เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 67
บทที่ 67 ด้วยความยินดี
“ขอบคุณมากครับท่าน” เด็กยกาจนเหล่านั้นพูดพร้อมกันขณะที่พวกเขาโค้งคำนับยุ่นหลิง
“ไม่เป็นไรหรอก” ยุ่นหลิงโบกมือให้พวกเขาอย่างใจเย็น
เหตุผลที่เด็กเหล่านี้รู้สึกขอบคุณยุ่นหลิงก็คือเขาซื้อไอศกรีมให้แต่ละคนพร้อมกับลูกสาวในร้านขายขนม พวกเขาได้ยินว่าไอศกรีมมีรสหวานและอร่อย แต่ครอบครัวของพวกเขาไม่มีเงินซื้อไอศกรีมเลยจริงๆ มันเป็นอาหารที่หรูหราสำหรับคนรวยเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ลิ้มรสและมันคือรสชาติของสวรรค์
เด็กๆพวกนั้น รู้สึกว่ามันน่าขบขันและตกต่ำ เมื่อพวกเขาเข้าไปในร้านครั้งลูกจ้างในร้านพยายามจะไม่ให้เด็กเหล่านี้เข้าแล้วไล่ออกมา แต่ก็ต้องตกใจแล้วกลัวหัวหดเมื่อรู้ว่า เด็กเหล่านี้มากับยุ่นหลิง
นี่เป็นเพียงการแสดงให้เห็นว่าผู้คนจะยอมก้มหัวให้คนมีอำนาจอย่างง่ายๆ และดูถูกคนที่ต่ำกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น แต่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบนั้นกันหมด
แม้แต่เด็กชายที่มีทัศนคติแข็งกร้าวก็เงียบลงในขณะที่เขาชิมไอศกรีมของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุดในบรรดาเพื่อนของเขา แต่เขาก็ยังเป็นเด็ก เช่นเดียวกับเด็กในกลุ่ม เขาต้องการลิ้มรสไอศกรีมและทำสิ่งต่างๆ ที่มีแต่เด็กที่ร่ำรวยเท่านั้นที่ทำได้
“ขอบคุณครับท่าน” เขาพึมพำ เขินเล็กน้อยที่จะขอบคุณยุ่นหลิงหลังจากหยาบคายกับลูกสาวของเขา
ยังไงก็ตามยุ่นเซี่ยไม่สนใจการกระทำของเขา เธอเพียงแค่ยิ้มให้เขาเมื่อได้ยินคำขอบคุณของเขาและพูดว่า “ท่านพ่อดีที่สุดเลย!”
เด็กชายกลอกตามาที่เธอ
ยุ่นเซี่ยและคนอื่นๆ เริ่มกินไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาทั้งหมดก็กินไอศกรีมจนหมด ทำให้พวกเขากลับมาหดหู่เล็กน้อย แต่ความสุขของพวกเขากลับมาอีกครั้งเมื่อยุ่นหลิงซื้อไอศกรีมอีกชุดให้พวกเขาอีกครั้ง
หยื่อตงเหม่ยยู่ข้างๆ มองยุ่นหลิงที่กำลังเลียไอศกรีมของเขาอย่างเย้ายวน เธอไม่รู้ว่าเขาจงใจทำหรือไม่ แต่มันทำให้เธอเสียสมาธิ
เมื่อรู้สึกว่ามีคนจ้องมองเขา ยุ่นหลิงจึงหันไปหาหยื่อตงเหม่ย และรู้ว่าเธอจ้องมองมาที่เขา
“อะไร? เจ้าอยากกินด้วยงั้นหรือ? เขาถามขณะมองเธออย่างสงสัย เขาเสนอที่จะซื้อไอศกรีมให้เธอก่อนหน้านี้ แต่เธอปฏิเสธแล้วทำไมเธอถึงมองเขาแบบนั้น?
