เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 57
บทที่ 57 ผ่อนคลาย
ยุ่นหลิงรู้สึกผ่อนคลายขณะที่เขาปล่อยให้น้ำไหลลงสู่ร่างกายของเขา ไม่มีอะไรดีไปกว่าการอาบน้ำหลังจากใช้เวลาสิบสี่วันนอกบ้าน เขารู้สึกสะอาดสดชื่นและมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นโดยการได้อาบน้ำเพียงครั้งเดียว
หลังจากอาบน้ำยุ่นหลิงก็ไปที่บ่อน้ำพุร้อนของตระกูลและลงไปแช่ เขาถอนหายใจด้วยความผ่อนคลายขณะเอนหลังไปที่กำแพงหินของบ่อน้ำพุร้อนโดยมีน้ำอยู่ระดับเดียวกับหน้าอกของเขา
บ่อน้ำพุร้อนนี้เป็นทรัพย์สินเฉพาะของตระกูล มันไม่ใช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ มันเป็นบ่อที่ใช้ความร้อนจากศิลาวิญญาณ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรทางจิตวิญญาณผสมอยู่ในน้ำพุร้อนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของผู้ฝึกตนด้วย มันเหมาะสำหรับยุ่นหลิงที่เพิ่งกลับมาจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยจากหุบเขาพันภูเขา บ่อน้ำพุร้อนนี้สามารถบำบัดจิตใจของเขาและผ่อนคลายความตึงเครียดที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของเขา
ทันใดนั้นประตูของห้องบ่อน้ำพุร้อนก็เปิดออก ทำให้เห็นพ่อและปู่เขาเดินเปลือยเข้ามาข้างใน ทั้งคู่มีเพียงผ้าขนหนูปิดเป้าไว้
“โอ้ะ?” ยุ่นซานเลิกคิ้วเมื่อเห็นยุ่นหลิงผ่อนคลายอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน เขาคิดว่าพ่อของเขาเป็นคนแรกที่ได้แช่น้ำพุร้อน ดูเหมือนว่ายุ่นหลิงจะเป็นคนแรกที่ได้ใช้มัน
ยุ่นหลิงสังเกตเห็นประตูถูกเปิดออก เขามองไปข้างหลังและเห็นทั้งยุ่นซานและยุ่นหว่ย
“อรุณสวัสดิ์” เขาทักทาย
“สวัสดีตอนเช้า เจ้าลูกชาย” ยุ่นซานทักทายกลับ
“โฮะโฮะ เป็นเวลานานแล้วที่เราสามคนไม่ได้อาบน้ำด้วยกัน” ยุ่นเหว่ยพูดอย่างตลกเมื่อพบหลานชายของเขาในบ่อน้ำพุร้อน
ยุ่นหลิงไม่ได้พูดอะไร ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาอาบน้ำด้วยกันคือก่อนที่เขาจะรับภารกิจลอบสังหาร นักล่าผู้ฝึกตนจากขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลางซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว พวกเขาทั้งสามชอบที่ได้เป็นคนแรกที่ใช้บ่อน้ำพุร้อนในตอนเช้าดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะได้พบกันที่บ่อน้ำร้อนในเวลาเดียวกัน ลูกพี่ลูกน้องของเขาชอบอาบน้ำตั้งแต่เช้าดังนั้นจึงไม่แปลกที่ ยุ่นหยี่เองก็จะเข้าร่วมกับพวกเขาเป็นประจำด้วย
ยุ่นซานและยุ่นเหว่ยต่างก็ไปอาบน้ำตามลำดับขณะที่พวกเขาทำความสะอาดร่างกาย หลังจากนั้นทั้งสองก็ลงไปแช่น้ำพุร้อนกับยุ่นหลิง
ยุ่นซานขมวดคิ้วหลังจากแช่ตัวลงไปในน้ำสักพัก
“ประสิทธิภาพของสมุนไพรจิตวิญญาณลดลง ดูเหมือนว่าข้าจะต้องให้คนรับใช้ไปซื้อสมุนไพรจิตวิญญาณอีกชุดสำหรับน้ำพุร้อนนี้แล้ว”
ยุ่นเหว่ยพยักหน้า เขาสังเกตเห็นว่าตอนนี้น้ำพุร้อนไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะยังสามารถทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเหมือนเมื่อวาน
ในทางกลับกันยุ่นหลิงไม่ได้สนใจมากนัก สิ่งที่สำคัญคือในที่สุดเขาก็สามารถแช่น้ำได้หลังจากผ่านมานาน ถึงแม้เขาจะต้องแช่ร่วมกับพ่อเขาหรือปู่เขา แต่เขาก็ดีใจที่สามารถได้แช่น้ำในที่สุด
“ยังไงก็ตาม เจ้าลูกชาย” ยุ่นซานเริ่มมองไปที่ยุ่นหลิง ยุ่นเหว่ยยังจ้องมองไปที่หลานชายของเขาด้วยโดยรู้ว่าลูกชายของเขากำลังจะถามอะไรจากหลานของเขา
“มีอะไรท่านพ่อ?”
