เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 54
บทที่ 54 นายน้อยกลับมาหาลูกสาวอีกครั้ง
ยุ่นหลิงค่อยๆลงจากหลังของจิ้งจอกขณะที่เขาเอาลูกราชาราชสีห์เข้าสู่อ้อมแขนของเขา จากนั้นเขาก็เดินไปหาสมาชิกในตระกูลของเขาโดยมีจิ้งจอกเดินติดตามอยู่ข้างๆ
หลี่จิ้งถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นลูกชายของเธอ เธอรีบเข้าหาเขาทันทีและโอบกอดเขาอย่างแน่น
“ปู่เจ้าบอกว่าภารกิจของเจ้าอยู่ที่หุบเขาพันภูเขา ข้าดีใจที่เจ้าสบายดี” หลี่จิงพูดเบาๆเธอรู้ว่าหุบเขาพันภูเขานั้นอันตรายเพียงใดเพราะสถานที่แห่งนั้นเป็นที่อยู่ของอสูรหายาก ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของอสูรในโลกพสุธาอยู่ที่นั่นโดยที่เหลืออีกสิบเปอร์เซ็นต์กระจัดกระจายไปทั่วโลก
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอ
“ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านแม่เป็นห่วง อย่างที่ท่านเห็นข้าสบายดี” ยุ่นหลิงให้ความมั่นใจกับเธอ “ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป ข้าดูแลตัวเองได้แล้ว”
หลี่จิ้งขมวดคิ้ว “ถึงอย่างนั้น…”
ในขณะนี้ลูกราชาราชสีห์ร้องออกมาขณะที่มันมองไปที่หลี่จิ้งอย่างน่ารักและดึงดูดความสนใจของเธอ เธอสังเกตเห็นอสูรทั้งสองก่อนหน้านี้แล้ว แต่เธอมัวแต่เป็นหวงเกี่ยวยุ่นหลิงมากกว่าดังนั้นเธอจึงไม่สนใจอสูรทั้งสอง ตอนนี้เธอมองไปที่ลูกราชาราชสีห์ที่น่ารักอย่างอยากรู้อยากเห็น
“แล้วนี่มันตัวอะไรกัน?”
“มันเป็นอสูรที่มีสิงโตที่หายากเป็นลูกชายของจิ้งจอกตัวนี้” ยุ่นหลิงพูดพร้อมกับชี้ไปที่จิ้งจอกข้างๆเขา
ครอบครัวของยุ่นหลิงที่เหลือเดินเข้ามาหาเขาขณะที่คนเหล่านั้นมองไปที่จิ้งจอกกับลูกราชาราชสีห์อย่างปริศนา อสูรสองตัวนี้เป็นพ่อลูกกันงั้นรึ’?
ยุ่นหลิงรู้สึกสนุกกับปฏิกิริยาของพวกเขา เขาสามารถทำให้คนเหล่านั้นตกใจได้ทั้งหมดเพราะตอนแรกเองยุ่นหลิงก็ตกใจเช่นเดียวกับพวกเขา
“ท่านพ่อ!” ยุ่นเซี่ยร้องออกมาขณะที่เธอวิ่งไปหายุ่นหลิง
ยุ่นหลิงให้ความสนใจกับเธอมานานและรอให้เธอวิ่งมาหาเขา เขายิ้มออกมาขณะที่เขาย่อตัวลงและอุ้มยุ่นเซี่ยไว้ในอ้อมแขน ตอนนี้ทั้งยุ่นเซี่ยและลูกราชาราชสีห์อยู่ในอ้อมแขนของยุ่นหลิง
“เซี่ยเซี่ย เจ้าคิดถึงพ่อหรือเปล่า”? ยุ่นหลิงถาม