หยื่อตงเหม่ยละสายตาจากเขา ไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเขา
ยุ่นหลิงทำแค่เพียงส่ายหัว จากนั้นเขามองไปที่เจ้าเขี้ยวหิมะและลูกราชสีห์ราชาที่รออยู่ข้างนอก เฝ้าร้าน พวกเขาไม่ต้องการเข้ามาเพราะไม่ชอบอาหารหวาน เพราะพวกเขาไม่สามารถรับรสแบบนี้ได้
“ท่านครับ พวกเขาจะไม่ตามพวกเราอีกแล้วจริงๆ หรือ?” เด็กชายถายุ่นหลิง เขาทำเพื่อให้แน่ใจว่าจะให้เกียรติเขามากแม้ว่ายุ่นหลิงจะดูเหมือนผู้หญิง แต่ทุกคนที่พวกเขาเจอบนถนนดูเหมือนจะเกรงกลัวหรือกลัวเขา
เห็นชัดได้ทันทีว่าคนๆนี้เป็นคนที่ทรงอำนาจมาก
ยุ่นหลิงมองมาที่เขา เด็กคนนี้มีความฉลาด ต่างจากเพื่อนของเขาที่ไร้เดียงสาเกินไป เด็กชายคนนี้ตระหนักในทันทีว่าความช่วยเหลือจากยุ่นเซี่ยอาจนำหายนะมาสู่พวกเขาในทันที เด็กคนนี้ดูเหมือนจะอายุประมาณแปดขวบ แต่เขาก็ยังมีความคิดเฉียบแหลมขนาดนี้ เขาเป็นคนที่น่าสนใจมาก
เขาหยิบตราสัญลักษณ์จากแหวนเก็บของแล้วมอบให้เด็กคนนั้น ตราสัญลักษณ์ทำด้วยทองคำและมีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมคว่ำ สลักสัญลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลยุ่นซึ่งเป็นรูปก้อนเมฆ
สมาชิกคนสำคัญจากตระกูลใดๆก็ตาม จะมีตราสัญลักษณ์แทนตระกูลของพวกเขา โดยการให้สัญลักษณ์ของตระกูลยุ่นแก่เด็ก นั่นคือยุ่นหลิงแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลของพวกเขา หากคนอื่นยังกล้าทำร้ายพวกเขาหลังจากที่รู้ว่าตระกูลยุ่นกำลังคุ้มครองอยู่อยู่ นั่นจะเป็นการหาเรื่องผิดคนทันที
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สัญลักษณ์นี้ควรมอบให้กับคนที่มีค่าควรเท่านั้น มิฉะนั้น พวกเขาอาจใช้อำนาจในทางที่ผิด
“นี่คืออะไร?” เด็กชายถามด้วยความสงสัยเมื่อได้รับตราสัญลักษณ์ ในฐานะที่เป็นคนชั้นต่ำ เขาไม่รู้ความหมายที่อยู่เบื้องหลังสัญลักษณ์นี้ ถ้าเขารู้ เขาจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
“แสดงสิ่งนี้ให้ใครก็ตามที่พยายามทำร้ายเจ้า พวกเขาจะปล่อยเจ้าไป หากไม่เป็นเช่นนั้นแสดงว่าพวกเขากำลังไม่อยากอยู่ยนโลกใบนี้” ยุ่นหลิงพูดอย่างเย็นชา ทำให้เด็กคนนี้เสียวสันหลังวาบในทันที ผู้ชายหน้าตาดีคนนี้น่ากลัวมาก
สิ่งที่ยุ่นหลิงพูดก็ไม่ต่างจากคำขู่ที่พวกขุนนางมักพูดกับพวกเขา แต่ทำไมมันถึงน่ากลัวเมื่อมาจากปากของชายผู้นี้? เป็นเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่หรือไม่?
ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นแน่ มันเป็นเพราะว่าเขาไม่เหมือนกับพวกเด็กเหล่านั้น ผู้ชายคนนี้จะทำในสิ่งที่เขาพูดอย่างแน่นอน เขาไม่ได้แค่โอ้อวด คำพูดที่เขาพูดเป็นความจริง
เด็กชายจ้องมองตราสัญลักษณ์ ของสิ่งนี้ดูเหมือนจะมีราคาแพง ถ้าเขาขายมัน บางทีเขาอาจจะได้รับเงินเป็นจำนวนมากจากมัน เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าของสิ่งนี้จะทำให้เด็กเหล่านั้นไม่กล้ายุ่งได้อย่างไร แต่ถ้ายุ่นหลิงพูดแบบนั้น เขาจะเก็บมันไว้กับเขา
“เฮ้” เด็กชายเรียกยุ่นเซี่ย เรียกความสนใจจากเธอ
“หืม?” ยุ่นเซี่ยหยุดกินไอศกรีมของเธอขณะที่เธอหันไปหาเด็กชาย
ความลังเลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาอาย เขาไม่อยากทำจริงๆ แต่เขาต้องทำ เขารวบรวมความกล้าและพูดกับเด็กหญิงตัวเล็กๆว่า “ข้าขอโทษสำหรับเรื่องก่อนหน้านี้ ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่แทนที่จะขอบคุณ ข้ากลับทำตัวหยาบคายใส่นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องขอโทษ! และขอบคุณมากที่ช่วยพวกเราไว้!”
เขาก้มศีรษะให้เธอหลังจากพูดเสร็จ
ยุ่นเซี่ยประหลาดใจกับการกระทำของเด็กชายคนนี้ แต่เธอก็หัวเราะเบาๆ
“ด้วยความยินดี!”