“เกิดอะไรขึ้นในหุบเขาพันภูเขา”?
ยุ่นหลิงถอนหายใจ เขาดูออกจริงๆ เขาคิดว่าพ่อของเขากำลังจะถามเขาอย่างนั้น มันไม่สำคัญเลย เพราะแต่เดิมเขาจะบอกพ่อเขาหลังจากอาบน้ำแล้ว นอกจากนี้ปู่ของเขาอยู่ที่นี่ด้วย เป็นช่วงที่ดีเพราะเขาจะได้เล่าเรื่องนี้ทีเดียว
เขาถอนหายใจอีกครั้งขณะมองไปที่เพดานด้วยความสงสัยว่าเขาจะเริ่มพูดจากอะไรก่อน?
“ข้าได้พบกับเซียน” ยุ่นหลิงบอกพวกเขาตามตรง เขาคิดว่าเขาจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเซียนก่อนและตอบคำถามที่พวกเขาจะถามเขา ถ้าทำแบบนี้มันจะตอบได้ง่ายกว่าสำหรับตัวยุ่นหลิงเอง
ยุ่นซานและยุ่นเหว่ยจ้องมองเขาอย่างตะลึงสักสองสามวินาทีก่อนที่ยุ่นซานจะพูดออกมาด้วยสีหน้าแปลกๆ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
“ข้าบอกว่าข้าได้เจอกับเซียน” ยุ่นหลิงพูดอย่างใจเย็นเขารู้สึกตลกเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นพ่อเขาทำหน้าตาแบบนี้เรื่องนี้จึงค่อนข้างตลกสำหรับเขา
ปากของยุ่นเหว่ยกำลังสั่นเมื่อหลานชายของเขาพูดแบบเดียวกันอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็แน่ใจแล้วว่าเขาไม่ได้หูฟาดไปเอง
“เซียนนั่นมาอย่างสันติหรือเป็นศัตรูกับเจ้า”? ยุ่นซานถาม
“มันเป็นศัตรู ข้าโชคดีที่รอดชีวิตมาได้” ยุ่นหลิงตอบอย่างหดหู่
ยุ่นซานและยุ่นเหว่ยถอนหายใจ พวกเขาคิดไว้แล้วว่าต้องเป้นแบบนั้น ยุ่นหลิงจะไม่ทำอย่างที่เขาทำเมื่อคืนนี้ถ้าเซียนนั้นเป็นพันธมิตร ทั้งสองคนมีสีหน้าที่ซับซ้อน นี่คือสิ่งที่ต้องกังวล ในโลกนี้มีเซียนจริงๆ! ขอบเขตสูงสุดที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ในโลกนี้คือขอบเขตราชันย์ศักดิ์สิทธิ์สว่นเซียนนั้นมีขอบเขตที่สูงมากกว่านั้นหลายเท่า ในโลกพสุธานี้ใครจะไปสู้กับเซียนได้?