สำหรับลูกสาวคนนี้ของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดที่ทิ้งเธอไว้คนเดียว เขาคิดจะพายุ่นเซี่ยไปด้วยระหว่างทำภารกิจของเขา เขามั่นใจเต็มร้อยว่าเขาสามารถปกป้องเธอจากอันตรายใดๆได้ทั้งหมดหากเขาพาเธอไป แต่สุดท้ายยุ่นหลิงก็ดีใจที่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น หุบเขาพันภูเขานั้นอันตรายเกินไป มีแม้แต่เซียนที่อาศัยไปทั่วทุกพื้นที่อย่างอิสระ พวกเขาทั้งสามโชคดีที่ต้นไม้เซียนวิลโลว์ ไม่ได้เอาจริงกับพวกเขาพวกเขาจึงสามารถหลบหนีออกมาได้
ยุ่นเซี่ยพยักหน้าอย่างเศร้าๆ จากนั้นเธอก็ทำหน้ามุ่ยใส่พ่อของเธอขณะที่เธอพูดว่า “ท่านพ่ออย่าทิ้งยุ่นเซี่ยไว้คนเดียวอีกนะ”
ยุ่นหลิงนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในหุบเขาพันภูเขาและส่ายหัว
“พ่อไม่สามารถสัญญากับเจ้าแบบนั้นได้เซี่ยเซี่ย พ่อจะเสียใจมากถ้าเซี่ยเซี่ยบาดเจ็บเพราะพ่อพาเซี่ยเซี่ยไปด้วย” ยุ่นหลิงกล่าว
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับยุ่นเซี่ยเขาจะต้องคุมสติตัวเองไม่ได้อย่างแน่นอน
ยุ่นเซี่ยอาจฉลาดกว่าเด็กคนอื่นๆในวัยของเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง เธอยังไม่เข้าใจว่ายุ่นหลิงเอาแต่คิดถึงความเป็นอยู่ของเธอ ไม่สิ เธอเข้าใจสิ่งนั้น แต่ความปรารถนาที่อยากจะอยู่กับพ่อของเธอนั้นยิ่งใหญ่มากจนเธอไม่สนใจความห่วงใยของยุ่นหลิงที่มีต่อเธอได้ น้ำตาไหลพรากในออกมาจากดวงตาของเธอ เมื่อนึกถึงพ่อของเธอที่จะให้เธออยู่คนเดียวอีกครั้งในวันข้างหน้า
ยุ่นหลิงคิ้วกระตุกเมื่อเห็นยุ่นเซี่ยกำลังจะร้องให้
“เซี่ยเซี่ย พ่อของเจ้าในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป เมื่อพ่อแข็งแก่รงขึ้นกว่านี้พ่อจะพาเจ้าไปที่ต่างๆด้วย” ยุ่นหลิงปลอบเธอ
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้ว่าเขาจะต้องยกเว้นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเซียนและสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือสิ่งนั้นอีกทีเขาก็ยังอ่อนแออยู่ดี มีอีกหลายคนที่มีพลังมากกว่าเขา ซึ่งในจักรวรรดิจิ๋นเพียงจักรวรรดิเดียวก็มีหลายคนที่เหนือกว่าเขา คือพ่อลุงปู่ของเขาและพ่อของยู่ฉานที่ยังมีจักรพรรดิมีพลังอำนาจมากกว่าเขา เขายังคงอยู่ห่างจากการเป็นคู่ต่อสู้ของคนเหล่านั้น
ยุ่นซานขมวดคิ้วเขารู้จักลูกชายของเขาดีเขาสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่า ยุ่นหลิงกำลังทำตัวแปลกๆ คำพูดที่เขาพูดกับลูกสาวและการแสดงออกของเขา มันทำให้ดูไม่น่าเชื่อในสายตาว่าคนที่หยิ่งผยองแบบนั้นจะเป็นคนที่อ่อนน้อมในวันนี้ อย่างไรก็ตามคราวนี้เขากำลังพูดกับลูกสาวอย่างนอบน้อม แม้ว่ายุ่นหลิงจะพยายามทำตัวให้ดีที่สุดเมื่อเขาอยู่กับยุ่นเซี่ยเขาจะไม่ทำอะไรที่ดูโหดเหี้ยมต่อหน้าเธอ แต่ครั้งนี้เขาก็ถ่อมตัวเกินไป
