เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 73
บทที่ 73 ยุ่นซานโกรธหนัก
จักรพรรดิมีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่ออยู่ต่อหน้ากับหัวหน้าตระกูล นายพล และคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตคนอื่นๆของจักรวรรดิ ซึ่งต่างก็นั่งบนที่นั่งของตนที่โต๊ะกลมขนาดใหญ่
เมื่อหลายวันก่อนยุ่นซานหัวหน้าของตระกูลยุ่นได้แจ้งเขาว่า ยุ่นหลิงลูกชายของเขาได้พบเจอกับเซียนในหุบเขาพันภูเขา เห็ดได้ชัดว่ามันพยายามโจมตียุ่นหลิง อันที่จริงเขาพูดได้เต็มปากเลยว่ายุ่นหลิงโชคดีมากที่หนีออกมาจากที่นั่นได้ และเพื่อนๆของเขาก็โชคดีที่รอดจากการเผชิญหน้ากับเซียนในครั้งนั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาได้เริ่มในรอบที่สองเหมือนอีก2คนที่เหลือ แม้ว่าเขาทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่เขาก็ต้องรับผิดด้วยเพราะเป็นภารกิจที่ทำให้ยุ่นหลิงต้องพบเจอกับประสบการ์ณเสี่ยงตายแบบนั้น แม้จะเป็นการสุ่มเลือกภารกิจก็ตาม
ไม่ผิดที่ยุ่นหลิงทำภารกิจล้มเหลวเพราะเด็กอย่างเขาจะทำอะไรกับเซียนได้? เว้นแต่เขาต้องหนีและละทิ้งภารกิจของเขาเมื่อเผชิญหน้ากับเซียนตนนั้น อันที่จริงตัวเขาเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะหนีจากเงื้อมมือของมันได้ ดังนั้นเขาจึงให้ยุ่นหลิงผ่านเป็นรางวัลที่สามารถหนีจากเซียนได้
นับตั้งแต่ยุ่นซานได้แจ้งให้เขาทราบถึงการมีอยู่ของเซียนในหุบเขาพันภูเขา เขามักจะพบปะกับบุคคลเหล่านี้ทุกวันเพื่อจัดการกับสถานการณ์นี้เพราะเขามั่นใจว่าไม่ช้าก็เร็ว โลกพสุธาอาจต้องพบเจอกับหายนะบางอย่างจากเรื่องนี้ หุบเขาพันภูเขาอาจอยู่ไกลจากอาณาจักรของพวกเขา แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็หนีไม่กับหายนะที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ถึงตอนนี้ นิกายที่อยู่รายรอบในหุบเขาพันภูเขาต้องเข้าตรวจสอบสถานที่นั้นแล้ว ข่าวเกี่ยวกับเซียนจะส่งไปถึง นิกายบัญญัติสวรรค์ ในไม่ช้า”
“เราควรแจ้งนิกายบัญญัติสวรรค์ด้วยตัวเองไม่ดีกว่าหรือ? พวกเขาเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกพสุธา พวกเขาจะต้องไม่พอใจแน่นอนเมื่อรู้ว่าเรารู้เรื่องเซียนแล้ว แต่เราไม่ได้แจ้งให้พวกเขาทราบ”
“อย่าโง่น่ะ! เราไม่ควรแจ้งพวกเขาไม่ว่าจะยังไงก็ตาม! ถ้าพวกเราทำแบบนั้น เราจะดึงดูดความสนใจโดยไม่จำเป็นให้กับตัวเราเอง! พวกเราจะเป็นจุดสนใจทันทีเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น! ใครจะรู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร? พวกเขาอาจสั่งให้เราเป็นหัวหอกเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับเซียนเพราะเรารู้เรื่องนี้มากที่สุด!”
“เขาพูดถูก สิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องและแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”
จักรพรรดิหลับตาขณะฟังข้อโต้แย้งของพวกเขา แต่ละคนมีประเด็น อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่เขาจะปฏิบัติตามนั้นเป็นสิ่งที่เขายังไม่ได้ตัดสินใจ
“ทำเป็นไม่รู้เรื่องงั้นรึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าผลที่จะเกิดขึ้นภายหลังหาก นิกายบัญญัติสวรรค์ รู้ว่าเรากำลังซ่อนข้อมูลสำคัญนี้ไว้จะเป็นอย่างไร? พวกเขาอาจบุกโจมตีอาณาจักรของเราได้ทุกเมื่อ!และพวกเราทุกคนจะพบกับการล่มสลายเพราะพวกเราไม่สามารถต่อกรได้เลยแม้แต่น้อย! เราควรบอกนิกายบัญญัติสวรรค์ในเรื่องนี้ และบางทีเราอาจได้รับคุ้มครองที่ดีจากพวกเขา!”