ยุ่นซานกำหมัดแน่น เมื่อคิดว่าลูกชายของเขาต้องเจอกับภารกิจที่มีเซียนมาเกี่ยวข้อง แม้ว่าเขาจะรอดมาได้แต่ยุ่นซานเองก็โกรธมาก
เขาลุกขึ้นจากบ่อน้ำร้อนเผยให้เห็นร่างกายทั้งหมดของเขาแก่ยุ่นเหว่ยและยุ่นหลิง
“ข้าจะไปขอฟังคำอธิบายของพระจักรพรรดิเกี่ยวกับเรื่องนี้” ยุ่นซานกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาขณะพยายามระงับความโกรธในใจ
“หยุดก่อน”! ยุ่นเหว่ยสั่งด้วยน้ำเสียงที่แข็ง “ใจเย็นๆ พระจักรพรรดิไม่ทราบเรื่องเซียนนี้ ถ้าเขารู้เช่นนั้นเขาจะไม่ส่งเจ้าหลิงไปที่หุบเขาพันภูเขาแน่นอน”
“แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไร?”
“เพราะเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเรา” ยุ่นเหว่ยอธิบายขณะที่ตะเบ็งเสียงด้วยสีหน้าที่เย็นชาเขาพูดต่อว่า “เขาไม่ใช่คนโง่ ข้าอาจไม่สามารถจัดการกับเขาได้ด้วยตัวข้าเอง แต่ถ้าเจ้าและข้าต้องเผชิญหน้ากับเขาด้วยกันเราสามารถต่อสู้กับเขาจนไล่เขาจนตรอกได้ แม้ว่ายุ่นหยินยี่จะต่อสู้ด้วยน้องชายของเจ้านั้นก็ยังสามารถจัดการกับเขาได้ “
ยุ่นซานถอนหายใจ เขาโกรธมากเกินไปจนไม่นึกถึงสิ่งต่างๆ เมื่อเขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เข้าใจในสิ่งที่พ่อของเขาพยายามจะพูด
“เขาจะไม่ได้อะไรถ้าเขาเป็นศัตรูกับเรา ถ้าเขาต้องการกำจัดเจ้าหลิงจริงๆเขาคงหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้”
“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพ่อ”
“ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่มีคำตอบให้เจ้าหลิง” ยุ่นเหว่ยมองไปที่หลานชายของเขา “แม้ว่าจะมีการปรากฏตัวของเซียนอย่างคาดไม่ถึงในหุบเขาพันภูเขา แต่เจ้าก็ทำภารกิจสำเร็จใช่หรือไม่?”
ยุ่นหลิงส่ายหัว เขาไม่เห็นอสูรตัวอื่นที่นั่นด้วยซ้ำนอกจากหมาป่าเขี้ยวหิมะและลูกชายของมันไม่มีทางที่เขาจะทำได้สำเร็จ
“ไปหาจักรพรรดิ อธิบายทุกอย่างกับเขาและบอกเขาว่าเจ้าทำภารกิจสำเร็จ อย่างน้อยที่สุดนั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าทำได้เพื่อเขา นั่นถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการนำข้อมูลที่มีค่ามาให้เขา ข้อมูลนี้มีค่ามากกว่าศพของงูยักษ์สามหัวเสียอีก” ยุ่นเหว่ยสั่งหลานชายของเขาแล้วหลับตาขณะที่เขาผ่อนคลายในน้ำ
ยุ่นซานจ้องไปที่พ่อของเขาสองสามวินาที ชายชราติ๊งต๊องคนนี้น่าจะทำตัวแบบนี้ตลอดเวลาแทนที่จะทำตัวเป็นเด็ก มันคงจะดีมากต่อตัวเขาเองแล้วสุขภาพจิตของเรา
“เข้าใจแล้ว”