เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 55
บทที่ 55 บ้านแสนสุข
“เก่งมากเซี่ยเซี่ย! หนูรู้ได้อย่างไรว่าพวกมันคืออะไร”? ยุ่นหลิงถามด้วยความประหลาดใจอย่างไรก็ตามเขาแอบชำเลืองไปมองหยื่อตงเหม่ยด้วยหางตา
ยุ่นเซี่ยอ้าปากค้างโดยนึกได้ว่าเธอลืมตัว เธอเอามือปิดปากไว้ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มให้พ่ออย่างไร้เดียงสา
“เก่งจริงๆลูกสาวของข้า” ยุ่นหลิงหัวเราะเบาๆที่ลูกสาวของเขา
“เอาล่ะ แทนที่เราจะยืนกันตรงนี้ ทำไมเราไม่ไปคุยต่อข้างในล่ะ ถ้าพูดดังไปกว่านี้อาจจะมีคนอื่นได้ยินนะ” ยุ่นซานพูดขณะมองไปที่อาคารหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา เขาขมวดคิ้ว มีคนแอบดูพวกเขาอยู่
มีเงาของบุคคลคนหนึ่งมองออกมาจากหน้าต่างบานหนึ่งของอาคารนั้น เงานั้นหายไปทันทีเมื่อสังเกตเห็นหัวหน้าของตระกูลยุ่นที่มองมาที่เขา
“นั่นสินะ”
ยุ่นหลิงพยักหน้าขณะที่เขามองไปที่อาคารนั้น
ยุ่นหลิงและคนที่เหลือเริ่มมุ่งหน้าเข้าไปข้างในขณะที่ยุ่นซานเดินอยู่ข้างหลัง หนึ่งในสมาชิกตระกูลยุ่นอีกคนก็ยังคงยืนอยู่ข้างหลังยุ่นซานอีกที
“อย่าปล่อยให้มันหนีไป จับตัวผู้ชายคนนั้นไว้” ยุ่นซานสั่ง
“เข้าใจแล้ว” สมาชิกของตระกูลกล่าวก่อนที่เขาจะหายไป
…
“เจ้าจิ้งจอกเขี้ยวหิมะ นี่คือครอบครัวของข้า นี่แม่ของข้าหลี่จิง…” ยุ่นหลิงแนะนำครอบครัวของเขาทีละคนในขณะที่เขาแสดงท่าทางต่อแม่ย่าลูกสาวฯลฯ
จิ้งจอกพยักหน้าโดยจดจำใบหน้าและชื่อของพวกเขา คนเหล่านี้เป็นครอบครัวของนายน้อยของมันดังนั้นพวกเขาจึงเป็นพันธมิตรของมันด้วย จากนั้นมันก็มองไปที่ลูกชายของมันที่อยู่บนตักของยุ่นเซี่ยที่นั่งข้างพ่อของเธอ จิ้งจอกเขี้ยวหิมะยิ้มออกมาเมื่อเห็นแบบนั้น
“คนๆนี้เป็นคนที่น่ารำคาญ เจ้าสามารถเมินเขาได้เท่าที่เจ้าต้องการ” ยุ่นหลิงพูดอย่างเหนื่อยหน่ายขณะที่เขาชี้ไปที่ปู่ของเขา
“ไอ้เวรนี่ พูดจาแบบนี้แสดงว่าเก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วนี่หว่า!” ยุ่นเหว่ยกัดฟันขณะที่มองหลานชายด้วยความเป็นปรปักษ์
เย่อหลินตบหัวเขาและด่าว่า “เจ้ากำลังเรียกใครว่าไอ้เวรกันห้ะ?! นั่นคือหลานชายของข้าที่เจ้าหมายถึงอยู่! และยังมีเด็กอยู่ที่นี่ด้วย!”