“ลูกชายของยุ่นซานเป็นคนที่ชักนำเรื่องแบบนี้มาให้เรา! เราควรส่งตัวเขาให้นิกายบัญญัติสวรรค์และไม่ให้มายุ่งกับเรื่องนี้!” หนึ่งในศัตรูทางการเมืองของยุ่นซานใช้โอกาสนี้เพื่อเล่นงานเขา
“โอหังนัก! บอกมาเจ้าว่าอยู่ฝ่ายไหนกันแน่! เจ้าภักดีต่อ จักรวรรดิจิ๋น หรือ นิกายบัญญัติสวรรค์กันแน่! เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าส่งคนของพวกเราไปแบบนั้น! เจ้ารู้จักความละอายใจบ้างหรือไม่!” พันธมิตรของยุ่นซานปกป้องเขาอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนสถานการณ์ในห้องนี้อย่างฉับพลัน
ยุ่นซานมองไปที่ชายคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ตลอดการสนทนาทั้งหมด เขายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่เลือกที่จะฟังพวกเขา แล้วผู้ชายคนนั้นกล้าดียังไงที่แนะนำให้ส่งลูกชายของเขาไปที่นิกายบัญญัติสวรรค์?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นิกายบัญญัติสวรรค์ ได้แสดงความสนใจต่อตัวยุ่นหลิงมาโดยตลอด เนื่องจากการเติบโตที่ผิดปกติของเขา นิกายนั้นยังส่งคนไปยังตระกูลของพวกเขาและได้พูดอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการรับยุ่นหลิงไปเป็นศิษย์ของพวกเขา จริงๆมันควรเป็นเรื่องที่ดี การเป็นศิษย์ของนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกพสุธาเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ยุ่นซานไม่ยินดีเลย เป็นเพราะเขารู้เจตนาที่แท้จริงของพวกเขา พวกเขาตามหาบางสิ่งที่มีเพียงยุ่นหลิงเท่านั้นที่ครอบครองมันอยู่
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของยุ่นหลิง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่านิกายบัญญัติสวรรค์รู้ความลับนั้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาตัดสินแค่เพียงภายนอกในเรื่องที่เกี่ยวกับลูกชายของเขา เขาไม่อาจไว้ใจนิกายบัญญัติสวรรค์ได้เลย
“เจ้ากล้ามากนะ อยากตายมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ยุ่นซานถามขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชายคนนั้นอย่างดุดัน ความกดดันของเขาระเบิดออกมา สร้างความเย็นวาบไปยันสันหลังของคนที่อยู่รอบๆเขา
ยุ่นซานอาจเป็นหนึ่งในบรรดาปรมาจารย์จากหลายตระกูลที่นี่ แต่แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ เขาเป็นรองแค่จักรพรรดิและอีกสองสามคนอย่างแน่นอน
คนที่แนะนำให้ส่งยุ่นหลิงไปยังนิกายบัญญัติสวรรค์ทรุดตัวลงกับพื้น เขาไม่ได้คิดว่ายุ่นซานจะกล้ามีเรื่องกับเขาต่อหน้าจักรพรรดิ เหตุผลเดียวที่ทำให้เขากล้าเสนอแบบนั้นคือเขาคิดว่า ยุ่นซานจะไม่ทำอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิที่นี่ ปรากฎว่าเขาคิดผิด!
“ยุ่นซาน” จักรพรรดิเรียกเขาออกมา
ยุ่นซานถอนหายใจออกมาในขณะที่เขากลั้นออร่าไว้ “ครั้งต่อไปที่เจ้าพูดอะไรแบบนั้นอีกครั้ง ข้าจะฆ่าคุณแม้ว่าองค์จักรรพรรดิจะอยู่ต่อหน้าข้า”
ชายผู้นั้นไม่ได้พูดอะไรและศัตรูทางการเมืองอื่นๆของยุ่นซานก็เช่นกัน ผู้ชายคนนี้ทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ และพวกเขากลัวที่จะเป็นแบบนั้น
ส่วนจักรพรรดิในตอนนี้…
สิ่งที่ยุ่นซานพูดอาจเป็นการทำลายอำนาจของเขาในฐานะจักรพรรดิ แต่จักรพรรดิไม่ใส่ใจคำพูดของเขา ยุ่นซานได้แสดงให้เขาเห็นแล้วโดยเขาหยุดลงเมื่อถูกเรียกชื่อของเขา หากชายผู้นั้นทำให้ยุ่นซานโกรธอีกครั้ง แสดงว่าเขาไม่สามารถห้ามอะไรได้อีกแล้ว เขาอาจจะสามารถหยุดยุ่นซานได้ แต่เขาก็จะได้รับความเป็นปฏิปักษ์จากตระกูลยุ่นและพันธมิตรของพวกเขา มันไม่คุ้มเลยที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลที่เป็นเหมือนเสาหลักของจักรวรรดิ
จักรพรรดิมองคนๆนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“จริงหรือ ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เจ้ายังคงคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่งั้นหรือ”? จักรพรรดิก็มองคนอื่นๆที่เหลือ “เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เลย พวกเจ้ามันจะนึกถึงประโยชน์สูงสุดของจักรวรรดิเสมอ อะไรทำให้เจ้ากลายเป็นแบบนี้? ความโลภงั้นรึ? ข้าผิดเองที่มอบหมายตำแหน่งสำคัญให้กับเจ้าหรือเปล่า”?
จักรพรรดิอาจไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่ผู้คนที่นั่นรู้ว่าเขากำลังพูดถึงใคร เกือบทุกคนก้มหน้าลง รู้สึกละอายใจที่ต้องเผชิญหน้าจักรพรรดิหลังจากที่พระองค์ตรัสคำเหล่านั้น
“อีกครั้งที่การประชุมครั้งนี้เป็นการเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์เหมือนเมื่อวาน เราจะเสียเวลาแบบนี้ต่อไปในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป ถ้าพวกเจ้าทุกคนยังทำตัวแบบนี้” จักรพรรดิกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“การประชุมครั้งนี้ถูกยกเลิก พวกเจ้าทุกคนออกไปได้แล้ว”!