“ยุ่นหลิง พวกเรามีเรื่องต้องคุยกันหลังเจ้าที่เจ้าพักผ่อนเต็มที่แล้ว” ยุ่นซานพูดขณะที่เขามองลูกชายของเขาอย่างถี่ถ้วน
ยุ่นหลิงยิ้มแหยๆ เขาคงทำตัวผิดไปจนพ่อเขาสังเกตุได้
แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ยุ่นเหว่ยก็รู้สึกเช่นเดียวกับยุ่นซานและสังเกตเห็นความรู้สึกแปลกๆ ของยุ่นหลิงมานานแล้ว ปกติเขาจะรำคาญหลานชายของเขา แต่ตอนนี้เขาก็เงียบขรึมแม้เค้าจะดูน่ารำคาญในสายตายุ่นหลิง แต่เขาก็ไม่ได้เป็นอดีตหัวหน้าตระกูลที่ไร้ความสามารถ
“เจ้าหลิงเจ้าคิดยังไงถึงได้พาสองตัวนี้มาด้วย เจ้าช่วยแนะนำพวกมันให้เรารู้ได้ไหม”? เย่อหลินกล่าวขณะที่เธอมองไปที่อสูรทั้งสองตัว
“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันนายน้อยเจ้านี่ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ” ยุ่นยี่กล่าวขณะที่เขาจับตาดูจิ้งจอกตัวนั้น
จิ้งจอกเขี้ยวหิมะคำรามใส่ยุ่นหยี่ มันไม่ชอบวิธีที่เขามองมัน
“จิ้งจอกเขี้ยวหิมะ เจ้าใจเย็นๆก่อนเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ถึงเขาจะมองเจ้าแบบนั้น แต่เขาก็เป็นคนที่ไว้วางใจได้”
จิ้งจอกทำตามที่เขาบอกทันทีและพูดว่า “เข้าใจแล้วนายน้อย”
ยุ่นหยี่หรี่ตาลงที่จิ้งจอก ‘อสูรตัวนี้ … ข้าเกรงว่าองค์ชายที่สี่จะจัดการกับอสูรและยุ่นหลิงได้ยากขึ้นซะแล้ว’
หยื่อตงเหม่ยมองไปที่จิ้งจอกด้วยสายตาที่หรี่ลงโดยเธอรู้ว่ามันเป็นจิ้งจอกประเภทไหน ถึงจะรู้เช่นนั้นแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
แววตาของยุ่นเซี่ยเปล่งประกาย ตอนนี้เธอพึ่งสังเกตเห็นอสูรหายากสองตัวอยู่กับพ่อของเธอเนื่องจากก่อนหน้านี้เธอให้ความสำคัญกับพ่อของเธอมากกว่าสิ่งอื่นใด
“ท่านพ่อ! นี่คือลูกของราชาราชสีห์หรือเปล่า” ยุ่นเซี่ยถามด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอมองไปที่ลูกของราชาราชสีห์ที่อยู่ข้างๆเธอ จากนั้นเธอก็มองไปที่จิ้งจอก “มหัศจรรย์มาก! เทพเจ้าจิ้งจอกหิมะ! นี่เป็นครั้งแรกที่ยุ่นเซี่ยได้เห็น!”
ยุ่นหลิงมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ ขนาดเขายังไม่รู้ว่าจิ้งจอกเขี้ยวหิมะเป็นอสูรชนิดใดถ้ามันไม่ได้บอกเขา แต่ยุ่นเซี่ยกลับรู้ว่าจิ้งจอกเขี้ยวหิมะเป็นเทพเจ้าจิ้งจอกหิมะ? แล้วเธอยังรู้จักลูกราชาราชสีห์ด้วย ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่ต่างจากลูกสิงโตทั่วไปก็ตาม