขมวดคิ้ว “ท่านขอร้องแบบนี้แสดงว่าท่านร็ว่าข้ากำลังจะไปที่ไหนใช่หรือไม่?”
เจิ้งหยี่ยิ้ม “ไม่ว่าจะยังไง ชายชราคนนี้ยังคงเป็นเสนาบดีของจักรวรรดิ ข้ารู้เรื่องบางอย่างได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่แค่ข้า เจ้าหน้าที่อีกหลายคนทราบเช่นกัน แม้แต่ปู่ของเจ้าก็ยังรู้ถึงภารกิจของเจ้าเลย”
“อ้อข้าเข้าใจแล้ว” ยุ่นหลิงพึมพำ นั่นคือเหตุผลที่ปู่ของเขาขอให้เขานำเนื้อ นกยักษ์มาให้เมื่อเขากลับบ้าน แม้ว่าปู่จะไม่ได้บอกเขา แต่ปู่ของเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเขาจะไปที่ไหน
“เจ้าจะตกลงไหมยุ่นหลิง” เจิ้งหยี่ถาม
ยุ่นหลิงครุ่นคิดสักครู่ ผลไม้อายุยืนเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก เป็นเพราะผลไม้อายุยืนสามารถเพิ่มอายุขัยของคนได้หลายปีขึ้น ซึ่งอยู่กับคุณภาพของผลไม้นั้นๆ มีผลไม้อายุยืนที่สามารถให้อายุขัยสิบปีในขณะที่มีผลไม้ที่สามารถให้หนึ่งร้อยปี
มีแม้แต่ผลที่สามารถให้อายุขัยหนึ่งพันหรือหมื่นปีแก่คนๆนั้นได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นผลไม้อายุยืนชนิดใดก็ตามล้วนแล้วแต่หายากอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งเป็นผลไม้ที่ให้อายุยืนยาวกว่าหนึ่งร้อยปีนั้นหายากยิ่งกว่า
ยุ่นหลิงยังไม่ต้องการผลไม้อายุยืนในตอนนี้ เขายังหนุ่มแน่น ด้วยขอบเขตการฝึกตนของเขาเขายังคงมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าพันปีโดยไม่ใช่ปัญหาเว้นแต่จะมีใครมาฆ่าเขา เช่นเดียวกับพ่อและปู่ของเขา ด้วยขอบเขตการฝึกตนของพวกเขา พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ได้นานมาก ในทางกลับกันแม่และย่าของเขาแม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถน้อยกว่าพ่อและปู่ของเขาในด้านการฝึกตน แต่พวกเขาก็มีค่าเฉลี่ยที่สูงเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ดังนั้นพวกเขาก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน เมื่อพูดถึงพี่ชายของเขาทั้งสองก็ยังหนุ่มเหมือนกัน คนหนึ่งอายุมากกว่าเขาเล็กน้อยในขณะที่อีกคนอายุน้อยกว่าเขา ทำให้ยุ่นหยี่และพ่อของเขาพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่อีกนาน ดังนั้นยุ่นหลิงจึงไม่ต้องการผลไม้อายุยืนในตอนนี้
“ข้าไม่มีปัญหาที่จะขายให้ท่านเสนาบดีหรอก และนั่นคือหลักฐานที่ว่าข้าจะหามันให้เจอ” ยุ่นหลิงพูดกับเขา
เจิ้งหยี่ยิ้มอย่างโล่งใจ “เอาล่ะ ข้าเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะพบมัน แต่ถ้าเจ้าพบมันจริงๆข้าจะเป็นหนี้บุญคุณเจ้าตลอดไป”
“ก็เพื่อตัวท่านเองนั่นแหละ” ยุ่นหลิงยิ้มเล็กๆ “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอลาแต่เพียงเท่านี้นะ”
เจิ้งหยี่หัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาเดินไปด้านข้างๆ “ขอโทษนะที่ข้าขวางทาง”
“ไม่เป็นไรหรอก ท่านเสนาบดี”
“ก่อนที่เจ้าจะจากไป ข้าอยากให้เจ้าระวังองค์ชายที่สี่เด็กคนนั้นหน่อย ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้าทั้งสอง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าะดูเข้ากันไม่ได้กับเขา” เจิ้งหยี่เตือนสติก่อนที่ยุ่นหลิงจะลาจากไป