“ท่านปู่นิสัยไม่ดี” ยุ่นเซี่ยพูดพลางขมวดคิ้ว ยายและย่าของเธอบอกเธอว่ามีแต่คนนิสัยไม่ดีเท่านั้นที่จะใช้คำนั้น เธอไม่ใช่ผู้หญิงนิสัยไม่ดี ดังนั้นเธอจะไม่ใช้คำนั้นเลย เธอไม่ต้องการให้พ่อของเธอไม่ชอบที่เธอเป็นเด็กนิสัยไม่ดี
ยุ่นเหว่ยรู้สึกราวกับว่ามีลูกศรที่มองไม่เห็นแทงทะลุหัวใจ เขาล้มลงต่อหน้าทั้งสี่คนขณะที่เขาพึมพำ “หลานสาวของข้าไม่ชอบข้าหลานสาวของข้าไม่ชอบข้า…”
ยุ่นหลิงส่ายหัวกับการแสดงที่น่าสมเพชของปู่ของเขา เขาหันไปหาลูกสาวและบอกเธอว่า “อย่าเป็นคนแบบนั้นเลยนะเซี่ยเซี่ย”
“อื้ม!” ยุ้นเซี่ยพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะไม่เป็นอย่างท่านปู่ที่นิสัยไม่ดีแน่นอน”
ตอนนี้ยุ่นเหว่ยนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นร้องไห้อย่างขมขื่น
จิ้งจอกเหงื่อตก ช่างเป็นครอบครัวที่แปลกประหลาดที่มันได้พบเจอ โดยเฉพาะชายวัยกลางคนคนนั้น ทำไมเขาถึงทำตัวเหมือนเด็ก?
“ท่านพ่อบอกว่าท่านพ่อจะให้ของขวัญยุ่นเซี่ยถ้ายุ่นเซี่ยเป็นเด็กดี ท่านพ่อยุ่นเซี่ยเป็นเด็กดีตลอดเวลา ของขวัญของหนูอยู่ที่ไหน?” ยุ่นเซี่ยถามพลางมองเขาอย่างคาดหวัง
เหงื่อหยดลงบนขมับของยุ่นหลิงเมื่อเขาเห็นท่าทางนั้นจากลูกสาวของเขา เขาลืมไปเสียสนิทว่าเขาเคยพูดแบบนั้นก่อนออกไปทำภารกิจ หากยุ่นเซี่ยไม่ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็คงลืมไปแล้ว
ในตอนนี้เขาไม่มีของขวัญให้เธอเพราะเขาถูกต้นไม้เซียนวิลโลว์ไล่ล่า แม้ว่าพวกเขาจะออกจาก หุบเขาพันภูเขาแล้ว เขาก็มุ่งเป้าไปที่การออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้จากสถานที่นั้น เขาไม่มีเวลาและโอกาสที่จะหาของขวัญให้เธอได้เลย การทำแบบนี้ทำให้เขารู้สึกแย่ลง
ยุ่นหลิงมีสีหน้าลำบากใจขณะพยายามอธิบายตัวเองว่า “อ่า อย่างงั้นเหรอ พ่อลืมเอาของขวัญมาให้เซี่ยเซี่ยน่ะ ถ้ายังไงพรุ่งนี้พ่อกับเซี่ยเซี่ยออกไปข้างนอกด้วยกันไหม พ่อจะซื้ออะไรก็ได้ที่เซี่ยเซี่ยชอบ”
แววตาของยุ่นเซี่ยเป็นประกาย นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธออยากทำตั้งแต่นานมาแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ ตอนนี้เธอเฝ้ารอวันพรุ่งนี้ สิ่งเดียวที่ขาดไปคือแม่ของเธอ มันจะสมบูรณ์แบบกว่านี้ถ้ามีแม่ของเธออยู่ด้วย
“อื้ม! ท่านพ่อต้องไม่คืนคำนะ!” ยุ่นเซี่ยกล่าวอย่างมุ่งมั่น เธอตื่นเต้นมากสำหรับวันพรุ่งนี้ เธอไม่ต้องการให้มันยกเลิกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ฮ่าฮ่า ไม่แน่นอน” ยุ่นหลิงหัวเราะออกมาขณะที่เขาเอามือขยุ้มผมของยุ่นเซี่ย
