เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 68
บทที่ 68 เหลา ยู่ตง
ทันใดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงจิ้งจอกเขี้ยวหิมะซึ่งนั่งอยู่นอกร้านขนมคำรามเสียงดัง ยุ่นหลิงมองออกไปข้างนอกและเห็นจิ้งจอกมีท่าทางป้องกันตัวเองขณะที่มองดูผู้คนที่มาจากที่อื่นอย่างหงุดหงิด
“สัตว์ร้ายตัวนั้นท่านพี่! มันเกือบจะทำร้ายข้า! ข้าโชคดีที่สามารถหนีไปได้!” เด็กตัวเล็กๆตะโกนใส่พี่ชายของเขาขณะที่ชี้ไปที่จิ้งจอก
ยุ่นหลิงจำเด็กคนนั้นได้ เขาเป็นหนึ่งในคนที่เคยรังแกเด็กยากจนมาก่อน ปรากฎว่าเด็กเหลือขอคนนั้นเรียกพี่ชายของเขามาเพื่อขอความช่วยเหลือ
และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่พวกอันธพาลคนอื่นๆ ก็อยู่ที่นี่พร้อมกับพี่น้องของพวกเขาด้วย
ยุ่นหลิงหันไปหาเด็กๆและบอกพวกเขาว่า “พวกเจ้าอยู่ที่นี่ อย่าออกมาจนกว่าว่าข้าจะให้ออกมา เซี่ยๆหนูก็ด้วย”
เด็กๆพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง พวกเขาไม่ต้องการบังคับยุ่นหลิงมากเกินไป ในทางกลับกัน ยุ่นเซี่ยขมวดคิ้ว แต่เธอก็เชื่อฟังพ่อของเธอ
“ดีมาก” ยุ่นหลิงลูบหัวลูกของเขาก่อนจะออกไปข้างนอก
ขณะที่ยุ่นหลิงกำลังพูดกับลูกสาวของเขา ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันนอกร้านขนมแล้วมองดูพวกขุนนางที่เผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย แม้ว่าพวกเขาจะเฝ้าสังเกตพวกมันอยู่ แต่พวกเขาก็รักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้ถูกลูกหลงง่ายๆหากมีการต่อสู้ขึ้นมา
“ท่านพี่! ท่านต้องนำเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ไปตัดสินนะ! มันกล้าดียังไงที่มาขู่พวกข้า?”
น้องชายของคนๆนั้นมองจิ้งจอกด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว แม้ว่าน้องชายของเขากำลังบอกให้เขาโจมตีหมาป่า แต่เขารู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น จะปล่อยให้สัตว์ร้ายแบบนี้ท่องไปในเมืองหลวงได้อย่างไร? หากมีสัตว์ร้ายตัวอื่นๆที่บังเอิญมาโผล่ที่นี่ พวกคนที่รักษาความปลอดภัยจะโจมตีมันทันที การที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรกับมันหมายความว่านี่ไม่ใช่สัตว์ร้ายทั่วไป มันต้องมีเจ้าของไม่ใครก็ซักคนนึงในบริเวณนี้
ดาบเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในมือของเขา แม้ว่าจิ้งจอกตัวนี้อาจเป็นของใครบางคน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าสัตว์ร้ายตัวนี้เป็นศัตรูกับพวกเขา เขาต้องเตรียมพร้อมในกรณีที่มันโจมตีพวกเขา
“ยู่ตง พวกเราควรทำอย่างไร”? พี่ชายของเด็กอีกคนหันมาถามเขา
“ชักดาบของเจ้าออกมา แต่อย่างพึ่งอย่าทำอะไร แค่ให้เราเตรียมพร้อมถ้าสัตว์ร้ายตัวนี้จะโจมตีเข้ามา”
พวกเขาทำตามที่ยู่ตงพูดและชักดาบออกมา เมื่อเป็นแบบนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ขยับตัวและรอเพียงให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว
จิ้งจอกเขี้ยวหิมะคำราม เขาสามารถบดขยี้มนุษย์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหว เขากำลังรอคำสั่งของยุ่นหลิงก่อนที่จะโจมตี เขาอาจจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขารู้ขนบธรรมเนียมของมนุษย์ เขาต้องไม่โจมตีเข้าไปก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาอยู่ในอาณาเขตของมนุษย์ ถ้ามันทำแบบนั้น มันจะถูกรุมโจมตี
“เขี้ยวหิมะ ถอยไป” เสียงของยุ่นหลิงดังออกมาจากภายในร้าน ดึงความสนใจของผู้คนไปที่นั่น
“เข้าใจแล้ว” จิ้งจอกเขี้ยวหิมะพูดโดยส่งกระแสจิตออกไปในขณะที่มันถอยถอยหลังไปสองสามก้าวและสงบนิ่งต่อหน้าคนที่เข้ามาจะทำร้ายมัน
“เสียงนั้น” หัวหน้ากลุ่มของคนที่จะมาหาเรื่องนั้นมองที่ทางเข้าร้านด้วยสายตาที่ระแวง เขาจำเสียงนั้นได้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเขา
ประตูค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นรูปโฉมที่งดงามราวกับอยู่คนละโลกที่สวมชุดฮันฟูสีขาวล้วน ด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดและไม่มีมลทิน เสริมด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นของเขา ในขณะนั้น ยุ่นหลิงดูเหมือนเทพสวรรค์ที่ลงมายังโลกของพวกเขา
“เป็นเขาจริงๆ” สายตาของหัวหน้ากลุ่มนั้นเย็นชาเมื่อเห็นยุ่นหลิง
ยุ่นหลิงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายของเด็กคนหนึ่ง เป็นคนที่เขารู้จักมานานแล้ว
“เอาล่ะนอกจากเหลายู่ตง พวกเจ้ามีธุระอะไรกับเพื่อนของข้ารึ”? แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ แต่ยุ่นหลิงก็ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา เขามองที่เหลายู่ตงด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา เขาคิดว่ามันน่าตลกเนื่องจากเพื่อนเก่าของเขาอยู่ที่นี่
คนอื่นๆคงจะหวาดกลัวได้ง่ายเมื่อเผชิญหน้ากับยุ่นหลิง แต่เหลายู่ตงมองไปที่ยุ่นหลิงอย่างไม่เกรงกลัว
เหลายู่ตงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “สัตว์ร้ายตัวนี้คือเพื่อนของเจ้ารึ? ยุ่นหลิง เจ้าไม่รู้หรือว่าสัตว์ร้ายทั่วไปไม่สามารถเดินเตร่ไปทั่วเมืองหลวงได้? คิดถึงคนอื่นๆบ้างไหม? เจ้าจะทำอย่างไรเมื่อมันโจมตีใครบางคน? เจ้าจะรับผิดชอบไหม”?