ยุ่นหลิงเลิกคิ้วใส่เขา “ท่านเสนาบดีรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
เจิ้งหยี่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ชายชราคนนี้ไม่มีอะไรทำ เลยตัดสินใจที่จะสังเกตการ์ณงานเลี้ยงเมื่อคืนจากที่ไกลๆ ตราบใดที่มีคนสังเกตุความสัมพันธ์ของเจ้ากับอีกฝ่ายพวกเขาจะสังเกตเห็นได้อย่างง่ายว่าเจ้าทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร”
“ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณที่บอกข้ามาก ท่านเสนาบดี” ยุ่นหลิงพยักหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าต้องระวังองค์ชายที่สี่ไว้ก่อน แต่เขาก็ขอบคุณคำเตือนของเขา
“อย่าดูถูกเด็กคนนั้นมากเกินไป เขาอาจจะไม่มีอะไรในสายตาเจ้า แต่ถึงอย่างนั้นคนอย่างเขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคนอันตรายเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม ถึงแม้เจ้าจะมองเขาเป็นเพียงมดแต่มดก็ยังกัดเจ้าได้” เจิ้งหยี่กล่าวอย่างจริงจัง
ยุ่นหลิงมองเขาอย่างครุ่นคิด เจิ้งหยี่ไม่ได้เป็นเสนาบดีที่ไร้ความสามารถ เขาอาจจะพูดจากประสบการณ์อันยาวนานของเขาดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเอาคำแนะนำนี้บอกเขา มันไม่ใช่ว่าเขาจะสูญเสียอะไรบางอย่างจากการระมัดระวังตัวต่อองค์ชายที่สี่มากขึ้น แต่นั่นเป็นคำแนะนำที่ดีซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมรับฟัง
“ข้าจะจำไว้นะท่านเสนาบดี” ยุ่นหลิงพูด “งั้นข้าไปจริงๆแล้วนะท่าน”
“ระวังตัวด้วยล่ะ” เจิ้งหยี่พยักหน้าให้เขา
ยุ่นหลิงเก็บคำแนะนำนั้นไว้ และให้สัญญาณกับคนขับรถม้าของเขาทำให้ม้าเริ่มวิ่งทันที
เจิ้งหยี่หยุดรอครู่หนึ่งและเฝ้าดูการจากไปของเขา เมื่อยุ่นหลิงหายลับไปจากสายตาในที่สุดเขาก็ออกไปจากที่นั่น
ขณะที่ยุ่นหลิงนั่งบนรถม้า เขาคิดย้อนกลับไปที่การสนทนาของเขากับเสนาบดีก่อนหน้านี้ ยุ่นหลิงบอกเขาว่าเขาจะขายผลไม้อายุยืนให้กับเขา หากเขาโชคดีที่พบมันในการเดินทางของเขา
นั่นเป็นเรื่องโกหก
ถ้ายุ่นหลิงพบเขาจะเก็บมันไว้กินเองและไม่บอกเสนาบดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการผลไม้อายุยืนในตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเขาจะใช้มันในอนาคต ไม่มีใครรู้อนาคตของตัวเองอย่างแน่นอน วันหนึ่งสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งของเขาอาจต้องการมันดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่เขาจะเก็บไว้เผื่อในกรณีนั้นเกิดขึ้น
ในฐานะบุคคลที่สำคัญและน่าเชื่อถือที่สุดคนหนึ่งในจักรวรรดิหากเสนาบดีตายหลายคนก็จะเสียใจกับการตายของเขาอย่างแน่นอน แต่สำหรับยุ่นหลิงเขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย การตายของเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรสำหรับเขาเพราะครอบครัวของเขามีความสำคัญสำหรับเขามากกว่าคนอื่นๆ
ยุ่นหลิงรู้สึกซาบซึ้งกับคำแนะนำที่เสนาบดีมอบให้เขา แต่มันก็เป็นการดูถูกเขาเกินไป ไม่ว่ายุ่นหลิงจะพบผลไม้อายุยืนหรือไม่ก็ตามเสนาบดีจะไม่ได้รับผลไม้อายุยืนจากเขา