ทันใดนั้นประตูก็เลื่อนเปิดออกขณะที่ยุ่นซานเดินเข้ามาข้างในพร้อมกับสีหน้าหนักใจทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปที่เขา
ยุ่นซานถอนหายใจ คนที่เขาส่งไปตามสายลับไม่ทันเวลา เขาลงมือเร็วแล้ว แต่สายลับนั้นเร็วกว่าและสามารถหลบหนีได้อย่างไร้ร่องรอย สายลับคนนั้นยังตั้งกับดักไว้ในอาคาร แต่โชคดีที่ลูกน้องของเขามีทักษะเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงกับดักเหล่านั้นโดยไม่เป็นอันตราย
ยุ่นหยี่ขมวดคิ้ว คนที่อยู่ในอาคารน่าจะเป็นสายลับขององค์ชายที่สี่ เขาอยู่ที่นั่นมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ตอนนี้ยุ่นซานเท่านั้นที่สามารถรู้และเจอตัวเขาได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามซ่อนตัวอย่างไร เขาอาจประหลาดใจกับบางอย่างทำให้เขาทำพลาดแม้จะเพียงนิดเดียวเท่านั้นและปล่อยให้ ยุ่นซานตรวจพบเขาเจอ ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากเขาจะประมาทเอง
“อย่างไรก็ตามภารกิจของท่านเป็นอย่างไรบ้างนายน้อย” ยุ่นหยี่ถามด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องมันยาวน่ะยุ่นหยี่” ยุ่นหลิงพูดอย่างเหนื่อยล้าและนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขาพันภูเขา
ยุ่นยี่ทำได้เพียงแค่เลิกคิ้วเท่านั้น ดูเหมือนว่ายุ่นหลิงจะทำไม่สำเร็จเขาถึงได้เป็นแบบนี้ เขาไม่ได้ถามอะไรมากกว่านี้เนื่องจากยุ่นหลิงได้แสดงความชัดเจนในคำตอบของเขาแล้วว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้
หยื่อตงเหม่ย ที่มักจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรกลับขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้เธอได้ยินหลิ่จิ้งพูดเมื่อยุ่นหลิงมาถึงว่างานของเขาอยู่ที่หุบเขาพันภูเขา ทำให้ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ายุ่นหลิงไปที่ใดมา
“มันดึกมากแล้ว ยุ่นหลิงเจ้าควรพักผ่อนสะก่อนในตอนนี้” ยุ่นซานกล่าวขณะมองไปที่ยุ่นหลิงพวกเขาเป็นผู้ฝึกตนจึงไม่ต้องการการพักผ่อนมากนัก อย่างไรก็ตามเขาเห็นว่าลูกชายของเขาดูเหนื่อยมาก ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในหุบเขาพันภูเขาก็ตาม ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเลยสำหรับยุ่นหลิง
ยุ่นหลิงพยักหน้า “เอาล่ะข้าตอนนี้ขาขอไปพักผ่อนก่อน เซี่ยเซี่ยลูกอยากนอนด้วยกันกับพ่อไหม?”
“หื้มม!”
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอ จากนั้นเขาก็หันไปทางยุ่นซาน “ท่านพ่อขอรบกวนท่านเตรียมห้องสำหรับ จิ้งจอกเขี้ยวหิมะและลูกชายของมันได้ไหม ตั้งแต่วันนี้พวกมันจะมาอยู่กับพวกเราด้วย”
“ข้าจะบอกคนรับใช้ให้เตรียมห้องไว้ข้างๆห้องของเจ้าแล้วกัน”