“เพื่อนของข้าที่นี่อาจเป็นสัตว์ร้าย แต่มันจะไม่โจมตีใครเด็ดขาด” ยุ่นหลิงพูดอย่างหนักแน่น แล้วพูดเสริมด้วยรอยยิม้ว่า “มันน่ะฉลาดกว่านั้น มันฉลาดกว่าเจ้าอีกนะ…”
“เฮ้ย?!” เหลายู่ตงจ้องมองไปที่เขาในขณะที่กำหมัด เขากล้าดียังไงที่บอกว่าสติปัญญาของเขาต่ำกว่าสัตวร้ายตัวนี้?
“ท่านพี่?” น้องชายคนเล็กของเขามองเขาด้วยความเป็นห่วง ดูเหมือนว่าชายหน้าตาสวยงามคนนี้จะเป็นคนที่รับมือได้ยาก มิฉะนั้น พี่ชายของเขาคงจะโจมตีเขาทันที
ยุ่นหลิงกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “อย่างน้อยที่สุดเจ้าเขี้ยวหิมะก็รู้วิธีเลือกคู่ต่อสู้ของมัน มันจะไม่ทำร้ายกับคนที่มันรู้ว่าเขาไม่มีโอกาสชนะเว้นแต่มันไม่มีทางเลือก มันไม่เหมือนคนแถวๆนี้ที่ทะเลาะกับข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่แพ้ให้กับข้าหลายสิบครั้งแล้ว”
เหลายู่ตงกัดฟันกรอดๆในขณะที่ยุ่นหลิงพูดถึงความพ่ายแพ้ในอดีตของเขาในการสนทนาของพวกเขา เขาเกลียดยุ่นหลิงมากกว่าสิ่งใดๆ
ยุ่นหลิงเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ ขณะที่เขาเริ่มพูด “บอกข้าทีเหลายู่ตง ทำไมเจ้าถึงตามหาเรื่องข้ามาตลอด ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีโอกาส? บางทีเจ้าอาจเป็นพวกสมองกลวงเจ็บแล้วไม่จำนะ?” ยุ่นหลิงหยุดฝีเท้าเมื่ออยู่ข้างเขา “เจ้าสนุกกับการโดนข้าแกล้งมากขนาดนั้นเลยเหรอ? มันน่าสนุกมั้ย? หรือสติของเจ้ามันเพี้ยนไปหมดแล้ว? ฮึ บอกข้าหน่อยได้ไหม”?
ยุ่นหลิงเอื้อมมือออกไปที่ไหล่ของเขา เมื่อมือของเขากำลังจะแตะไปที่ไหล่ เหลายู่ตงก็ปัดมันออกไป
“ข้าดีใจที่เจ้ากลับมาหลังจากภารกิจของเจ้ายุ่นหลิง ไว้ข้าจำเอาคืนในการคัดเลือกมังกรทอง” เหลายู่ตงพูดพร้อมกับหายใจเข้า จากนั้นเขาก็มองไปที่น้องชายคนเล็กของเขาและเพื่อนคนอื่นๆ” ไปกันเถอะ!”
ยุ่นหลิงทำเพียงส่ายหัวให้เขา
“ข้ามีหลายสิ่งที่ต้องจัดการในการคัดเลือกมังกรทอง แต่ดีแล้ว ข้าจะรอเจ้า ให้แน่ใจว่า เจ้าจะไม่พ่ายแพ้ให้กับคนอื่นก่อนจะมาเจอข้า ไม่เช่นนั้นมันคงหน้าอายมากเลยๆล่ะ”
“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ข้าแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้สู้กับเจ้า!” เหลายู่ตงพูดด้วยความมั่นใจก่อนที่จะออกไปจากบริเวณหน้าร้านขนมนั้น